5 เครื่องมือ AI สุดเจ๋ง ตัวช่วยทำงานที่มนุษย์ออฟฟิศควรรู้จัก
ชีวิตยุคดิจิทัลเช่นทุกวันนี้ หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) วนเวียนอยู่ในวิถีชีวิตของเรามากกว่าที่คิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงของการทำงาน ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า AI ซึมซับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานในสถานะ “ตัวช่วย” ได้พักใหญ่แล้ว เราใช้งาน AI สำหรับทำงานกันมานานแล้วเพียงแต่ไม่รู้ว่ามันเป็น AI ซึ่งช่วยให้เราสามารถทำงานได้รวดเร็วและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การที่ AI สามารถทำงานได้หลากหลายแถมยังค่อนข้างอัจฉริยะ จึงมีข่าวลือแปลก ๆ เกี่ยวกับ AI ว่า AI จะมาแย่งงานคนอีกด้วย ในความเป็นจริง หากเราใช้ประโยชน์จาก AI เป็น ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวตกงาน เพราะเราสามารถทำให้ AI กลายเป็นเครื่องมือชั้นยอดที่ช่วยให้เราทำงานได้อย่างมืออาชีพมากขึ้นนั่นเอง เราลองมาดูกันว่ามี AI ตัวไหนบ้างที่คนทำงานสามารถใช้ประโยชน์เพื่อการทำงานได้
ChatGPT
นาทีนี้คงแทบจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับแชตบอตสุดอัจฉริยะอย่าง ChatGPT ซึ่งเป็น AI แชตบอตตัวดังของ OpenAI ด้วยก่อนหน้านี้เป็นที่ฮือฮามากบนโลกออนไลน์ถึงความฉลาดยังกะอับดุล ถามอะไรตอบได้ ถามอะไรไปรู้แทบทุกเรื่อง (แต่อย่าถามกว้างมาก เพราะมันก็จะตอบกลับมาแบบกว้าง ๆ แบบที่เราไม่ต้องการ ซึ่งอาจจะใช้ประโยชน์ไม่ได้) จนมีข่าวลือเรื่องที่ว่าความปราดเปรื่องของ ChatGPT อาจทำให้ผู้คนจากหลากหลายสาขาอาชีพตกงานก็เป็นได้
ดังนั้น ทางรอดของคนทำงานที่ไม่อยากตกงานเพราะ ChatGPT ก็คือ ต้องรู้จักใช้งานมันให้เป็น ในเมื่อมันฉลาดนักก็นำเอามันมาใช้ประโยชน์ซะเลย! ด้วย AI ตัวนี้สามารถช่วยร่นระยะเวลาและลดขั้นตอนการทำงานของเราลงได้เยอะ ทำงานได้หลายอย่างมาก ๆ แถมยังสามารถพูดคุยกับเราและแสดงอารมณ์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนเรากำลังแชตคุยอยู่กับคนจริง ๆ เลยทีเดียว ดังนั้น ใครมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับเรื่องงานที่คิดไม่ตก แก้ปัญหาไม่ได้ ไม่มีไอเดีย ลองถาม ChatGPT ดู เผื่อว่าจะดวงตาเห็นธรรมได้
Grammarly
ใครที่ทำงานเกี่ยวกับงานเขียนที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นประจำน่าจะรู้จักตัวช่วยตัวนี้ดี เพราะ Grammarly คือ AI ตัวช่วยสำหรับเช็กภาษาที่เป็นที่นิยมมากเจ้าหนึ่ง เหล่าคนทำงานในวงการนี้มักจะใช้ประโยชน์ในการตรวจเช็กงานเขียน งานแปล โดยเช็กได้ตั้งแต่ไวยากรณ์ ตัวสะกด เครื่องหมายวรรคตอน บริบทของการใช้คำว่าต้องการความเป็นทางการมากแค่ไหน คือแก้คำผิดก็ได้ แก้ไวยากรณ์ก็ได้ แก้รูปประโยคที่เยิ่นเย้อไม่กระชับได้ เช็กได้แม้กระทั่ง Plagiarism หรือก็คือการตรวจจับการคัดลอกผลงาน ทำให้เราสามารถใช้ภาษาอังกฤษในงานเขียนได้อย่างเป๊ะปังและมืออาชีพมากขึ้น
Grammarly จึงเป็นอีกตัวช่วยสำหรับคนที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษทำงานเป็นประจำ โดยสามารถตั้งค่ารูปแบบการเขียนให้เป็นไปตามที่เราต้องการได้ ที่สำคัญ เรายังสามารถติดตั้ง Grammarly กับเว็บเบราว์เซอร์ต่าง ๆ ได้ด้วย เช่น Chrome หรือ Safari เพื่อให้ Grammarly คอยตรวจสอบการพิมพ์ภาษาอังกฤษของเราได้แบบ Real-Time โดยมีทั้งแบบใช้งานฟรี (จำกัดฟังก์ชัน) และแบบเสียเงิน
Google Lens
เมื่อก่อน หลายคนอาจเคยมีปัญหาว่ามีรูปภาพอยู่ภาพหนึ่งและอยากรู้เกี่ยวกับรายละเอียดของรูปภาพนั้น เช่น คนในรูปภาพเป็นใคร เหตุการณ์ในรูปภาพคือเหตุการณ์อะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหาข้อมูลเกี่ยวกับรูปภาพนั้นว่ายังไงดี แถมไม่รู้ว่าจะใช้คีย์เวิร์ดอะไรในการค้นหาด้วย ทว่าทุกวันนี้ทุกอย่างสะดวกขึ้นมาก เพราะเราสามารถค้นหาข้อมูลของรูปภาพต่าง ๆ ได้แล้วด้วยฟังก์ชันการค้นหาด้วยรูปภาพ Google Lens ซึ่งเราจะอัปโหลดรูปภาพขึ้นไปค้นหา หรือจะถ่ายใหม่ด้วยกล้องถ่ายภาพของอุปกรณ์เราก็ได้ ถ้ารูปภาพนั้นไม่ได้เป็นรูปภาพเฉพาะและมีอยู่ในอินเทอร์เน็ต ยังไงก็ค้นเจอ
ตัวช่วยค้นหาข้อมูลด้วยรูปภาพอย่าง Google Lens มีจุดเด่นตรงที่รวบรวมรูปภาพและผลการค้นหาจากทั่วทั้งโลกอินเทอร์เน็ต ระบบจะทำการสแกนภาพที่เราถ่ายหรืออัปโหลดขึ้นไปแล้วหารูปภาพที่ตรงกันขึ้นมาให้ พร้อมด้วยลิงก์รายละเอียดข้อมูลของภาพนั้น ๆ ขึ้นมาอีกเพียบ ไม่ต้องคิดคีย์เวิร์ดแล้วไปพิมพ์หาในช่องเสิร์ชอีกต่อไป ที่สำคัญ ใช้งานได้ฟรี ใครใช้ Google Chrome เป็นเว็บเบราว์เซอร์หลักก็ลองไปเล่นกันดู
Midjourney
มาถึง AI กับผลงานศิลปะกันบ้าง ที่เป็นที่รู้จักก็คือ Midjourney ซึ่งเป็น AI สำหรับสร้างสรรค์ผลงานศิลปะโดยที่เราไม่ต้องวาดเอง หากเราต้องการใช้รูปภาพแบบที่เรามีไอเดียอยู่แล้วแต่ไม่สามารถจะทำให้ไอเดียนั้นออกมาเป็นรูปภาพได้ โดย Midjourney จะเหมาะกับคนกลุ่มกราฟิกดีไซน์เพื่อใช้ในการออกแบบชิ้นงาน หรือนักเขียนที่ไม่ถนัดวาดภาพ แต่ต้องการภาพมาประกอบงานเขียน (โดยไม่ได้นำใช้ในเชิงพาณิชย์) บุคคลทำงานทั่วไปที่ต้องการภาพประกอบการนำเสนอผลงาน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เวลานำภาพที่สร้างขึ้นจาก AI นี้ไปใช้งาน อาจจะใส่ข้อความกำกับไว้หน่อยก็ดีว่าเป็นภาพที่สร้างขึ้นจาก AI เพื่อหลีกเลี่ยงประเด็นอ่อนไหวและดราม่าต่าง ๆ เพื่อให้รู้กันไปเลยว่าเป็นภาพที่สร้างจาก AI และเราไม่ได้มีเจตนาจะนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ โดยเราเป็นคนออกแบบภาพนี้เองแต่แค่วาดเองไม่ได้ และย้ำอีกครั้งว่าไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะนำภาพที่ได้จาก AI ไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ด้วยยังเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นการขโมยผลงานศิลปะของศิลปินที่มีตัวตนอยู่จริง
Notion AI
แต่เดิม Notion เป็นเครื่องมืออเนกประสงค์ในการจัดเก็บข้อมูล หลาย ๆ องค์กรนำ Notion มาใช้ประโยชน์ในการทำงานร่วมกันในทีม เพื่อแชร์ข้อมูลให้กันอย่างเป็นระบบ บันทึกการประชุม รับฟีดแบ็กจากลูกค้า จดโน้ต เก็บเอกสาร สร้าง To-do list และอื่น ๆ เพื่อการทำงานร่วมกัน แต่เมื่อ Notion ขยายการใช้งานเป็น Notion AI ประโยชน์ของมันก็มากขึ้น
Notion AI จึงกลายเป็นตัวช่วยสำหรับคนที่ทำงานด้านงานเขียน ประโยชน์ก็คือ สามารถช่วยร่างเนื้อหาในเบื้องต้นได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนแนวเป็นทางการอย่างอีเมล เขียนบล็อก เขียนบทความ จดหมายสมัครงาน หรือเนื้อหาเพื่อความบันเทิง ให้แต่งกลอนก็ทำได้ แคปชันเท่ ๆ เก๋ ๆ บนโซเชียลมีเดียก็ทำเป็น ช่วยสรุปเนื้อหา ช่วยปรับปรุงการเขียนแก้ไขข้อความให้ดีขึ้น รวมทั้งตรวจการสะกดคำและตรวจไวยากรณ์ ใครทำงานสายเขียนคอนเทนต์ งาน copywriter หรือสายการตลาด ประชาสัมพันธ์ สามารถนำ Notion AI มาช่วยใช้งานให้ผลงานมีความน่าสนใจมากขึ้นได้