ทำความรู้จัก “เริม” โรคที่ไม่จำเป็นต้องมีเซ็กส์ ก็เกิดขึ้นได้ !

ทำความรู้จัก “เริม” โรคที่ไม่จำเป็นต้องมีเซ็กส์ ก็เกิดขึ้นได้ !

ทำความรู้จัก “เริม” โรคที่ไม่จำเป็นต้องมีเซ็กส์ ก็เกิดขึ้นได้ !
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เริมเป็นโรคติดต่อที่คุณผู้ชายหลายคนอาจมองว่าน่าอาย จึงเลี่ยงการพบแพทย์ แต่ในความเป็นจริง คือ เริมเป็นโรคที่สามารถรักษาได้และไม่ร้ายแรง สิ่งสำคัญคือต้องจัดการทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่นและไม่ลุกลาม

ดังนั้นการขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากสามารถให้ทางเลือกการรักษาที่มีประสิทธิภาพได้อย่างรวดเร็ว

รู้จักโรคเริม สาเหตุ และประเภทของโรค

เริมเป็นโรคผิวหนังที่พบบ่อย ซึ่งติดต่อได้ง่ายและสามารถส่งผลกระทบต่อบุคคลทุกวัย โดยเฉพาะผู้ใหญ่วัยหนุ่มสาว ทั้งชายและหญิงมีความอ่อนไหวต่อภาวะนี้เท่าเทียมกัน สาเหตุของโรคเริม คือ ไวรัสเริม หรือ HSV ซึ่งมี 2 ประเภท คือ

  • ไวรัสเริมชนิดซิมเพล็กซ์ 1 หรือ HSV-1 เป็นสาเหตุของการติดเชื้อบริเวณรอบปาก เช่น ที่ริมฝีปาก หรือรอบปาก ภาวะนี้อาจเกิดขึ้นเมื่อร่างกายอ่อนแอ

ระบบภูมิคุ้มกันต่ำ ในช่วงที่มีความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ หลังการผ่าตัด การถูกแสงแดดเป็นเวลานาน หรือในช่วงรอบเดือนของผู้หญิง

  • ไวรัสเริมชนิดซิมเพล็กซ์ 2 หรือ HSV-2 เป็นสาเหตุทำให้เกิดการติดเชื้อบริเวณอวัยวะเพศ

ไวรัสทั้ง 2 ชนิดยังสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ เมื่อระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น รอบดวงตาหรือสมอง เมื่อติดเชื้อแล้ว ไวรัสจะยังคงอยู่ในเซลล์ประสาท ทำให้สามารถฟื้นตัวจากอาการต่าง ๆ ได้ แต่ไม่สามารถกำจัดให้หมดไปได้ อาจกลับมาเป็นซ้ำได้เมื่อร่างกายอ่อนแอ ระบบภูมิคุ้มกันต่ำ โดยเฉพาะในเด็กที่อาจเกิดการระบาดบ่อยกว่าผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตาม เมื่ออายุมากขึ้นและระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น อาการก็จะลดลง

อาการที่ชัดเจน เมื่อติดเชื้อเริม

อาการที่โดดเด่นที่สุดของโรคเริม คือ การมีตุ่มใสขนาดเล็ก ให้สัมผัสที่เจ็บปวดและแสบ บริเวณที่ได้รับผลกระทบ ภายใน 1-2 วัน ตุ่มพองจะมีของเหลวและปรากฏเป็นกระจุก บนผิวหนังที่ติดเชื้อ โดยทั่วไปพบมากที่บริเวณปาก อวัยวะเพศ บั้นท้าย หรือขา อาการมักจะคงอยู่นาน 1-2 สัปดาห์ ก่อนเกิดแผลพุพอง ผู้ป่วยอาจรู้สึกเหนื่อยล้า ปวดเมื่อยตามร่างกาย หรือมีอาการคล้ายหวัดเล็กน้อย ซึ่งมักไม่มีใครสังเกตเห็น ผู้ป่วยที่ติดเชื้อครั้งแรกอาจมีอาการรุนแรงกว่า และต้องได้รับการรักษานานกว่าผู้ป่วยที่เคยติดเชื้อมาก่อน

การติดเชื้อซ้ำมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้นและหายเร็วขึ้น การแพร่กระจายของเริม อาจเกิดขึ้นได้จากการสัมผัสโดยตรงบริเวณแผล จากของเหลวในแผลพุพอง และจากน้ำลาย หรือการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเพศ ตลอดจนการใช้เซ็กส์ทอยร่วมกับผู้อื่น สามารถนำไปสู่การแพร่เชื้อได้เช่นกัน นอกจากนี้ การใช้สิ่งของอื่น ๆ เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว และภาชนะร่วมกับผู้มีเชื้อ ก็อาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อได้เช่นกัน สิ่งสำคัญคือต้องระมัดระวังและปฏิบัติตามสุขอนามัยที่ดี เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคเริม

เริ่ม ไม่หายขาดแต่รักษาและบรรเทาอาการได้

ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่าเมื่อร่างกายติดเชื้อไวรัส Herpes Simplex จะฝังตัวอยู่ในเซลล์ประสาท ทำให้รักษาไม่หาย การไปพบแพทย์จึงสามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและความรุนแรงของโรคได้ แพทย์สามารถสั่งจ่ายยา เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสและลดความรุนแรงของอาการได้ นอกจากนี้ ยังมียาสำหรับทาเฉพาะที่ ลดการอักเสบของแผลและรอยโรค ซึ่งโดยทั่วไปจะหายภายใน 2-6 สัปดาห์ สำหรับผู้ป่วยทั่วไปที่มีอาการไม่รุนแรง การพักผ่อนอย่างเพียงพอ การจัดการความเครียด และการดูแลสุขภาพโดยรวมที่ดี สามารถฟื้นตัวได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook