เช็ค! 5 สาเหตุสำคัญที่ทำให้น้องชายมีกลิ่น ปล่อยไว้ ไม่ดีแน่
อวัยวะหนึ่งที่สำคัญสำหรับผู้ชายมาก นั่นคือน้องชายหรือองคชาตินั่นเอง โดยอวัยวะส่วนนี้มีหน้าที่หลายอย่างด้วยกัน เช่น การปัสสาวะ และการปล่อยอสุจิในกิจกรรมการสืบพันธ์ เพราะฉะนั้นการดูแลรักษาจึงเป็นเรื่องสำคัญ หากดูแลได้ไม่ดีอาจเกิดการติดเชื้อโรคต่าง ๆ และกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ตามมา ซึ่งการมีกลิ่นที่น้องชายไม่ใช่เรื่องของความสะอาดเพียงเท่านั้น ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีก ที่คุณผู้ชายอาจมองข้ามไป ดังนี้
1.สวมใส่กางเกงชั้นในที่ไม่สะอาดและไม่แห้งดี
การสวมใส่ชั้นในที่ยังไม่แห้งดี จะทำให้เกิดกลิ่นอับชื้นขึ้นได้ หรือการสวมใส่ชั้นในที่ไม่สะอาด หากใส่เป็นประจำอาจจะส่งผลให้มีผดผื่น มีอาการคัน รวมถึงมีกลิ่นร่วมด้วย เมื่อถึงขั้นนั้นแล้วจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการต่อไป
2.มีขนโดยรอบที่หนาเกินไป
การมีขนโดยรอบที่หนา จะทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกได้ อาทิเช่น เหงื่อ ปัสสาวะ และแบคทีเรียต่าง ๆ บริเวณนี้แบคทีเรียสามารถเจริญได้ดี จึงทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ขึ้นได้ เพราะฉะนั้นแล้วเพื่อความสะอาดและปลอดภัยคุณผู้ชายจำเป็นที่จะต้องตัดเล็มเพื่อไม่ให้ขึ้นรกจนเกินไป
3.เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่ส่งผลต่อน้องชายของคุณผู้ชายโดยตรง นั่นคือ โรคหนองใน ซึ่งเกิดได้หลังจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยาง ลักษณะของอาการเบื้องต้นคือมีของเหลวไหลออกมาจากอวัยวะเพศตลอดเวลา ซึ่งของเหลวนั้นมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ จึงไม่ควรที่จะปล่อยไว้ ต้องรีบพบแพทย์ทันที
4.สภาพอากาศภายนอกร้อนเกินไป
อากาศร้อน ส่งผลให้เหงื่อออกตามร่างกายในปริมาณมาก โดยเฉพาะบริเวณน้องชาย ที่เป็นจุดอับชื้นอยู่แล้ว หากสวมใส่ชั้นในที่ไม่สามารถระบายอากาศได้ดี จะทำให้เกิดกลิ่นอับชื้นเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งในช่วงแรกกลิ่นอาจไม่รุนแรง แต่ถ้าปล่อยให้สะสมไปเรื่อย ๆ ความรุนแรงจะเพิ่มมากขึ้น และอาจนำไปสู่โรคเชื้อราอีกด้วย
5.หนังหุ้มปลายน้องชายไม่สะอาด
เป็นส่วนที่ต้องได้รับความดูแลและรักษาความสะอาดเป็นอย่างดี ไม่อย่างนั้นอาจเกิดการสะสมของแบคทีเรียที่ปลายหนังหุ้มได้ รวมถึงคราบปัสสาวะ ส่งผลให้น้องชายมีกลิ่นไม่พึงประสงค์
กลิ่นไม่พึงประสงค์นั้น ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับอวัยวะส่วนใด ก็ส่งผลไม่ดีต่อร่างกายของเราทั้งนั้น โดยเฉพาะบริเวณน้องชายที่จำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งคุณผู้ชายต้องดูแลรักษาความสะอาด โดยทำความสะอาดทุกวัน วันละ 1 – 2 ครั้งหลังอาบน้ำ และเช็ดให้แห้งก่อนสวมใส่กางเกงชั้นใน และอย่าให้บริเวณน้องชายมีขนเยอะมากเกินไป จะทำให้เกิดการสะสมของเหงื่อ คราบปัสสาวะ แบคทีเรีย จนเป็นต้นเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์ หากหาสาเหตุไม่เจอ ควรพบแพทย์เพื่อปรึกษา จะได้รักษาได้ทันเวลา