กลิ่นปาก เรื่องโลกแตกของหนุ่มๆ แก้ได้

กลิ่นปาก เรื่องโลกแตกของหนุ่มๆ แก้ได้

กลิ่นปาก เรื่องโลกแตกของหนุ่มๆ แก้ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กลิ่นปาก… ปัญหาสุดคลาสสิกที่ทำเอาหนุ่มๆ หลายคนขาดความมั่นใจ ไม่กล้าเข้าใกล้สาวๆ หรือแม้แต่พูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน แต่ไม่ต้องกังวลใจไปครับ เพราะกลิ่นปากเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และที่สำคัญคือ "แก้ไขได้"!

ต้นตอของกลิ่นปาก

สาเหตุหลักของกลิ่นปาก มักเกิดจากแบคทีเรียตัวร้ายในช่องปาก ที่คอยย่อยสลายเศษอาหาร โปรตีน และเซลล์เยื่อบุช่องปาก จนเกิดเป็นสารประกอบกำมะถันที่มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสริมอื่นๆ ที่เป็นตัวการทำให้เกิดกลิ่นปาก เช่น

  • สุขอนามัยช่องปากที่ไม่ถูกสุขลักษณะ: การแปรงฟันแบบขอไปที ไม่ใช้ไหมขัดฟัน ละเลยการทำความสะอาดลิ้น ล้วนเป็นการเปิดโอกาสให้เศษอาหารตกค้าง กลายเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของแบคทีเรีย
  • ปากแห้ง: น้ำลายเปรียบเสมือนน้ำยาบ้วนปากตามธรรมชาติ ที่ช่วยชะล้างแบคทีเรียและเศษอาหาร ดังนั้น ภาวะปากแห้งจึงเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ง่าย
  • อาหารการกิน: อาหารบางชนิด เช่น กระเทียม หัวหอม เครื่องเทศ กาแฟ และแอลกอฮอล์ ล้วนมีส่วนทำให้เกิดกลิ่นปาก
  • บุหรี่: นอกจากจะทำลายสุขภาพ บุหรี่ยังทำให้ปากแห้ง ระคายเคืองเนื้อเยื่อในช่องปาก และก่อให้เกิดกลิ่นปากโดยตรง
  • โรคประจำตัว: โรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคกรดไหลย้อน โรคไซนัสอักเสบ และโรคตับ อาจเป็นสาเหตุของกลิ่นปากได้เช่นกัน

istock-887267524

วิธีการแก้กลิ่นปากให้อยู่หมัด

นอกจากเรื่องของต้นเหตุแล้วเรามาดูกันว่าจะแก้ยังไงได้บ้าง

  1. แปรงฟันอย่างมืออาชีพ: แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 2 นาที โดยใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ อย่าลืมแปรงลิ้นหรือใช้ที่ขูดลิ้นทุกครั้ง และใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละครั้ง เพื่อกำจัดเศษอาหารที่ซ่อนตัวอยู่ตามซอกฟัน
  2. เติมความชุ่มชื้นให้ช่องปาก: ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ เคี้ยวหมากฝรั่งปราศจากน้ำตาลเพื่อกระตุ้นการผลิตน้ำลาย และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์
  3. เลือกกินอาหารอย่างชาญฉลาด: หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรง และหันมารับประทานผักผลไม้สด เช่น แอปเปิ้ล แครอท ขึ้นฉ่าย ซึ่งอุดมไปด้วยกากใย ช่วยทำความสะอาดช่องปากได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  4. บอกลาบุหรี่: การเลิกบุหรี่ไม่เพียงแต่ช่วยลดกลิ่นปาก แต่ยังช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นอีกด้วย
  5. ดูแลสุขภาพ รักษาโรคประจำตัว: หากมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม
  6. ใช้น้ำยาบ้วนปากอย่างถูกวิธี: เลือกน้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
  7. ปรึกษาทันตแพทย์: หากมีกลิ่นปากเรื้อรัง แม้จะดูแลตัวเองเป็นอย่างดีแล้ว ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่ตรงจุด

อย่าปล่อยให้กลิ่นปาก มาเป็นอุปสรรคต่อความมั่นใจ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และดูแลสุขอนามัยช่องปากอย่างถูกวิธี คุณก็สามารถมีลมหายใจหอมสดชื่น พร้อมพิชิตทุกสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจ!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook