ถึงจะ 50+ แต่ยังปึ๋งปั๋งดี เพราะอะไร? ชวนหนุ่มๆ มาหาคำตอบได้ที่นี่
ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ คือ การที่อวัยวะเพศชายไม่แข็ง ภาวะนี้มักเรียกว่าความอ่อนแอ และมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผู้ชาย โดยส่งผลกระทบระหว่าง 7-52% ขึ้นอยู่กับอายุที่เป็นปัจจัยสำคัญ ในการพัฒนาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศที่จะมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นถ้าคุณอยู่ในวัย 50+ แต่ยังอยากปึ๋งปั๋งถูกใจสาว ๆ ขอแนะนำวิธีต่อไปนี้
1.รักษาระดับการออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญ ในการเพิ่มความแข็งแกร่งทางร่างกาย และการกระตุ้นฮอร์โมนเพศที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะออกกำลังกายแบบไหน จะช่วยปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต หรือการออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ ประโยชน์ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ คือ การปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศด้วย
2.การทำ Shockwave Therapy
หลักการทำ Shockwave Therapy ของการส่งคลื่นเสียงความถี่ต่ำ ผ่านเนื้อเยื่อในอวัยวะเพศ เพื่อการฟื้นฟูตามธรรมชาติ เป็นที่ยอมรับในปัจจุบัน พบว่ามีประโยชน์ในการส่งเสริมการฟื้นฟู และซ่อมแซมหลอดเลือดที่เสียหาย นำไปสู่การก่อตัวของหลอดเลือดใหม่ เมื่อหลอดเลือดในอวัยวะสืบพันธุ์ได้รับการฟื้นฟูแล้ว ส่งผลให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น แข็งแรงขึ้น และเพิ่มสมรรถภาพให้ดีกว่าเดิม
3.ลดการใช้เครื่องดื่มแอลกฮอล์
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจส่งผลเสียต่อสมรรถภาพทางเพศของคุณ นอกจากจะเกิดจากการบริโภคมากเกินไปแล้ว ความเสี่ยงในระยะยาว ต่อภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ทั้งยังสัมพันธ์กับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกด้วย การศึกษาพบว่าบุคคลที่ดื่มแอลกอฮอล์ มีโอกาส 60-70% ที่จะประสบกับปัญหาเกี่ยวข้องกับสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งรวมถึงการหลั่งเร็วและสูญเสียความต้องการทางเพศไปอย่างง่ายดาย
4.ทำให้เกิดสัญญาณฮอร์โมนที่ดี
ฮอร์โมนเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน ต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม การออกกำลังกายเป็นประจำ การสัมผัสกับแสงแดด และการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ ล้วนเป็นสิ่งจำเป็น การออกกำลังกายช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนทุกชนิดในร่างกายได้อย่างเหมาะสม แนะนำให้ผู้ชายที่มีอายุเกิน 35 ปี ตรวจระดับฮอร์โมนเป็นประจำ แพทย์แนะนำให้ตรวจระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนทุก ๆ 5 ปี สิ่งสำคัญคือต้องบริโภคอาหารที่สดและสะอาด
5.ไม่เครียด ไม่ทำลายสุขภาพ
สมองมีหน้าที่ในการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ และทำให้อวัยวะเพศแข็งตัว เมื่อสารเคมีในสมองไม่เพียงพอต่อการกระตุ้น การไหลเวียนของเลือด ส่งผลให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ อาการซึมเศร้าเป็นสาเหตุของความต้องการทางเพศลดลง ส่งผลให้สารเคมีในสมองที่จำเป็นต่อกิจกรรมทางเพศลดลง ส่งผลให้สมรรถภาพทางเพศแย่ลงในที่สุด
ถ้าไม่มีฮอร์โมน อวัยวะหรือเซลล์บางชนิด จะไม่สามารถทำงานได้ 100% และจะค่อย ๆ เสื่อมลง ปัจจุบันสามารถสังเกตได้ในชายหนุ่มที่มีอาการต่าง ๆ เช่น อ้วน อ้วนลงพุง อ่อนเพลีย และพัฒนาการทางเพศไม่สมบูรณ์ แม้แต่ในบุคคลบางคนที่มีดัชนีมวลกายปกติ และโครงสร้างร่างกายดี แต่ถ้าขาดการดูแลที่เหมาะสม ก็นำไปสู่ความไม่สมดุลของฮอร์โมนได้เช่นกัน ดังนั้นผู้ชายที่มีอายุ 50+ ขึ้นไป จึงควรดูแลตัวเองให้ดีเสมอ เพื่อให้ชีวิตมีความสุข พร้อมการฟิตปึ๋งปั๋งอยู่ตลอด