จัดระบบชีวิต เพื่อจัดการความเครียด
ความเครียดเกิดขึ้นได้จาก 2 ปัจจัยใหญ่ ๆ นั่นคือ ปัจจัยภายนอก เช่น เรื่องงาน การหย่าร้าง ความขัดแย้งในความสัมพันธ์ การย้ายบ้าน เป็นต้น ปัจจัยภายใน โดยที่บางคนมีนิสัยคิดมาก ชอบวิตกกังวลในเรื่องเล็กน้อย หรือสารเคมีในสมองไม่สมดุลทำให้เกิดอารมณ์เครียดและเศร้าง่าย
นอกจากความรู้สึกที่บ่งบอกว่าเครียดแล้ว เมื่อรู้สึกเครียดมากยังทำให้เกิดอาการอื่น ๆ ได้ เช่น ปวดหัว ปวดตามร่างกาย ลำไส้ทำงานปั่นป่วน มีปัญหาการย่อยอาหาร ท้องเสีย ใจสั่นง่าย เหงื่อออก อ่อนล้า ไม่อยากทำอะไร ความดันโลหิตสูง ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ โรคหัวใจ โกรธ หงุดหงิดง่าย ร้องไห้ง่าย ไม่มีสมาธิ รู้สึกซึมเศร้า รู้สึกวิตกกังวล ทั้งนี้เราสามารถปรับใจและร่างกายเพื่อลดความเครียดลงได้ โดยปรับเปลี่ยนวิธีคิดและการใช้ชีวิตในบางส่วนให้เหมาะสม เพื่อให้เกิดความเครียดน้อยลง ส่วนจะมีวิธีการใดบ้างนั้นมาดูกัน
1. มีสติและฝึกให้ใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ
การฝึกสติ ถือว่าเป็นการช่วยให้เรารู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ทำให้เกิดการรู้สึกตัว ทำให้เราได้จดจ่ออยู่กับตัวเอง เมื่อสามารถฝึกสติได้เช่นนี้ จะทำให้ใจเราไม่ฟุ้งซ่าน และคิดอะไรไกลเกินกว่าที่ควรจะเป็น
2. ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายทำให้ร่างกายหลั่งสารเอนโดรฟินอันเป็นฮอร์โมนสร้างสุข เมื่อเครียดจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน การเรียน หรือเรื่องวุ่น ๆ ในครอบครัว ลองเดินออกมาจากสภาพแวดล้อมดังกล่าวและให้เวลากับตัวเองในการจดจ่ออยู่กับการออกกำลังกาย จะช่วยให้คุณมีอารมณ์ที่ดีขึ้น รู้สึกผ่อนคลาย จากนั้นค่อยกลับมาแก้ปัญหากันใหม่ จะได้ทางออกที่ดีขึ้น
3. คำพูดที่ดีจะนำพาไปสู่ชีวิตที่ดี
ถ้าคุณเป็นคนชอบพูดจากส่อเสียดหรือพูดคำหยาบคาย ลองปรับเปลี่ยนมาใช้คำพูดที่สุภาพขึ้น เลิกพูดส่อเสียด แต่พูดสิ่งให้เกิดประโยชน์ และทำให้เกิดความสมานสามัคคีแทนจะดีกว่า เพราะคำพูดนั้น หากพูดดีสามารถนำพาเราไปในที่ที่ดีได้เสมอ แต่ถ้าพูดร้ายก็มักนำพาเราไปสู่สถานการณ์ที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ตนเองเลย
4. เพียงแค่ยิ้ม ทุกอย่างที่กำลังมืดมัวจะสว่างขึ้นทันที
เชื่อหรือไม่ ในสถานการณ์ที่กำลังรู้สึกว่าจะเข้าสู่ด้านหม่น เพียงแค่คุณยิ้มออกมาจากใจ หรือยิ้มเพื่อยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใจคุณก็พร้อมจะเดินหน้าต่อ ขณะที่คนรอบข้างคุณจะมีกำลังใจมากขึ้นกว่าเดิม เหนืออื่นใด ยังทำให้สถานการณ์ที่กำลังเข้าสู่ด้านหม่นสว่างไสวขึ้นมาทันใด
5. จัดเวลาให้เป็น
Work Life Balance อาจเป็นคำฮิตในปัจจุบันแต่ทำไม่ได้ง่าย ๆ เพราะสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำไปทั่วโลก แต่การจัดเวลาในการทำงานและพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญ เรามีเวลาในการทำงานที่ออฟฟิศถึง 8 ชั่วโมง หากเราใช้ 8 ชั่วโมงนั้นในการทำงาน ไม่นั่งเล่นเฟซบุ๊ก ไม่ตอบไลน์กลุ่มเพื่อน ไม่นั่งเม้าท์ดารา เราจะมีเวลาในการเคลียร์งานแต่ละวันถึง 8 ชั่วโมง ทำให้หลังเลิกงานเรามีเวลาพักผ่อน และทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบ ดังนั้น การลำดับความสำคัญและจัดเวลาให้เป็นจึงเป็นเรื่องสำคัญ