ธวัชชัย แสงธรรมชัย คิด-สู้-Flood! ครีเอทีฟภาคสังคม
อู๋-ธวัชชัย คนหนุ่มวัย 27 ปี เป็นหนึ่งในคนสำคัญที่ทำให้ ‘รู้ สู้ Flood' กลุ่มอาสาสมัครสู้น้ำท่วม กลายเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ด้วยการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับน้ำท่วมที่เข้าใจง่าย น่าสนใจ และน่ารักวาฬสีน้ำเงินที่เขาใช้แทนมวลน้ำ มันน่ารักจนกระทั่งกลายเป็นรูปโปรไฟล์สุดฮิตบนเฟซบุ๊คของใครหลายคนช่วงน้ำท่วม แถมยังมีคนตามในเพจของ ‘รู้ สู้ Flood' ในเฟซบุ๊คนับแสนคน
อู๋เคยทำงานด้านโฆษณามาก่อน ก่อนที่จะหักเหชีวิตของตัวเองมาสู่การทำงานเพื่อสังคม ซึ่งเบื้องหลังการเปลี่ยน เขาบอกกับ GM ว่า การลาออกจากงานประจำในวัย 24 ปี แม้รายได้จะลดลง แต่สิ่งที่ได้มากขึ้นคือ
ความสุขที่ได้ทำบางอย่างเพื่อส่วนรวม "ผมเป็นเด็กโฆษณา คลั่งไคล้การทำโฆษณา ส่วนตัวแล้วไม่ได้เกลียดงานโฆษณานะครับ แต่อยู่ในช่วงที่มีคนมาชักชวน และอยู่ในช่วงที่ตั้งคำถามกับตัวเองว่าเรากำลังทำอะไรและเพื่ออะไรอยู่ ในอีกมุมหนึ่งก็เป็นเรื่องที่ท้าทายมาก และอยากพิสูจน์ว่าคนทำงานภาคสังคมต้องอยู่ได้ ถ้าเรามีฝีมือจริง" อู๋จึงตัดสินใจลาออกจากงานในบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่มาทำงานสื่อสารเพื่อสังคม แล้วเปิดบริษัทเล็กๆ กับคนที่รักในงานที่ทำเพื่อสังคมเหมือนๆ กัน ชื่อว่า ‘Why Not' มุ่งเน้นผลิตสื่อเพื่อสังคมเป็นหลักและมีลูกค้าหลักๆ ที่ผ่านมาเป็นองค์กรที่ทำงานแบบไม่แสวงหาผลกำไร เช่น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม
สุขภาพ เชนจ์ ฟิวส์ชั่น และ กรีนพีซ เป็นต้น
น้ำท่วมคราวนี้ เขาได้เข้าไปเป็นอาสาสมัครเครือข่ายภาคประชาชนของสถานีไทยพีบีเอส โดยอู๋รับหน้าที่เป็นครีเอทีฟในการย่อยข้อมูลต่างๆ ให้ออกมาเข้าใจได้ง่ายที่สุด นำเอาทักษะและความคิดแบบคนโฆษณามาปรับใช้ในการทำงาน และกว่าจะออกมาอย่างที่เห็น ต้องเริ่มตั้งแต่ปลายน้ำ ทั้งหาข้อมูลเบื้องต้นจากนักวิชาการ ก่อนมาย่อยเป็น Infographic จากนั้นก็ส่งต่อไปยังทีมงานอาสาสมัครคนอื่นๆ จนสำเร็จกลายเป็นการ์ตูนแอนิเมชั่น รู้ สู้ Flood ทั้งหมด 10 ตอน
"เป็นโปรเจ็กต์ที่มีเงิน 10 ล้านก็ทำไม่ได้ มันดีมากตรงที่ทุกคนมาด้วยเป้าประสงค์เดียวกัน ถอดอีโก้มาทำงานเพื่อส่วนรวม และผลตอบรับที่ได้ก็ทำให้คนงานหายเหนื่อยครับ โดยเฉพาะเวลาที่รู้ว่าสิ่งที่เราทำมันมีประโยชน์กับคนในวงกว้างจริง" ถึงแม้น้ำจะลด ถนนจะกลับมาแห้งเหมือนเดิม อู๋บอกเราว่า ‘รู้ สู้ Flood' ก็จะยังมีอยู่ และยังคงไม่รับการสนับสนุนทางการเงิน แม้จะไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนช่วงน้ำท่วม แต่ทีมงานยังรวมตัวกันอย่างหลวมๆ เพื่อเคลื่อนไหวช่วยเหลือสังคมกันต่อเนื่อง นอกจากนี้ในอนาคตพวกเขายังอาจจะมีโปรเจ็กต์ดีๆ มาให้เราได้เห็นกันในรูปแบบอื่นที่จะเป็นประโยชน์กับสังคม ส่วนจะมาในรูปแบบไหน หรือเมื่อไหร่ ต้องคอยติดตามดูกันเอาเอง