Rolex Datejust ความคลาสสิก ที่ข้ามผ่านทุกกาลเวลา

Rolex Datejust ความคลาสสิก ที่ข้ามผ่านทุกกาลเวลา

Rolex Datejust ความคลาสสิก ที่ข้ามผ่านทุกกาลเวลา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นาฬิกา Rolex Datejust นับว่าเป็นนาฬิกาต้นแบบความคลาสสิกของ Rolex สร้างขึ้นครั้งแรกในปีค.ศ. 1945 ถือเป็นนาฬิกาข้อมือโครโมนิเตอร์เรือนแรก โดยมีวันที่แสดงอยู่ที่เลข 3 นาฬิกา และเป็นที่มาของชื่อรุ่นนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบัน นาฬิกา Rolex Datejust มีจำหน่ายถึง 3 ขนาด คือหน้าปัด 31, 36 และ 41 โดยหน้าปัดและสายของแต่ละเวอร์ชันจะมีความน่าสนใจ และมีลูกเล่นแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น สี ลวดลายของหน้าปัด วัสดุที่ใช้ การดีไซน์ของสาย โดยเอกลักษณ์เฉพาะของนาฬิการุ่นนี้อยู่ที่ Cyclops Lens ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนาฬิการุ่นนี้ไปโดยปริยาย

6 เสน่ห์แห่ง Rolex Datejust ความสง่างามอันแสนคลาสสิก
หลายคนอาจจะสงสัยว่า Rolex Datejust มีการดีไซน์ และคุณสมบัติทางเทคนิคอะไรบ้าง บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับวัสดุ ตัวเรือน ว่ามีความพิเศษ และน่าสนใจอย่างไร

1. ตัวเรือน Oyster
สำหรับตัวเรือน Oyster กันน้ำของ Rolex ถือเป็นเรือนแรกของโลก ที่ได้จดสิทธิบัตรระบบการขันสกรูยึดขอบกับด้านหลังของตัวเรือน เม็ดมะยม และตัวเรือนตรงกลาง Monobloc โดยตัวเรือนได้สัดส่วนอย่างสมบูรณ์แบบ และเข้ากันได้อย่างยอดเยี่ยม นับว่าเป็นสัญลักษณ์ความทนทาน และการกันน้ำ และนาฬิกา Rolex Datejust ยังสามารถกันน้ำได้ถึง 100 เมตร หรือ 330 ฟุต เลยก็ว่าได้

2. Perpetual
แม้ว่าภายกลไกการทำงานของ Perpetual จะไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก เพราะถูกซ่อนอยู่ภายในตัวเรือน และผู้ที่เปิดดูส่วนนี้ได้ต้องใช้เครื่องมือพิเศษเท่านั้น แต่วัสดุที่ใช้แต่ละชิ้นจะถูกประกอบเข้าด้วยกันอย่างประณีต แม้กระทั่งหัวสกรูจะถูกขัดจนขึ้นเงา และขอบทั้งหมดจะเป็นมุมเอียงได้รูป ทำให้กลไกการทำงานภายในมีสมรรถนะ และเที่ยงตรงสูง นั่นเอง  

3. ขอบหน้าปัดแบบเซาะร่อง
เดิมทีร่องบนขอบหน้าปัดของตัวเรือน Oyster มีวัตถุประสงค์เพื่อการใช้งาน ทำหน้าที่ยึดขอบหน้าปัดกับตัวเรือน เพื่อประสิทธิภาพในการกันน้ำของนาฬิกา Rolex Datejust ดังนั้นขอบด้านหน้าตัวเรือนจึงเหมือนกับด้านหลังตัวเรือน ซึ่งต้องใช้เครื่องมือพิเศษเฉพาะของ Rolex ในการยึดเข้าด้วยกัน

4. เลนส์ Cyclops
สำหรับเลนส์ Cyclops ถือเป็นจุดเด่นของ Rolex Datejust โดยที่มาชื่อมาจากยักษ์ตาเดียวในเทวตำนานของชาวกรีก โดยตัวเลนส์ทำจากแซฟไฟร์ป้องกันรอยขีดข่วนแบบเดียวกับที่ใช้ทำคริสตัล และยังมีระบบเคลือบป้องกันการสะท้อนถึงสองชั้น เพื่อความชัดเจนพิเศษเวลามองวันที่นั่นเอง

5. Superlative Chronometer
 
ถือว่าเป็นรูปแบบการทดสอบของโรงงาน Rolex ที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง โดยหลังจากที่มีการทดสอบความเที่ยงตรงระดับมาตรฐาน COSC แล้ว นาฬิกาจะถูกนำมาทดสอบซ้ำอีกรอบโดยผู้เชี่ยวชาญของ Rolex อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น ทดสอบการกันน้ำ การทำงานของกลไก ระบบขึ้นลานอัตโนมัติ ความเที่ยงตรงของกลไกที่ทำงานตามแรงดึงดูดของโลก เป็นต้น

6. Oystersteel
Oystersteel อัลลอยด์ นับว่าเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบเฉพาะของ Rolex และยังเป็นวัสดุสำคัญของนาฬิกา Rolex Datejust โดยตัว Oystersteel เป็นส่วนหนึ่งของสเตนเลสสตีล 904L มีความทนทานต่อการสึกกร่อนสูง และยังให้ความเงางามเป็นพิเศษเมื่อขัด โดยส่วนใหญ่วัสดุชนิดนี้จะใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ และอุตสาหกรรมทางเคมี เพราะมีคุณสมบัติในการป้องกันการสึกกร่อนสูงเมื่อเทียบกับโลหะชนิดอื่นนั่นเอง

หลังจากที่อ่านบทความนี้จบ หลายๆ คนก็คงจะได้เข้าใจถึงเสน่ห์ของนาฬิกา Rolex Datejust จากแบรนด์ Rolex ซึ่งทำให้เป็นรุ่นที่นักสะสมไม่ควรพลาด เพราะได้รับการออกแบบอย่างประณีต ทั้งรูปลักษณ์ที่ดูสวยงาม และคลาสสิกเหนือกาลเวลา รวมถึง ทุกชิ้นส่วนของระบบกลไก เพื่อให้สามารถบอกเวลาได้อย่างเที่ยงตรง และสามารถใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ลองมาสัมผัสโลกของโรเล็กซ์ที่จะทำให้คุณหลงใหลไปกับความสง่างามเหนือกาลเวลาที่โรเล็กซ์บูติก เพนดูลัม (Pendulum) ตัวแทนจำหน่าย Rolex อย่างเป็นทางการ คัดสรรและรวบรวมเรือนเวลาสุดหรูหราประณีตมาไว้ในที่เดียวเพื่อคุณ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook