5 สิ่งที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เตือนให้ทำในสถานการณ์เศรษฐกิจถดถอย

วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีพันล้าน นักลงทุนที่ได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ และซีอีโอของ เบิร์กเชียร์ เฮธาเวย์ เคยเขียนถึงการเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจและการเงินผันผวน เอาไว้ว่า “จงขลาดกลัวเมื่อคนรอบตัวของคุณเต็มไปด้วยความละโมบ และจงละโมบเมื่อคนรอบข้างของคุณขลาดกลัว”

ประโยคดังกล่าวมีความตั้งใจจะชี้ให้เห็นว่า เมื่อคนทั่วไปกลัวที่จะลงทุนเพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์ ดังเช่นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจถดถอย เราสามารถอาศัยความได้เปรียบในช่วงเวลาดังกล่าวในการสร้างผลกำไรให้กับตนเอง

ขณะเดียวกัน บัฟเฟตต์ ยังมีคำแนะนำ 5 ข้อสำหรับการเอาตัวรอดในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจถดถอย ซึ่งสามารถปรับใช้ได้ตามสถานการณ์ของแต่ละคน

1. สร้างสภาพคล่องและรักษากระแสเงินสด
ทั้งนี้บัฟเฟตต์ เคยให้คำแนะนำในช่วงต้นปี 2023 ในรายการของ CNBC ถึงกลยุทธที่เขาจะเอาตัวรอดจากช่วงเวลาเศรษฐกิจถดถอยว่า “จะต้องมีกระแสเงินสดในมือให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และพยายามหลีกเลี่ยงในการลงทุน หรือซื้อทรัพย์สินที่จะทำให้เงินตึงมือ”

2. ลงทุนเงินของคุณในบริษัทที่พิสูจน์แล้วมีคุณภาพ
ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจกำลังชะลอตัว และตลาดหลักทรัพย์มีความหวั่นไหว การลงทุนในหุ้น Blue Chip คือทางเลือกที่ดีที่สุดแม้ว่า หุ้น Blue Chip หลายตัวอาจได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว แต่นั่นเป็นเพียงแค่สถานการณ์ชั่วคราวสำหรับบริษัทที่ได้ชื่อว่าเป็นหุ้น Blue Chip ซึ่งบริษัทที่มีการบริหารจัดการที่ดี จะสามารถฟื้นกลับมาทำกำไรได้ในระยะเวลา 5, 10 และ 20 ปี

3. จงอยู่กับการลงทุนแบบปกติ
การลงทุนไม่จำเป็นต้องวางแผนอะไรให้ซับซ้อน ทั้งนี้ บัฟเฟตต์ เคยให้สัมภาษณ์กับ CNBC เอาไว้ว่า เขาเชื่อในการทำธุรกิจแบบ “business as usual” หรือการทำธุรกิจตามปกติ ไม่จำเป็นต้องวางแผนตั้งรับอะไรมาก ไม่จำเป็นต้องหยุดการลงทุน หรือพยายามกอบโกยหุ้นให้ได้มากที่สุดทั้งที่คุณไม่ได้ต้องการ การลงทุนคือการลงทุนในบริษัทที่มีธรรมาภิบาล และดำเนินงานโดยนักธุรกิจที่มีจริยธรรมและความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เราดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว

4. หลีกเลี่ยงที่จะเอาเงินไปลงทุนในทรัพย์สินที่ไม่มีทางเติบโต
หลายคนมักคิดถึงการหาที่เอาเงินของตนเองไปเก็บเอาไว้เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจถดถอย ดังเช่น นำเงินส่วนใหญ่ไปฝากไว้ในบัญชีฝากประจำหรือบัญชีกระแสรายวัน ซึ่งเป็นการนำเงินไปฝากไว้โดยไม่มีประสิทธิภาพในการสร้างความเติบโตทางการเงิน ถ้าเป็นไปได้การนำเงินไปลงทุนโดยเลือกบริษัทที่มีความมั่นคงและมองไปถึงความเติบโตในอนาคต จะดีกว่าคิดถึงแต่การเอาตัวรอดในปัจจุบัน

5. มองการเงินในอนาคตและลงทุนในระยะยาว
ภาวะเศรษฐกิจถดถอยแม้จะกินระยะเวลานาน แต่มันก็ไม่ได้อยู่ตลอดไป การมองทิศทางการเงินในระยะยาวจะช่วยให้ตัดสินใจในการจัดการเรื่องการลงทุนได้ง่ายขึ้น ที่ผ่านมาเศรษฐกิจเกิดความผันผวนในเกือบทุกทศวรรษ ทั้งภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในปี 1930 เศรษฐกิจซบเซาและเงินเฟ้อ ในช่วงปี 1970 และช่วงต้นทศวรรษที่ 80’s เมื่อไม่นานมานี้กับ เศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในปี 2007-2009 และช่วงเวลาที่โควิด-19 ระบาดไปทั่วโลกเมื่อช่วงต้นทศวรรษที่ผ่านมา

จากห้าคำแนะนำของ บัฟเฟตต์ ทำให้เห็นว่าเราท่านควรที่จะมี วิธีคิดในแบบเดียวกับ บัฟเฟตต์ และ อย่าได้แตกตื่นจนเกินไปนักในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจถดถอย เพราะสถานการณ์นี้ไม่ได้อยู่ตลอดไป มันจะมีเวลาที่ถึงตอนจบ และ ทุกอย่างจะกลับมาสู่ภาวะปกติ เพราะที่ผ่านมาประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์ให้เราได้เห็นกันแล้ว