วิธีเลือกรองเท้าออกกำลังกายให้เหมาะสม เพิ่มประสิทธิภาพให้เท้าของคุณ

วิธีเลือกรองเท้าออกกำลังกายให้เหมาะสม เพิ่มประสิทธิภาพให้เท้าของคุณ

วิธีเลือกรองเท้าออกกำลังกายให้เหมาะสม เพิ่มประสิทธิภาพให้เท้าของคุณ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ไหมครับ เวลาที่ไปดูรองเท้าสำหรับออกกำลังสักคู่เลือกกันปวดหัวตั้งแต่ชนิด และ ขนาดอยู่แล้ว รวมไปถึง ไซล์ที่จะต้องเลือกพอดีดูผิดนิดเดียวก็ยากแล้ว

วันนี้ Sanook Men จะมาแนะนำเทคนิคการเลือกรองเท้าให้เหมาะกับการออกกำลังกายของคุณ พร้อมแล้วมาดูกัน

 

เลือกรองเท้าตามประเภทการออกกำลังกาย

ใช่ว่ารองเท้าทูกแบบจะเหมาะกับการออกกำลังกายทุกชนิด ดังนั้นเรามาดูชนิดรองเท้าสำหรับออกกำลังกายกันก่อนโดยแบ่งออกเป็นดังนี้

  1. รองเท้าวิ่ง (Running Shoes) เป็นรองเท้ายที่ออกแบบมาเพื่อรองรับแรงกระแทกขณะวิ่ง มีพื้นรองเท้าที่นุ่มและยืดหยุ่น ช่วยลดแรงกระแทกต่อข้อเท้าและหัวเข่า เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบวิ่งออกกำลังกายเป็นประจำ
  2. รองเท้าเทรนนิ่ง (Training Shoes):รองเท้าอเนกประสงค์ เหมาะสำหรับการออกกำลังกายทั่วไป เช่น เวทเทรนนิ่ง หรือคลาสออกกำลังกายต่างๆ มีพื้นรองเท้าที่มั่นคงและยืดหยุ่น รองรับการเคลื่อนไหวได้หลากหลาย ซึ่งบางรุ่นสามารถใส่วิ่งได้ แต่ไม่เหมาะกับการวิ่งระยะไกล
  3. รองเท้าสำหรับเต้นแอโรบิก (Aerobic Shoes) รองเท้าชนิดแบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการเต้นแอโรบิกโดยเฉพาะ มีน้ำหนักเบาและยืดหยุ่นสูง ช่วยให้เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัวและลดแรงกระแทกต่อข้อเท้า
  4. รองเท้าบาสเกตบอล (Basketball Shoes) เป็นรองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการกระโดดและการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในกีฬาบาสเกตบอล มีพื้นรองเท้าที่หนาและแข็งแรง ช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่ข้อเท้า สังเกตว่าทรงจะใหญ่ๆ และมีหุ้มข้อ
  5. รองเท้าฟุตบอล (Football Shoes/Cleats) เป็นรองเท้าแบบเดียวที่จะมีปุ่มใต้รองเท้าเพื่อเพิ่มการยึดเกาะกับพื้นสนาม มีทั้งแบบปุ่มสั้นสำหรับสนามหญ้าเทียม และปุ่มยาวสำหรับสนามหญ้าจริง
  6. รองเท้าเทนนิส (Tennis Shoes) ถูกออกแบบมาเพื่อการเคลื่อนไหวด้านข้างอย่างรวดเร็ว มีพื้นรองเท้าที่แข็งแรงและยึดเกาะพื้นสนามได้ดี ช่วยป้องกันการลื่นไถล
  7. รองเท้ากอล์ฟ (Golf Shoes) อีกรองเท้าที่จะมีปุ่มใต้รองเท้าเพื่อเพิ่มการยึดเกาะกับพื้นสนามหญ้า ช่วยให้ทรงตัวได้ดีขณะสวิง
  8. รองเท้าเดินป่า (Hiking Boots) เป็นรองเท้าที่ออกแบบมาเพื่อการเดินป่าและปีนเขา มีพื้นรองเท้าที่หนาและแข็งแรง ช่วยป้องกันการบาดเจ็บจากพื้นผิวขรุขระและรองรับน้ำหนักของสัมภาระ บางรุ่นจะเหมาะกับการลุยหิมะด้วย
  9. รองเท้าสำหรับเล่นกีฬาทางน้ำ (Water Shoes) อาจจะห่างไกลสักหน่อย แต่จริงๆ แล้วรองเท้าแบบนี้มักจะทำมาจากวัสดุที่แห้งเร็วและระบายอากาศได้ดี มีพื้นรองเท้าที่ยึดเกาะได้ดีแม้พื้นผิวจะเปียก เหมาะสำหรับกิจกรรมทางน้ำต่างๆ เช่น พายเรือคายัค หรือเดินเล่นชายหาด

เลือกขนาดที่ใช่

เมื่อเราเลือกประเภทการออกกำลังกายที่คู่กับรองเท้ายได้แล้ว สิ่งต่อมาที่ต้องคิดคือขนาดหรือไซล์ของรองเท้าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ทำให้คุณใส่ใช้งานให้เหมาะสมโดยปัจจัยการเลือกไซล์นั้นมีหลากหลายข้อตั้งแต่

  1. มาตรฐานต่างกันในแต่ละประเทศ: แต่ละประเทศมีระบบการวัดขนาดเท้าที่แตกต่างกัน เช่น สหรัฐอเมริกาใช้ระบบ US, สหราชอาณาจักรใช้ UK, ยุโรปใช้ EU, ญี่ปุ่นใช้ CM เป็นต้น ทำให้ขนาดรองเท้าเดียวกันอาจมีตัวเลขต่างกันในแต่ละระบบ
  2. ความแตกต่างระหว่างผู้ชายและผู้หญิง: ขนาดเท้าของผู้ชายและผู้หญิงโดยเฉลี่ยแตกต่างกัน ดังนั้นจึงมีการแยกไซส์รองเท้าสำหรับผู้ชายและผู้หญิง
  3. ความกว้างของเท้า: นอกจากความยาวเท้าแล้ว ความกว้างก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกรองเท้า บางแบรนด์จึงมีการระบุความกว้างของรองเท้าด้วย เช่น B (แคบ), D (ปกติ), E (กว้าง) เป็นต้น
  4. ความแตกต่างระหว่างแบรนด์: แม้จะใช้ระบบการวัดเดียวกัน แต่ขนาดรองเท้าของแต่ละแบรนด์อาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อยเนื่องจากรูปแบบและการออกแบบที่แตกต่างกัน

 

ลองสวมใส่ หรือถามคนขาย

นอกจากขนาดของการสวมใส่แล้วเราต้องดูเพิ่มที่ความกว้างของรองเท้าเข้ากับเท้าของเราหรือไม่เพื่อให้เกิดการใส่แล้วพอดีกับเท้า และเราควรจะเผื่อสักหน่อยเพราะเท้าของเราอาจจะมีการยืดหดขยายตามกิจกรรมของเราได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ถ้าไปหน้าร้านเราลองถามคนขายเพื่อให้คำแนะนำเลือกให้ถูกต้องใส่แล้วจะได้ไม่เจ็บ

รวมไปถึงถ้าเราซื้อออนไลน์เราควรจะศึกษาเงื่อนไขการคืนสินค้าด้วยก็จะดีครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook