“มิโด” จัดงานเปิดตัวเรือนเวลาหรูครั้งใหญ่ของเอเชีย “คิม ซู ฮยอน” บินร่วมงาน

“มิโด” จัดงานเปิดตัวเรือนเวลาหรูครั้งใหญ่ของเอเชีย “คิม ซู ฮยอน” บินร่วมงาน

“มิโด” จัดงานเปิดตัวเรือนเวลาหรูครั้งใหญ่ของเอเชีย “คิม ซู ฮยอน” บินร่วมงาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“มิโด” (MIDO) จัดงานครั้งยิ่งใหญ่ในเอเชีย เปิดตัวเรือนเวลาหรูคอลเลกชั่นระดับตำนาน “มัลติฟอร์ต ทีวี บิ๊ก เดท” (Multifort TV Big Date) ในรูปลักษณ์ใหม่ประจำปี 2023 ที่โดดเด่นด้วยตัวเรือนรูปทรงทีวีสุดคลาสสิก ซึ่งสะท้อนสไตล์ไอคอนิกสุดฮิตประจำยุค 70s

โดยมีไฮไลท์ครั้งสำคัญคือการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของนักแสดงหนุ่มชื่อดังชาวเกาหลีใต้ “คิม ซู ฮยอน” (Kim Soo Hyun) ในฐานะมิโดเอเชียนแบรนด์แอมบาสเดอร์เป็นครั้งแรก ท่ามกลางบรรยากาศภายในงานถูกตกแต่งขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Inspired by New Visions’ ที่จะพาทุกคนเพลิดเพลินไปกับแสง สี และกรอบทีวีสุดคลาสสิกที่ โรงแรมพาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ ในค่ำคืนที่ผ่านมา

โดยในงานได้รับเกียรติจากเหล่าเซเลบริตี้แฟนคลับแบรนด์ตบเท้าเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ อิทธิฤทธิ์ รัตนทารส อัมพุช, สิริน ศรีอรทัยกุล, ปาวา นาคาศัย, เอกชัย สุขุมวิทยา, ณัฐสิมา ศิริสุนทร พร้อมเหล่านักแสดงชื่อดัง อาทิ แมท-ภีรนีย์ คงไทย, มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน, มาร์ช-จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล และมาร์ค- ศิวัช จำลองกุล

“มิโด” (MIDO) แบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ จอร์จ แชแรน (GEORGES SCHAEREN) เริ่มก่อตั้งบริษัท MIDO G.SCHAEREN & CO. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1918 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน 

มร.ฟรานซ์ ลินเดอร์ (Mr.Franz Linder) กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ว่า “เราได้จัดงานครั้งนี้ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในระดับเอเชีย เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวนาฬิกาคอลเลกชั่นล่าสุดอย่าง มัลติฟอร์ต ทีวี บิ๊ก เดท (Multifort TV Big Date) ซึ่งถือได้ว่าเป็นเรือนเวลาที่สะท้อนสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์จากรูปทรงทีวีที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1973 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นไอคอนิกแห่งยุคในขณะนั้นเลยก็ว่าได้ จนถึงวันนี้ผ่านมาแล้วกว่า 50 ปี ในครั้งนี้เราได้หยิบยกเอาความคลาสสิกมาผสมผสานกับความร่วมสมัย ด้วยการนำหน้าปัดตัวเรือนรูปทรงทีวีมาออกแบบใหม่อีกครั้งในปี 2023 โดยเพิ่มความโดดเด่นด้วยช่องตัวเลขบอกวันที่ ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น หรือที่เรียกว่า บิ๊ก เดท (Big Date) มาบรรจงดีไซน์ด้วยการไล่เฉดสีบนหน้าปัดนาฬิกาเพื่อเพิ่มมิติให้ดูสวยงาม นอกจากนี้เรายังได้รับเกียรติจาก คิม ซู ฮยอน (Kim Soo Hyun) ในฐานะมิโดเอเชียนแบรนด์แอมบาสเดอร์ มาร่วมนำเสนอสไตล์อันโดดเด่นด้วยการเลือกนาฬิกาจากคอลเลกชั่นนี้มามิกซ์แอนด์แมทช์ในลุคของตนเองอีกด้วย”

ด้านมิโดเอเชียนแบรนด์แอมบาสเดอร์หนุ่ม “คิม ซู ฮยอน” (Kim Soo Hyun) กล่าวถึงคอลเลกชั่นนี้ว่า “ในฐานะที่ผมเป็นนักแสดงที่มีประสบการณ์มากมายทั้งในสายงานโทรทัศน์และแวดวงภาพยนตร์ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับหน้าที่นำเสนอสไตล์ของเรือนเวลาคอลเลกชั่นพิเศษ อย่างมัลติฟอร์ต ทีวี บิ๊กเดท (Multifort TV Big Date) ที่มีความโดดเด่นของการออกแบบและเปี่ยมไปด้วยฟังก์ชันที่มีความทันสมัย อีกทั้งยังสะท้อนถึงสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มิโด (MIDO) ได้เป็นอย่างดี โดยเสน่ห์เหนือกาลเวลานี้จะต้องเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่หลงใหลในเรือนเวลาที่มีความประณีตและความใส่ใจในทุกรายละเอียด ผมเชื่อว่ามัลติฟอร์ต ทีวี บิ๊กเดท (Multifort TV Big Date) จะสามารถสร้างความประทับใจกับให้กับทุกท่านได้อย่างแน่นอน”

สำหรับคอลเลกชั่น “มัลติฟอร์ต ทีวี บิ๊ก เดท” (Multifort TV Big Date) รูปโฉมประจำปี 2023 นั้นได้หยิบยกแรงบันดาลใจจากนาฬิกาที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์อย่างรูปทรงทีวีที่ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 1973 ถูกนำมาดีไซน์ใหม่ให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยตัวเรือนรุ่นไฮไลท์มาในดีไซน์สแตนเลสสตีลหน้าปัดรูปทรงทีวี พร้อมกับการตกแต่งหน้าปัดโดยการขัดซาตินแนวนอน เพิ่มความโดดเด่นด้วยการไล่เฉดสีจากสีน้ำเงินไปจนเป็นสีดำเพิ่มมิติความสวยงามยามสะท้อนแสง เพิ่มความพิเศษด้วยช่องบอกวันที่ขนาดใหญ่ตามแบบฉบับรุ่นบิ๊ก เดท (Big Date) ตรงบริเวณตำแหน่ง 12 นาฬิกา

อีกทั้งเข็มนาฬิกาทั้งเข็มชั่วโมงและเข็มนาทียังได้รับการเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ ลูมิโนวา (Super-LumiNova®) สีขาว ช่วยให้ง่ายต่อการอ่านค่าในที่แสงน้อย ที่มาพร้อมสายนาฬิกาสแตนเลสสตีลสุดคลาสสิกเพื่อความแข็งแรงทนทาน ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติรุ่นใหม่ล่าสุดอย่างคาลิเบอร์ 80 (Caliber 80) ที่สำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง พร้อมบาลานซ์สปริงนิวาครอง (Nivachron™) ซึ่งทนทานต่อแรงกระแทกและแรงสนามแม่เหล็กได้อย่างดีเยี่ยม ครอบทับด้วยกระจกหน้าปัดที่ผลิตจากคริสตัลแซฟไฟร์เพื่อความทนทาน อีกทั้งยังเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้านอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นกลไกการทำงานผ่านกระจกด้านหลังตัวเรือนซึ่งเผยให้เห็นชิ้นงานโรเตอร์ขึ้นลานที่ตกแต่งด้วยลวดลายโกตส์ เดอ เฌอแนฟ (‘Côtes de Genève’) พร้อมสลักโลโก้ ‘มิโด’ (MIDO) เอาไว้อย่างงดงาม โดยตัวเรือนมีความสามารถในการกันน้ำลึกได้ถึง 100 เมตร

นอกจากนี้ยังเปิดตัวมาพร้อมกับอีก 4 ดีไซน์ที่ผู้สวมใส่สามารถเลือกมิกซ์แอนด์แมทช์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นตัวเรือนและสายนาฬิกาสแตนเลสสตีล ที่มาพร้อมหน้าปัดโทนสีเขียวไล่เฉดสี (Green Gradient) สำหรับคนที่ต้องการความคลาสสิกและโดดเด่นได้ในขณะเดียวกัน ถัดมาที่ตัวเรือนและสายนาฬิกาสแตนเลสสตีลที่มาพร้อมกับหน้าปัดโทนสีดำไล่เฉดสี (Black Gradient) เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบความเรียบโก้ รวมถึงตัวเรือนสแตนเลสสตีลที่มาพร้อมกับหน้าปัดโทนสีน้ำเงินไล่เฉดสี (Blue Gradient) จับคู่มากับสายนาฬิกายางสีกรมสุดโดดเด่น ปิดท้ายที่ตัวเรือนสแตนเลสสตีลหน้าปัดโทนสีดำไล่เฉดสี (Black Gradient) ที่มาพร้อมสายนาฬิกายางสีส้มซึ่งเป็นสีประจำแบรนด์ของ “มิโด” (MIDO) ซึ่งสามารถเติมเต็มลุคสไตล์สปอร์ตได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้เหล่าเซเลบริตี้ภายในงานต่างก็ร่วมเผยถึงเคล็ดลับการเลือกนาฬิกาเรือนแรก และสไตล์ของนาฬิกาเรือนโปรด เริ่มจาก หนุ่มมาดเท่ อิทธิฤทธิ์ รัตนทารส อัมพุช เผยว่า “ก่อนตัดสินใจซื้อนาฬิกาเรือนแรก เราควรเริ่มศึกษาก่อนว่านาฬิกาแต่ละแบรนด์มีเรื่องราวความน่าสนใจอย่างไร และมีนาฬิการุ่นไหนเป็นไอคอนิก อาจจะเลือกซื้อจากแบรนด์หรือรุ่นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เพราะจะสามารถสร้างมูลค่าในอนาคตได้ สำหรับนาฬิกาเรือนโปรดที่ใส่บ่อยจะเป็นเรือนที่เข้ากับสไตล์เรา สามารถใส่ได้ทุกวัน ไม่ว่าจะใส่ไปทำกิจกรรมหรือไปทำงาน ก็จะเป็นเรือนที่ดีไซน์มีความคลาสสิก สามารถปรับเปลี่ยนสายได้ไม่ว่าจะเป็นสายยางหรือสแตนเลสสตีล เพื่อให้เข้าได้กับทุกลุค”

ถัดมาที่ สาวสังคม สิริน ศรีอรทัยกุล เล่าว่า “นาฬิกาเรือนแรกอาจจะเลือกจากดีไซน์ที่คลาสสิก เหนือกาลเวลา จะได้ใส่ได้นาน ส่วนเรือนที่เราใส่ติดข้อมือบ่อยๆ จะเลือกจากขนาดที่พอดีกับข้อมือ เพื่อความคล่องตัว รวมถึงดีไซน์หน้าปัดที่มีความโมเดิร์น มีเทคนิคการไล่เฉดสีที่โดดเด่น ใส่แล้วช่วยเติมเต็มลุคได้เป็นอย่างดี”

และสาวนักกิจกรรม ปาวา นาคาศัย เผยว่า “เคล็ดลับซื้อนาฬิกาเรือนแรกแนะนำเลือกให้เหมาะกับช่วงวัยและการใช้งาน ถ้าเป็นวัยรุ่นอาจจะเลือกดีไซน์ที่มีความทันสมัย สีสันสดใส แต่ถ้าวัยทำงานควรเลือกนาฬิกาที่มีดีไซน์เรียบหรูอย่างการใช้สายสแตนเลสสตีลที่ใส่แล้วดูภูมิฐาน ส่วนเราจะเลือกนาฬิกาจากฟังก็ชั่นเป็นหลัก เพราะเป็นคนชอบทำกิจกรรม นาฬิกาที่ใส่ประจำต้องสามารถใส่ดำน้ำลึกได้ อ่านค่าในที่แสงน้อยได้ และในขณะเดียวกันดีไซน์ต้องมีความสปอร์ตคลาสสิก เหมาะกับสไตล์ของเรา”

ร่วมสร้างสรรค์สไตล์อันโดดเด่นผ่านเรือนเวลาหรูคอลเลกชั่นคลาสสิก “มัลติฟอร์ต ทีวี บิ๊ก เดท” (Multifort TV Big Date) นาฬิกาคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ได้แล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์ “มิโด” (MIDO) เซ็นทรัล, โรบินสัน, เดอะมอลล์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ MIDO Official Store ใน Shopee และ Lazada และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่เว็บไซต์  www.midowatches.com Facebook: Mido Watches และ LINE Official Account: @midothailand หรือติดต่อได้ที่เบอร์ 02-610-0200

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook