Yves Saint Laurent – L’Homme Libre
หนึ่งในภาพลักษณ์ของอีฟ แซงต์ โลรองต์ ที่ทุกคนจดจำได้ดีก็คือความหรูหรา และทุกวันนี้ มันก็ยังคงความหรูหราอยู่อย่างไม่จางหาย แม้กระทั่งน้ำหอมที่พวกเขาทำ นับตั้งแต่ปูร์ ออม (Pour Homme) ในปี 1971 ลอมม์ (L'Homme) ในปี 2006 ลานุย เดอ ลอมม์ (La Nuit de L'Homme) ในปี 2009 และล่าสุดกับลอมม์ ลีบร์ เบรอะ (L'Homme Libre) สองนักปรุงน้ำหอมชั้นนำที่อยู่เบื้องหลังความหรูหรานี้คือ โอลิวิแยร์ โปลช์ (Olivier Polge) ซึ่งอยู่ที่ปารีส และ คาร์ลอส เบนาอิม (Carlos Benaïm) ซึ่งอยู่ที่นิวยอร์กร่วมกันสร้างสรรค์ โดยเพิ่มแง่มุมที่ทันสมัยและสดชื่นลงไปมากขึ้นกว่ากลิ่นเดิมๆ ที่ YSL เคยทำมาก่อนหน้านี้
แรกสุด เราได้กลิ่นของมะกรูด (มะกรูดคาลาเบรียน) และพริกไทย (พริกไทยสีชมพู) ตามด้วยกลิ่นสดชื่นของโหระพาและโป๊ยกั้ก ตามรายชื่อส่วนประกอบที่เราได้มา มันยังมีกลิ่นหอมของพิมเสนและแฝกหอมอีกด้วย ให้ความรู้สึกถึงความลึกลับ น่าค้นหา แน่นอนว่าด้วยความเป็นสินค้าแฟชั่นชั้นสูง เรื่องราวการออกแบบขวดก็ทำให้มันมีความน่าสนใจ ขวดยังคงเป็นขวดแก้วทรงกระบอก ฝาหกเหลี่ยม ได้แรงบันดาลใจจากภาพเขียนของเฟอร์นานด์ เลการ์ (Fernand Leger : 1881-1955) จาก ‘Composition in the Factory' (1918) ในคอลเลกชั่นส่วนตัวของอีฟ แซงต์ โลรองต์เอง) เช่นเดียวกับขวดน้ำหอมทั้งสองขวดที่ออกมาก่อนหน้านี้ แต่คราวนี้เพิ่มสีน้ำเงินลงไปด้วย หลอดสูบสีน้ำเงินใจกลางขวดตัดกับกล่องสีเงินด้านทำให้มันดูน่าสนใจมากขึ้น
ลอมม์ ลีบร์ เบรอะ ยังดึงเอาความคลาสสิกของบัลเล่ต์มาเชื่อมโยงกับน้ำหอมผ่านพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ แบ็งชาแม็ง มิลล์พีเย่ (Benjamin Millepied) ดาราชูโรงของคณะ New York City Ballet ผู้ออกแบบท่าเต้นให้กับภาพยนตร์เรื่อง ‘Black Swan' อีกด้วย เรื่องราวทั้งหมดบรรจุอยู่ในขวดขนาด 60 มล. (ราคา 2,400 บาท) และ 100 มล. (ราคา 3,100 บาท) นับว่าสมราคาทั้งกลิ่นและเรื่องราวของมัน