รู้จัก “เธียรรี วาซแซร” ผู้ปรุงน้ำหอม Guerlain เบื้องหลังความหอมระดับโลก

รู้จัก “เธียรรี วาซแซร” ผู้ปรุงน้ำหอม Guerlain เบื้องหลังความหอมระดับโลก

รู้จัก “เธียรรี วาซแซร” ผู้ปรุงน้ำหอม Guerlain เบื้องหลังความหอมระดับโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เด็กชายชาวสวิสผู้ถือกำเนิดใน เมืองโลซานน์ เมื่อ ปี ค.ศ.1961 นอกจากจะเติบโตขึ้นท่ามกลางบรรยากาศ ธรรมชาติของทะเลสาบเจนีวา เขายังได้เห็นการทำงานของผู้เป็นบิดา ซึ่งดำรงตำแหน่งนักเคมีของ Givaudan (จิวอด็อง) หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตน้ำหอมชั้นนำระดับโลก จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกหากเขาจะซึมซับทุกความประทับใจในความงดงามอันหลากหลายของแมกไม้ธรรมชาติมานับแต่ยังเยาว์ ดังเห็นได้จากความสนุกกับการเก็บสมุนไพรแห้งสำหรับนำมาปรุงชา หรือความเพลิดเพลินใจการสกัด “ทิงเจอร์” จากบรรดาพืชท้องถิ่นเท่าที่สามารถหาได้ในครั้งนั้นจนกลายเป็นการบ่มเพาะ “สัญชาตญาณรับรู้ถึงจังหวะธรรมชาติตามการผันเปลี่ยนของฤดู” (a sense for the rhythm of nature and the seasons) อย่างที่เขามักพูดถึงชีวิตวัยเด็กของตนเอง

เมื่อสำเร็จการศึกษาหลักสูตรพฤกษวิทยาในวัยยี่สิบ เขาได้สานต่อความฝันของตนเองกับการฝึกงานกับโรงเรียนเครื่องหอมจิวอด็อง (Givaudan Perfumery School) ในกรุงเจนีวาเพื่อแผ้วถางหนทางอาชีพสุคนธกรให้แก่ตัวเองก่อนย้ายไปสู่กรุงปารีสเพื่อทำงานอย่างจริงจังกับบริษัท Givaudan

หลังได้เพิ่มประสบการณ์ในสาขาอาชีพนี้กับ Charabot (ชาราบ็อต) บริษัทผู้ผลิตน้ำหอมฝรั่งเศส วาซแซรได้เดินทางสู่มหานครนิวยอร์กเพื่อร่วมงานกับ Firmenich International Fine Fragrance Center ระหว่างปีค.ศ. 1994 ประสบการณ์จากที่นี่ นำมาซึ่งผลงานสร้างชื่อชิ้นสำคัญครั้งเขาเดินทางกลับสู่มาตุภูมิฝรั่งเศสอีกคราในฐานะผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จให้กับน้ำหอมหลายกลิ่นของ Lancôme และ Christian Dior Parfums โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การออกแบบน้ำหอม Dior Addict รุ่นต้นแบบเมื่อปีค.ศ. 2002

ในปีค.ศ. 2008 เขาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักออกแบบผู้ปรุงน้ำหอมของ Guerlain “ครอบครัว” นักสร้างสรรค์น้ำหอมชั้นสูงสัญชาติฝรั่งเศสอันเต็มไปด้วยประวัติความเป็นมายาวนานนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1828 ด้วยวัย 46 กับการเป็นสุคนธกรนอกสายตระกูลคนแรก วาซแซรทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับฌอง-ปอล เกอร์แลง “ลื่อ” (ลูกของเหลน) สายตรงของปิแอร-ฟรองซัวส์ ปาสกาล เกอร์แลง ผู้ก่อตั้ง Maison Guerlain

นับตั้งแต่มาร่วมงานกับ Guerlain นอกเหนือจากภารกิจฟื้นฟู และสืบสานมรดกแห่งองค์กร อาทิเช่นการนำ Guerlinade หัวน้ำหอมปรุงสูตรตำรับเฉพาะของสายตระกูลมาปัดฝุ่นเติมความสดใหม่เช่นเดียวกับเชิดชูความสำคัญของขวดลายผึ้งหรือ Bee Bottle แน่นอน ผลงานสร้างสรรค์ของเขาได้ดำรงตำแหน่ง “ไอคอน” แห่งวงการมากมาย ไม่ว่าจะเป็น La Petite Robe Noire, Shalimar Parfum Initial, Mon Guerlain และ L'Homme Ideale รวมถึง Aqua Allegoria Mandarine Basilic ความสามารถของเขาในการจัดสัดส่วนอันลงตัวระหว่างหัวน้ำหอมธรรมชาติกับส่วนผสมเคมีสังเคราะห์ด้วยลูกเล่นหักมุมเกินคาดอย่างทรงเอกลักษณ์ ทำให้ผลงานของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยนวัตกรรม มีความร่วมสมัย และมอบกลิ่นหอมที่สามารถใช้ได้ในทุกยุคสมัยโดยปราศจากคำว่า “แฟชัน” มาเป็นข้อกำหนด โดยมีรางวัลต่างๆ มากมายเป็นเครื่องรับประกันได้อย่างดี

เธียรรี วาซแซร รักในงานฝีมือ เขาเชื่อว่าน้ำหอมแต่ละกลิ่นคือหัตถศิลป์อันสะท้อนถึงบุคลิกเฉพาะตัวของผู้ใช้ เขาเดินทางเสาะหาวัตถุดิบใหม่ ส่วนผสมอันน่าสนใจอยู่ตลอดเวลาสำหรับนำมาใช้กับผลงานสร้างสรรค์ของเขา ซึ่งแต่ละผลงาน คือประจักษ์พยานยืนยันถึงความพิถีพิถัน ใส่ใจในทุกรายละเอียดของเขาได้อย่างชัดเจน

นอกจากการทำงานกับน้ำหอมแล้ว วาซแซร ยังเป็นนักสะสมรถโบราณตัวฉกาจ และเมื่อมีเวลาว่าง เขาจะไม่พลาดที่จะทำการบูรณะ ซ่อมแซมรถต่างๆ ในครอบครองของตน ชายผู้รัก และมีความสุขกับการได้อยู่กับครอบครัวยอมรับว่าภรรยา และลูกสาวของเขาคือแหล่งกำเนิดแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ของเขา

เธียรรี วาซแซร นักปรุงน้ำหอมรุ่นที่ 5 จาก Jean-Paul Guerlain ทายาทนักปรุงน้ำหอมคนสุดท้ายของตระกูลเกอร์แลงเมื่อปี 2008 รับหน้าที่สืบทอดความสำเร็จของหลากหลายคอลเล็กชั่นน้ำหอมที่แบรนด์สร้างสรรค์ไว้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ L'Art & La Matière คอลเล็กชั่นน้ำหอมชั้นสูง (Haute Parfumerie) ที่ได้แรงบันดาลใจจากงานศิลปะและวัตถุดิบเลอค่าที่ถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ล่าสุดต้อนรับกลิ่นหอมใหม่ Tobacco Honey จุดประกายจินตนาการถึงใบยาสูบภายใต้หยาดน้ำผึ้ง

Tobacco Honey คือผลงานล่าสุดของคอลเลกชัน L’Art & La Matière ได้รับการสรรค์สร้างขึ้นเพื่อเล่าเรื่องราวของส่วนผสมหนึ่งในศิลปะการปรุงน้ำหอม ซึ่งเต็มไปด้วยความลึกลับ กระนั้น กลับมีบทบาทแฝงเร้นในการก่อกำเนิดผลงานอันโด่งดังมากมาย นั่นก็คือ “ยาสูบ”

เสน่ห์เย้ายวนจากความลึกลับของวัตถุดิบอันเกี่ยวข้องกับวิถีโลกย์สุขนิยม ได้รับการถ่ายทอดผ่านศิลปะหัวน้ำหอมปรุงสูตรเพื่อจำลองกลิ่นเฉกเช่นใบยาสูบแห้งตามธรรมชาติ และเผยความงดงามอย่างที่สุดในทุกแง่มุมภายใต้หยาดหยดของน้ำผึ้ง ท่ามกลางความขัดแย้งของสองตระกูลกลิ่น ระหว่างประกายทองรองเรืองของน้ำผึ้งฉ่ำหวาน กับกลิ่นไอคละคลุ้งดุจหมอกควันสะกดอารมณ์ของหัวน้ำหอมปรุงสูตรกลิ่นยาสูบ คือประจุอารมณ์รุนแรง และล้ำลึก

กลิ่นเครื่องหนัง, ควันไฟที่เผาไหม้, กลิ่นช็อกโกแล็ต, ไม้หอม และน้ำผึ้ง...หัวน้ำหอมต่างแนวกลิ่นเหล่านี้ ได้ถูกนำมาร้อยเรียงร่วมกันอย่างกลมกลืนดุจท่วงทำนองเสาะโสตโดยเหล่าสุคนธกร นักออกแบบ-ผู้ปรุงน้ำหอมของ Guerlain เพื่อบรรเลงบทเพลงแห่งยาสูบไปตามลำนำอันบ่งบอกถึงแบบฉบับ “ความเป็นเกอร์แลง” อย่างชัดเจน

“Tobacco Honey คือน้ำหอมซึ่งหลอมรวมกลิ่นยาสูบ เจ้าของอดีตอันรุ่งโรจน์ บ่งบอกถึงสถานภาพทางสังคมของชนชั้นสูง เข้ากับท่วงทำนองหวานชื่น ละมุนละไมจากน้ำผึ้ง ด้วยแนวคิดนี้ จึงอำนวยให้แง่มุมต่างๆ ในเนื้อกลิ่นยาสูบได้เผยตัวออกมาเป็นลำดับอย่างต่อเนื่อง และครบครัน” เธียรรี วาซแซร สุคนธกรอำนวยการของ Guerlain

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook