เป็นตุ่มที่อวัยวะเพศชาย เช็กด่วน! คุณอาจเป็น 3 โรคนี้ไม่รู้ตัว

เป็นตุ่มที่อวัยวะเพศชาย เช็กด่วน! คุณอาจเป็น 3 โรคนี้ไม่รู้ตัว

เป็นตุ่มที่อวัยวะเพศชาย เช็กด่วน! คุณอาจเป็น 3 โรคนี้ไม่รู้ตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นตุ่มที่อวัยวะเพศชาย ตุ่มที่อัณฑะ เป็นโรคอะไร เรื่องของอวัยวะเพศเป็นเรื่องที่มักไม่ค่อยถูกพูดถึงเท่าไรนัก แล้วยิ่งโรคหรืออาการเหล่านั้นเกิดขึ้นเป็นตุ่มที่อวัยวะเพศชายด้วย ในบทความนี้เราจึงขอเป็นหนึ่งบทความที่เป็นตัวช่วยของท่านชายทั้งหลายที่จะมาทำให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับตุ่มที่อวัยวะเพศชายว่าเป็นโรคใดได้บ้าง

ตุ่มที่อวัยวะเพศ ตุ่มที่อัณฑะ กับความเสี่ยง 3 โรคนี้ที่เกิดขึ้นได้

  1. โรคหูดข้าวสุก

    สาเหตุ : การติดเชื้อไวรัส Molluscum Contagiosum Virus จากการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้ที่เป็นโรค
    อาการ : ที่อวัยวะเพศมีตุ่มสีเหลืองหรือสีเนื้อขนาดเล็กลักษณะกลม บางตุ่มสามารถมองเห็นหูดสีขาวภายใน มีลักษณะของตุ่มขึ้นเป็นกลุ่ม ไม่มีอาการแสบหรืออาการคันร่วมด้วย
    การรักษา : เป็นโรคที่สามารถหายได้เองขึ้นกับปริมาณเชื้อที่รับเข้าไป หากรับเชื้อเข้าไปไม่มากก็สามารถหายได้เองใน 2 เดือน แต่หากรับเชื้อเข้าไปมากจะใช้ระยะเวลาในการหายถึง 1 ปี

  2. โรคหิด

    สาเหตุ : เกิดจากปรสิตขนาดเล็กที่มีชื่อว่า Scabies Mite ซึ่งกินผิวหนังของมนุษย์โดยการเจาะเซลล์ผิว ซึ่งปรสิตนี้จะเคลื่อนที่จากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้จากการมีเพศสัมพันธ์จึงนับได้ว่าโรคหิดนี้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
    อาการ : ที่อวัยวะเพศมีตุ่มสีแดงที่มีลักษณะเส้นทางไม่แน่นอนขึ้นกับทิศทางการเจาะเซลล์ผิวของปรสิต Scabies Mite และมีอาการคันร่วมด้วย
    การรักษา : ปรึกษาแพทย์แล้วรับยามาทา โดยต้องทายาจนกว่าตุ่มจะหาย และทาต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง

  3. โรคเริม

    สาเหตุ : การติดเชื้อไวรัสเชื้อไวรัส เฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ ชนิดที่ 2 (HSV-2) จากการมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้ที่เป็นโรค
    อาการ : ที่อวัยวะเพศมีตุ่มน้ำใสคล้ายคลึงกับลักษณะของตุ่มของโรคอีสุกอีใส มีอาการปัสสาวะแสบขัด การอักเสบ รวมถึงการเป็นไข้ร่วมด้วย
    การรักษา : โรคเริมนี้เป็นโรคที่ยังไม่มียารักษาให้หายขาด แพทย์จะจ่ายยาตามอาการเพื่อบรรเทาโรคเริมไว้เท่านั้น เมื่อภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง อาการของโรคเริมก็จะปรากฎขึ้นมาได้อีก แต่อาการในรอบที่ 2 นี้จะรุนแรงน้อยกว่าอาการในรอบแรก

การป้องกันการเป็นตุ่มที่อวัยวะเพศชาย

  1. ป้องกันตนเองทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เช่น การใส่ถุงยางอนามัย

  2. ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ หรือ งดการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ไม่ใช่คู่นอนของตน

  3. รักษาความสะอาดของร่างกายอยู่เสมอ

  4. หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น

ตุ่มที่อวัยวะเพศชาย เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ในเพศชายเกือบทุกท่าน ซึ่งเราขอเป็นหนึ่งในตัวช่วยไขข้อสงสัยของท่านชายทั้งหลายหากเกิดอาการนี้ขึ้นกับคุณ คุณก็สามารถทราบสาเหตุเบื้องต้น วิธีรักษา หรือการป้องกันได้จากบทความเบื้องต้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook