6 กิจกรรมทำนอกบ้าน พาตัวเองเข้าสังคม ดีท็อกซ์โลกออนไลน์

ตั้งแต่ที่เราสามารถใช้โทรศัพท์มือถือทำอะไรก็ได้อย่างเสร็จสรรพในเครื่องเดียว พร้อมกับการที่มีอินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อชีวิตออฟไลน์ของเราให้ออนไลน์ได้ตลอดเวลา ต้องบอกว่าเราแทบไม่จำเป็นต้องออกนอกบ้านไปไหนมาไหนอีกเลย สำหรับใครหลาย ๆ คน วันธรรมดาออกนอกบ้านไปไกลสุดแค่ที่ทำงาน ส่วนวันหยุดยิ่งไม่ต้องพูดถึง แทบจะต้องแงะออกที่นอนกันเลยทีเดียว ยุคที่เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกให้เราทำนั้นทำนี่ได้ง่าย ๆ ผ่านมือถือ ใครหลายคนจึงอยู่ติดบ้านกันมากขึ้น อยู่กับตัวเอง ไม่ค่อยเข้าหาสังคมจริง ๆ แต่ส่วนใหญ่จะชอบวน ๆ เวียน ๆ อยู่บนสังคมเสมือนในอินเทอร์เน็ตเสียมากกว่า ไม่ต้องออกไปไหนเพื่อทำอะไร ก็ยังใช้ชีวิตประจำวันปกติได้เกือบทุกอย่าง

จริง ๆ แล้วการเป็นคนติดบ้าน ไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรหรอก แต่…การเอาแต่เก็บตัวอยู่คนเดียวนาน ๆ ไม่ค่อยอยากออกไปพบปะผู้คนมันออกจะน่าเป็นห่วงอยู่หน่อย ๆ เพราะการอยู่กับสภาพแวดล้อมเดิม ๆ ในบ้าน ในห้องที่มีพื้นที่จำกัดมันสามารถทำให้เราเครียดได้โดยไม่รู้ตัว

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ “การไร้ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม” อันเป็นผลมาจาก สื่อสังคมออนไลน์ที่ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์ผ่านตัวอักษรมากกว่าการพูดคุยหรือพบปะกัน การเสพแต่ข่าวสารในโซเชียลมีเดียที่ algorithm จดจำได้ว่าเราชอบดูชอบอ่านอะไร จึงจัดสรรมาให้เราอ่านจนเกิดสิ่งที่เรี ยกว่าห้องของเสียงสะท้อน ทำให้เรามีแต่ข้อมูลชุดเดิม ๆ ในหัว ไม่ก็ตกหลุมพรางแห่งความกลวง (Dunning Kruger Effect) มีความเชื่อมั่นแบบผิด ๆ ว่าตัวเองคิดถูกทำถูกอยู่คนเดียว หมกมุ่นและฟุ้งซ่านอยู่กับตัวเองมากเกินไป แบบนี้ไม่ดีแน่ อาจกลายเป็นปัญหาสุขภาพจิต

เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม เพื่อช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยกันและกัน ต่อให้ไม่ชอบเข้าสังคม แต่ธรรมชาติของความเป็นสัตว์สังคมมักบีบให้เราต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นอยู่เสมอ เราจึงไม่ควรตัดสังคมออกจากชีวิตประจำวันเพื่ออยู่แต่กับตัวเอง ควรออกไปหากิจกรรมนอกบ้านทำเพื่อให้ได้เข้าสังคมเล็ก ๆ บ้าง ออกไปพบปะผู้คน เจอโลกภายนอก ไม่ใช่อุดอู้อยู่แต่ในพื้นที่ปลอดภัยของตัวเองอย่างเดียว ว่าแต่มีกิจกรรมอะไรที่น่าทำบ้าง

เข้าหาศิลปะจรรโลงใจ เสพสุนทรียะให้ชีวิต
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เพิ่งเริ่มต้นพาตัวเองออกมาจากห้องสี่เหลี่ยม เพื่อออกมาพบปะโลกอีกใบที่มีอะไรอีกมากมายหลายอย่างที่คุณอาจไม่เคยรู้ไม่เคยเห็น ขอแนะนำให้คุณลองออกไปทำกิจกรรมจรรโลงใจสบาย ๆ ที่พิพิธภัณฑ์หรือหอศิลป์ต่าง ๆ ที่มีกระจายอยู่ทั่วประเทศดู ลองเริ่มต้นจากอะไรที่มันสวยงามหรือประเทืองปัญญา อย่างการเสพงานศิลปะหรือเดินไปเดินมาในแหล่งการเรียนรู้ เริ่มแรกคุณอาจจะยังเฉย ๆ แต่ไป ๆ มา ๆ คุณจะรู้สึกว่าการเดินเอื่อย ๆ เรื่อย ๆ แวะดูนั่นดูนี่มันให้ความสงบใจอย่างบอกไม่ถูก ที่สำคัญคือมันให้ประโยชน์กลับมาแบบที่คุณเองก็แทบไม่รู้ตัว ทั้งความรู้ที่แค่ผ่านหูแต่จำได้ รวมถึงแรงบันดาลใจที่ได้ออกไปเปิดหูเปิดตาในสถานที่ที่ไม่เคยคิดจะไป

ลงเรียนคอร์สต่าง ๆ เพื่อพัฒนาตนเอง
แม้ว่าทุกวันนี้คอร์สเรียนหาความรู้เพื่อประดับสมองและพัฒนาตนเองจะมีคอร์สออนไลน์อยู่เกลื่อนกลาดไปหมด ด้วยข้อดีที่เรียนที่ไหนก็ได้ บางคอร์สจะเรียนเมื่อไรก็ได้ด้วย แต่การเรียนออนไลน์นั้นเราก็ต้องเรียนอยู่หน้าจอ เรียนเสร็จก็หมกตัวอยู่ในบ้าน แทบไม่ได้ย้ายร่างกายออกมาสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมภายนอกเท่าไรนัก ดังนั้น ถ้าไม่ได้ลำบากตนเองจนเกินไป ลองหาลงทะเบียนเรียนคอร์สเรียนที่ตัวเองสนใจแบบออนไซต์ดู ตัวอย่างเช่น คอร์สเรียนภาษาวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ต้องไปเรียนตามศูนย์เรียนภาษามหาวิทยาลัยต่าง ๆ ให้ได้ออกไปพบเจอโลกภายนอกบ้าง ได้ฝึกความรับผิดชอบตื่นไปเรียนตามวันและเวลาที่กำหนด เชื่อเถอะว่าการเรียนแบบออนไซต์มันให้ฟีลที่ต่างจากออนไลน์จริง ๆ

เข้าเป็นจิตอาสา อาสาสมัครทำเพื่อสังคม
การพาตัวเองออกมาหาทำกิจกรรมนอกบ้าน บางทีก็ไม่ได้หมายความว่าเรากำลังทำเพื่อดูแลสุขภาพจิตสุขภาพใจของตัวเราคนเดียวเสมอไป เพราะถ้าหากเรามีแรงกายแรงใจดี มีจิตสาธารณะนึกถึงคนอื่น มีน้ำใจที่อยากแบ่งปันช่วยเหลือใครต่อใคร และอยากจะทำนั่นทำนี่ให้คนอื่นด้วยเหมือนกัน การเข้าร่วมเป็นจิตอาสาหรืออาสาสมัครในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมจึงเป็นเรื่องที่ดีและมีประโยชน์มาก ปัจจุบันมีหน่วยงานและองค์กรหลายแห่งที่ต้องการทีมอาสาสมัครเข้าไปช่วยงานในด้านต่าง ๆ หากเบื่อที่จะอยู่บ้านแบบเหงา ๆ อยากออกห่างจากโลกออนไลน์แล้วเรียนรู้โลกแห่งความเป็นจริง สามารถติดต่อเข้าไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีภารกิจหน้าที่ทำเพื่อสังคมแบบที่ตรงกับความสนใจได้

ท้าทายตัวเองด้วยกิจกรรมแอดเวนเจอร์
ปลุกทุกประสาทสัมผัสให้ได้เผชิญกับความตื่นเต้นและท้าทาย อย่าพลาดที่จะพาตัวเองออกไปทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ นี่ถือเป็นการพาตัวเองออกนอกบ้านในรูปแบบที่ไม่เหมือนใครดีนะ ธรรมดาไม่ชอบแต่ชอบการผจญภัย แล้วบอกเลยนะว่าถ้าใครมีเรื่องขุ่นข้องหมองใจที่อยากจะกรีดร้องใส่หน้าใครสักคนแต่ในความเป็นจริงทำไม่ได้ ถึงเวลาระเบิดความอัดอั้นออกมาแล้ว กิจกรรมผาดโผนสนุก ๆ ที่น่าตื่นเต้นและท้าทายเหล่านี้ ก็น่าจะช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับคนที่กำลังรู้สึกเครียดและเบื่อ ๆ กับชีวิตจำเจได้ดีไม่น้อยเลย โดยเฉพาะความรู้สึกอึดอัดอยากปะทะ ยิ่งเก็บไว้ก็ยิ่งมัวหมอง จงเอาไประบายออกกับกิจกรรมแอดเวนเจอร์ให้หมด จัดให้เต็มที่ ใส่ให้หมดอย่าลังเล กลับบ้านสบายใจ

ออกไปตั้งแคมป์
ทลายกำแพงสี่เหลี่ยมที่อุดอู้ด้วยการพาตัวเองเดินเข้าป่าเสียเลยสิ! ออกไปคลุกคลีกับธรรมชาติของแท้บ้าง เปลี่ยนสถานที่กินนอน ใช้ชีวิตสักวันสองวัน จากที่เอาแต่หมกตัวอยู่กับบ้านไม่ชอบออกไปไหน วัน ๆ จับแต่มือถือเสพดราม่าในโซเชียล ก็วางมือถือเข้าป่าไปตั้งแคมป์ นอนเต็นท์ ชมจันทร์ดูดาว จะบอกว่าแสงไฟในบ้านนี่สู้ไม่ได้เลยนะ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมนอกบ้านที่ทำให้กระชุ่มกระชวยใจดี ลองใช้ชีวิตแบบที่เจอสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบดี ๆ หาย ๆ เสียบ้างจะได้เลิกหมกมุ่นกับหน้าจอ แรก ๆ อาจจะรู้สึกรำคาญนะ แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีใครปฏิเสธบรรยากาศของธรรมชาติที่โอบล้อมตัวเราได้หรอก ทำให้เราสงบใจขึ้นได้เยอะ ได้พบปะกับผู้คนและเรื่องราวที่หาไม่ได้จากในเมือง

เข้าคลาสเวิร์กชอป
อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าพาตัวเองออกไปหาทำมาก ๆ นั่นก็คือการเข้าคลาสเวิร์กชอป โดยอาจจะเป็นเวิร์กชอปงานฝีมือ งานศิลปะ หรืออาจะเป็นทักษะใหม่ ๆ ที่จำเป็นต่ออาชีพต่าง ๆ ก็ได้ ซึ่งการเข้าคลาสเวิร์กชอปจะค่อนข้างเหมาะกับคนที่อยากออกไปเปิดหูเปิดตา เข้าสังคมพบเจอผู้คน แต่ก็ยังไม่ค่อยพร้อมที่จะพูดคุยกับใครแบบน้ำไหลไฟดับ เพราะส่วนใหญ่การเวิร์กชอปจะต้องใช้สมาธิอย่างสูง ต้องฟังผู้สอนอย่างตั้งใจ จึงไม่ค่อยมีใครมานั่งจับกลุ่มพูดคุยกันเท่าไร คลาสเวิร์กชอปให้ประโยชน์เราในหลายด้าน ไม่ว่าจะคลายเครียด ฝึกสมาธิ ให้ความสนุกสนาน เสริมสร้างความภูมิใจ มั่นใจในตัวเองจากผลงานที่เราสร้างออกมา รวมถึงสามารถนำไปต่อยอดสร้างอาชีพทั้งหลักและเสริมได้ในอนาคตด้วย