อย่าเพิ่งมีเซ็กซ์!! หากคุณยังมีความเชื่อเหล่านี้อยู่
ลองวางมายาคติแบบเดิมๆ ทิ้งไป จำเรื่องเหล่านี้ไว้ให้ดี และอย่าคิดจะมีอะไรกับใครเป็นอันขาด หากยังไม่ได้ทำความเข้าใจเรื่องเหล่านี้อย่างแท้จริง เพราะความผิดอะไรก็ไม่ร้ายแรงเท่าความคิดที่ว่าตัวเองเข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้ดีที่สุด ทั้งที่จริงๆ แล้วไม่รู้อะไรเลยนี่แหละครับ
มายาคติ 1 : ผู้หญิงจะไม่ท้อง ถ้าหากมีเซ็กซ์ในขณะที่เธอยังมีประจำเดือนอยู่
ความจริง : จริงอยู่ว่าเวลาผู้หญิงมีประจำเดือน ช่วงนั้นรังไข่ของเธอจะยังไม่พร้อมที่จะให้อสุจิของคุณเข้าไปปฏิสนธิ แต่คุณต้องไม่ลืมว่าเจ้าอสุจิตัวน้อยๆ ของคุณนั้นมีพลังชีวิตที่ทนทรหดไม่แพ้แมลงสาบ เพราะมันสามารถมีชีวิตอยู่รอดในตัวของคุณผู้หญิงเพื่อรอปฏิสนธิในช่วงเวลาตกไข่ของเธอได้นานถึง 5 วัน!
มายาคติ 2 : เธอจะปลอดภัยแน่นอนหากดึงออกมาหลั่งข้างนอกทัน
ความจริง : แม้จะเป็นเรื่องที่พูดกันแทบไม่ขาดปาก แต่ขออีกสักครั้งเถอะครับอย่าเพิ่งเบื่อกันเสียก่อน เพราะคุณผู้ชายหลายคนก็ยังคงใช้วิธีนี้ในการบ่ายเบี่ยงที่จะไม่ใส่ถุงยางอนามัยอยู่เสมอ และสุดท้ายก็ได้แต่มานั่งเสียใจทีหลัง เพราะทุกครั้งที่มีการสอดใส่แม้จะไม่ถึงจุดไคลแม็กซ์จนหลั่งออกมา แต่อวัยวะเพศของคุณจะมีการหลั่งน้ำหล่อลื่นเล็กน้อยออกมาด้วยเสมอ ซึ่งจะมีอสุจิส่วนหนึ่งที่แทรกซึมมากับน้ำหล่อลื่นนั้นด้วย แม้มีจำนวนไม่มาก แต่ก็ด้วยจำนวนเท่านี้แหละครับที่ทำให้สาวๆ และหนุ่มๆ หลายคนต้องน้ำตาตกในกันมานักต่อนักแล้ว
มายาคติ 3 : การช่วยตัวเองทำให้อวัยวะเพศใหญ่ขึ้น
ความจริง : แน่ละว่าการช่วยตัวเองแม้มันจะให้ความรู้สึกที่ดี แต่ความเป็นไปได้ที่จะทำให้อวัยวะของผู้ชายใหญ่ขึ้นนั้นเป็นศูนย์ หลายคนพยายามใช้มือนวดคลึงมัน โดยคาดหวังว่าการนวดบ่อยๆ จะช่วยให้อวัยวะเพศใหญ่ขึ้นได้เหมือนกับหน้าอกของผู้หญิง ที่จะขยายขนาดขึ้นได้เมื่อได้รับการนวดหรือการกระตุ้น แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไปหรอกครับ โดยเฉพาะกับ ‘น้องชาย’ ของคุณที่นอกจากจะไม่ทำให้ขยายใหญ่ขึ้นได้แล้ว ยังอาจพลอยทำให้เล็กลงด้วยนะครับ ถ้าหากหมกมุ่นและเร่งรัดมันมากเกินไป
มายาคติ 4 : ถ้าหากผู้หญิงพูดเรื่องอย่างว่า แสดงว่าเธอสำส่อน หรือเป็นพวกกร้านโลก
ความจริง : ผู้ชายหลายคนถึงกับช็อกทำตัวไม่ถูก เมื่อได้ยินคุณผู้หญิงพูดถึงความต้องการของตัวเองออกมา เพราะคิดว่าสาวสวยที่อยู่ตรงหน้าจะต้องผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน สาวน้อยไร้เดียงสาที่ไหนล่ะจะกล้าพูดเรื่องแบบนี้ออกมา หยุดความคิดล้าสมัยแบบนั้นได้แล้วครับ เพราะการพูดคุยถึงความต้องการนั้นคือสิ่งสำคัญไม่แพ้ลีลาในการร่วมรักเลยที เดียว เพราะนั่นแสดงถึงความไว้ใจในตัวคุณ เธอถึงยอมบอกความต้องการของเธอให้คุณรู้ และหวังว่าคุณจะช่วยให้เธอสมปรารถนาได้ ไม่มีทางหรอกครับที่คุณจะเข้าใจและสามารถทำให้เธอพอใจได้ทุกอย่าง เพราะฉะนั้นครั้งหน้า เมื่อได้ยินเธอพูดว่า “ผูกตาฉันที” “ฟาดก้นฉันสิ” หรือ “อยากให้คุณ…อย่างนั้นจังเลย” ก็อย่าแสดงท่าทางตกใจออกไปเพราะจะทำให้เธอเสียความมั่นใจและรู้สึกไม่ดี เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่ทำตามที่เธอบอกก็พอแล้ว
มายาคติ 5 : หากไม่มีการระบายออกของอารมณ์เพศจะทำให้จิตใจผิดปกติ
ความจริง : การตอบสนองต่ออารมณ์เพศและความต้องการทางเพศ อาจเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบางคน ซึ่งจะรู้สึกว่าขาดเสียไม่ได้ และเมื่อเกิดอารมณ์แล้วจำเป็นจะต้องได้รับการตอบสนองเป็นเหมือนสัญชาตญาณพื้นฐาน แต่จะตอบสนองในรูปแบบของการช่วยเหลือตนเองให้มีความสุข หรือการมีความสัมพันธ์กับคู่ก็ตาม ก็เป็นการตอบสนองต่อไฟปรารถนาเช่นกัน แต่เมื่อเกิดอารมณ์เพศแล้วไม่ตอบสนอง ก็ไม่ได้ทำให้เกิดความผิดปกติต่อจิตใจหรือร่างกายแต่อย่างใด แต่การหมกมุ่นจนเกินไป คิดแต่จะหาทางระบายออกท่าเดียวนั่นละครับ ที่เป็นต้นเหตุให้จิตใจผิดปกติได้อย่างแท้จริง
มายาคติ 6 : ถ้าผู้หญิงไม่ออกัสซั่ม ก็แปลว่าเธอไม่สนุกกับเซ็กซ์
ความจริง : การถึงจุดสุดยอดระหว่างร่วมรัก ไม่ใช่เรื่องสำคัญเสมอไปสำหรับผู้หญิง บางครั้งการมีเซ็กซ์โดยปราศจากการถึงจุดสุดยอดนั้น ยังให้ความสุขที่เพียงพอแล้วสำหรับผู้หญิง เธออาจต้องการแค่การได้อยู่ใกล้ชิดกับคนรัก หรือต้องการเพียงแค่ได้ผ่อนคลายในโมงยามสบายๆ เพราะสิ่งที่คาดหวังจากคุณมากที่สุดก็คือความรักและความใส่ใจในการร่วมรักต่างหาก หาใช่การต้องพาเธอไปถึงจุดสุดยอดได้ทุกครั้งอย่างใครหลายคนเสมอไป
มายาคติ 7 : ก่อนร่วมรักจะต้องมีการกระตุ้นอารมณ์ด้วยนิ้วเสมอ
ความจริง : คุณอาจติดภาพมาจากหนังโป๊ที่เคยดู และพานคิดไปว่าทุกครั้งก่อนสอดใส่ จะต้องกระตุ้นอารมณ์เธอด้วยนิ้วเป็นการนำร่องก่อนเสมอ ซึ่งในความเป็นจริง สำหรับผู้หญิงบางคนเพียงแค่การสัมผัสลูบไล้อย่างแผ่วเบาก็เพียงพอแล้ว ขึ้นอยู่กับความต้องการของฝ่ายหญิงเป็นสำคัญ เพราะไม่เช่นนั้นต่อให้คุณนั่งทำครึ่งค่อนวัน มันก็ไร้ผลและเธอเองก็คงเบื่อแย่ และที่สำคัญการใช้นิ้วยังอาจทำให้เธอรู้สึกเจ็บมากกว่าเสียวอีกด้วย
มายาคติ 8 : ผู้หญิงแอบติดใจการร่วมเพศด้านหลังอยู่ลึกๆ
ความจริง : เสียงร้องครวญครางที่คุณได้ยินอาจจะไม่ได้มาจากความเสียวซ่านเสมอไป เพราะการร่วมรักทางประตูหลังนั้นสาวๆ แทบจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันให้ความรู้สึกเจ็บมากกว่าที่จะสร้างความพึงพอใจ แต่ที่พวกเธอยินยอมก็เพราะอยากเอาอกเอาใจหนุ่มๆ เพราะรู้ว่าหนุ่มๆ จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชนะหากได้ร่วมรักผ่านทางนี้เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นใช้ได้บ้างเพื่อความไม่ซ้ำซากจำเจ แต่อย่าให้ถึงขั้นทุกครั้งจนติดเป็นนิสัยเลยครับ เห็นใจพวกเธอหน่อยก็ดี เธออุตส่าห์ตามใจคุณขนาดนี้แล้ว
มายาคติ 9 : ถ้าผู้หญิงเริ่มสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง แสดงว่าผู้ชายสอบตก
ความจริง : ผู้ชายหลายคนเป็นกังวลกับเรื่องนี้มาก เพราะคิดว่าเธอจะต้องไม่พอใจลีลาของเขาเข้าแน่ๆ มิเช่นนั้นเหตุใดจึงยังต้องหาความสุขจากการช่วยเหลือตัวเองอยู่ อย่าใจแคบไปหน่อยเลยครับ หากคุณยังมีความคิดแบบนี้อยู่ เพราะแม้กระทั่งคุณเองที่มีเธออยู่แล้วทั้งคน คุณก็ต้องมีความต้องการและยังหาทางระบายออกด้วยการช่วยตัวเองอยู่บ่อยๆ เลยจริงไหมครับ
มายาคติ 10 : จุมพิตที่ดีจะต้องประกบฝีปากให้ดูดดื่ม และใช้ลิ้นเป็นอาวุธสำคัญ
ความจริง : ในเรื่องการจูบนี่พูดกันยากครับ คุณอาจจะติดภาพฉากจูบอันร้อนแรงจากหนังฮอลลีวู้ดแทบทุกเรื่อง ที่เวลาจูบกันฝ่ายชายและหญิงจะต้องแลกลิ้นกันวุ่นไปหมด แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้หญิงส่วนใหญ่มักชอบการสัมผัสริมฝีปากอย่างละมุนมากกว่า ส่วนเรื่องเฟรนช์คิสก็เหมือนกันครับ ต้องยอมรับว่าคนที่เป็นยอดฝีมือในเรื่องนี้ มีสิทธิ์ทำให้เธออ่อนระทวยใต้วงแขนได้ แต่ถ้าคุณแค่มือสมัครเล่น การแลกลิ้นแบบเก้ๆ กังๆ และมีน้ำลายไหลย้อยอยู่ตลอดเวลา มันจะพลอยให้เกิดความรู้สึกขยะแขยงมากกว่าอ่อนระทวยเอาง่ายๆ นะครับ
มายาคติ 11 : ผู้หญิงที่ชอบวี้ดว้าย เป็นพวกชอบความรุนแรงและมีอารมณ์ทางเพศสูง
ความจริง : อาการวี้ดว้ายเป็นนิสัยของผู้หญิงที่ชอบครื้นเครงเฮฮา หรือไม่ยึดติดอยู่กับกรอบเท่าไหร่ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะต้อง ‘แจ๋น แรด หรือฟรี’ อย่างที่คุณทึกทักไปเองเสมอไปหรอกครับ เพราะหญิงสาวที่เฮฮากล้าแสดงออกหลายๆ คน เมื่อถึงเวลาอยู่บนเตียงกลับนิ่งเงียบเพราะไม่รู้จะแสดงออกในเรื่องนี้อย่างไร ผิดกับสาวๆ ที่ดูเรียบร้อย แต่พอถึงเวลาเข้าจริงๆ คุณอาจจะลืมนึกถึงหญิงสาวที่ชอบกรี๊ดกร๊าดคนก่อนหน้าไปเลยก็ได้