น้ำหอม EDT และ EDP ต่างกันอย่างไร แบบไหนเหมาะกับคุณที่สุด
ต้องยอมรับกันว่า น้ำหอม เป็นอีกสิ่งที่เสริมบบุคลิกภาพทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ด้วยกลิ่นที่ผู้คนที่พบดมแล้ว รู้สึกเปลี่ยนอารมณ์ได้ แต่การเลือกน้ำหอมทุกวันนี้ อาจจะต้องทำความเข้าใจหน่อย เพราะมีการแบ่งระหว่างประเภท EDT และ EDP มันต่างกันตรงไหนและแบบไหนเหมาะกับคุณ
วันนี้ Sanook Men จะมาไขคำตอบให้คุณได้รู้กันครับว่า น้ำหอม EDT กับ EDP ต่างกันอย่างไร มีข้อมูลดังนี้
น้ำหอม EDT กับ EDP ต่างกันอย่างไร
น้ำหอม EDT
EDT ย่อมาจาก Eau de Toilette คือน้ำหอมที่มีความเข้มข้นน้อยอยู่ราวๆ 5 – 15% ซึ่งให้กลิ่นที่บางกว่า เหมาะกับเวลากลางวัน ระยะเวลาติดอยู่ราวๆ 3 – 5 ชั่วโมง ราคาไม่แพงมากนัก ซึ่งสามารถเติมความหอมได้ เพราะต้องฉีดบ่อยกว่า
ตัวอย่างของน้ำหอม EDTกลุ่มนี้ คือ
- Dior Homme Sport
- Acqua di Gio Giorgio Armani
- Bleu de Chanel
น้ำหอม EDP
EDP หรือ Eau de Parfum จะเป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นที่สูงกว่าราวๆ 10 – 20% กลิ่นชัดติดทนทาน เหมาะกับโอกาสพิเศษหรือสภาพกลางคืน ระยะเวลาติดทนทำได้ 5 – 8 ชั่วโมง เน้นเรื่องกลิ่นที่ชัดเจนกว่า และจริงๆ ฉีดกลางวันก็ได้ ถ้าต้องการกลิ่นที่ติดทนนาน แต่ราคาต้องทำใจ มันจะสูงกว่าชัดเจน
ตัวอย่างของน้ำหอม EDP กลุ่มนี้ เช่น
- Sauvage Dior
- Terre d'Hermès
- Tom Ford Noir
การเลือกน้ำหอมที่เหมาะสมกับตัวเอง
การเลือกน้ำหอมควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- บุคลิก น้ำหอมแต่ละกลิ่นจะสื่อถึงบุคลิกที่แตกต่างกัน ควรเลือกกลิ่นที่เหมาะกับบุคลิกของตัวเอง
- โอกาส น้ำหอมบางกลิ่นเหมาะสำหรับใช้เวลากลางวัน บางกลิ่นเหมาะสำหรับใช้เวลากลางคืน ควรเลือกกลิ่นที่เหมาะกับโอกาสที่จะใช้
- ฤดูกาล น้ำหอมบางกลิ่นเหมาะสำหรับใช้ในฤดูร้อน บางกลิ่นเหมาะสำหรับใช้ในฤดูหนาว ควรเลือกกลิ่นที่เหมาะกับสภาพอากาศ
- ความชอบส่วนตัว สิ่งสำคัญที่สุดคือควรเลือกกลิ่นที่ตัวเองชอบ
หวังว่าเมื่อคุณรู้จักน้ำหอมทั้ง 2 ประเภทนี้คงจะทำให้เลือกได้ถูกต้องมากขึ้นว่าแบบไหนที่ใช้สำหรับคุณที่สุดและดึงดูดใจสาวๆ ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ
อ่านเพิ่มเติม
สนับสนุนเนื้อหา
