นกเขาไม่ขัน กับสัญญาณภาวะ E.D. ปัญหาสุขภาพผู้ชายที่ต้องรีบแก้
นกเขาไม่ขัน สามารถเกิดขึ้นได้แม้ในวัยหนุ่ม โดยผู้ชายอายุตั้งแต่ 25 – 35 ปี มีโอกาสจะเจอภาวะนกเขาไม่ขันได้ประมาณ 8% ของประชากร และเพิ่มมากขึ้นในช่วงวัย 70 – 75 ปี ซึ่งภาวะนี้หากปล่อยไว้ไม่ได้รับการรักษาจะส่งผลให้อาการรุนแรงมากขึ้น และยิ่งรักษายากขึ้น โดยภาวะนกเขาไม่ขันนี้ทางการแพทย์เรียกว่า E.D. (Erectile Dysfunction) ซึ่งมาจากปัจจัยหลายประการ เรามาดูสาเหตุ และวิธีรักษาอาการนกเขาไม่ขันกันดีกว่า
สาเหตุของอาการนกเขาไม่ขัน
นกเขาไม่ขัน ถือเป็นปัญหาหนึ่งที่สร้างความกังวลให้กับผู้ชายหลายท่านได้ไม่น้อย เพราะนอกจากจะทำให้ขาดความมั่นใจแล้ว ยังก่อให้เกิดปัญหาครอบครัวตามมาด้วย ภาวะนกเขาไม่ขัน เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็น อายุที่มากขึ้น ปัญหาสุขภาพ ความเครียด ผลข้างเคียงจากการใช้ยา รวมถึงการบาดเจ็บที่อวัยวะเพศอย่างรุนแรง ซึ่งบางคนอาจเกิดอุบัติเหตุที่ส่งผลต่ออวัยวะเพศโดยตรง หรือเกิดการคดงอขึ้น เมื่ออวัยวะเพศกำลังจะแข็งตัวก็เกิดอาการเจ็บปวดจนไม่สามารถแข็งตัวได้ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะนกเขาไม่ขันได้
อาการที่เป็นสัญญาณเตือนภาวะ E.D.
สำหรับท่านชายที่กำลังสงสัยว่าเกิดภาวะ E.D.อยู่หรือไม่ เราสามารถสังเกตอาการสัญญาณเตือน ภาวะนี้ได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองดังนี้
- เริ่มมีความต้องการทางเพศลดลงเช่น หากเมื่อก่อนเคยมีความต้องการทางเพศสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ตอนนี้เหลือเพียงแค่ 1 – 2 ครั้งเท่านั้น หรืออาจจะไม่มีความต้องการเลย
- ผู้ชายถึงแม้ว่าจะไม่มีความต้องการทางเพศ แต่เมื่อฝ่ายหญิงมากระตุ้นก็ยังมีอารมณ์เหมือนเดิม แต่ถ้าผู้ชายคนไหนที่มีสิ่งมากระตุ้นแล้วยังไม่มีอารมณ์ทางเพศก็ถือว่าเริ่มมีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศแล้ว
- มีการหลั่งเร็วขึ้น เพราะคนที่อวัยวะเพศไม่ค่อยแข็งตัวจะต้องรีบปฏิบัติกิจ เพราะกลัวว่าอวัยวะเพศจะอ่อนตัวก่อนเสร็จกิจ จึงส่งผลให้หลั่งเร็วขึ้น บางรายอวัยวะเพศอาจอ่อนตัวก่อนถึงเส้นชัย
- สัญญาณตอนรุ่งสางเช่น เมื่อก่อนตื่นนอนตอนเช้าน้องชายมักจะเหยียดตัวขึ้นรับอรุณ แต่ถ้าเช้าวันไหนเริ่มสังเกตว่าเจ้านกเขาไม่ค่อยโก่งคอตีปีกให้อุ่นใจ นั่นเป็นสัญญาณเตือนแล้วว่าสมรรถภาพทางเพศเริ่มถดถอย
นกเขาไม่ขัน มีวิธีการรักษาอย่างไร
หากมีภาวะนกเขาไม่ขัน ไม่ควรปล่อยไว้ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาแนวทางในการรักษา โดยปัจจุบันมีวิธีการรักษาภาวะนกเขาไม่ขันอยู่หลายวิธีอย่างเช่น การรักษาโดยการใช้ยา ซึ่งก็จะมีทั้งยารับประทาน และยาฉีด เพื่อให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น และเพื่อปรับฮอร์โมน การรักษาโดยการใช้เครื่องปั๊มสุญญากาศ เพื่อให้เลือดไหลเวียนไปรวมกันที่อวัยวะเพศมากขึ้น ทำให้แข็งตัวขึ้น รวมถึงการรักษาโดยการผ่าตัดวิธีนี้เป็นวิธีสุดท้ายหลังจากที่ใช้ยาและใช้การปั๊มสุญญากาศไม่ได้ผลแล้ว
ภาวะนกเขาไม่ขัน นอกจากจะสร้างปัญหาให้กับชีวิตคู่แล้ว ยังเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรงอื่นๆ ตามมาด้วย เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรปล่อยไว้ ควรได้รับการรักษา เพราะยิ่งรักษาเร็วก็จะยิ่งรักษาง่าย และหายเป็นปกติได้เร็วขึ้น และที่สำคัญจะได้ไม่มีปัญหาชีวิตคู่ตามมาด้วยนั่นเอง