อิสระ วงศ์รุ่ง นักบริหารผู้ขับเคลื่อน KLeasing สู่ความสำเร็จ
คงไม่ผิดนัก ถ้า GM จะบอกว่า อิสระ วงศ์รุ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด (KLeasing) เป็นนักบริหารมากฝีมือ ที่มีผลงานการบริหารงานอันโดดเด่นน่าจับตา ตลอดช่วง 6 ปีที่อิสระเข้ามากุมบังเหียน KLeasing ตัวเลขการเติบโต ขององค์กรเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด
ปี 2553 KLeasing มียอดปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์กับ สินเชื่อเพื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ทั้งสิ้น 41,616 ล้านบาท โดยเมื่อเทียบกับยอดรวมของปี 2552 ปรากฏว่า KLeasing เติบโตถึงร้อยละ 33.31 รวมทั้งมีผลกำไรรวมเท่ากับ 393 ล้านบาท เติบโตจากปี 2552 คิดเป็นร้อยละ 63.15 และมียอดสินเชื่อคงค้างรวม 53,908 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้านั้นถึงร้อยละ 23.63% ที่สำคัญ KLeasing ถือเป็นผู้นำในด้านการให้บริการสินเชื่อสำหรับรถซูเปอร์คาร์อีกด้วย
ยังไม่รวมรางวัลระดับประเทศและระดับภูมิภาคเอเชียที่ KLeasing หนึ่งในธุรกิจสำคัญของเครือธนาคารกสิกรไทย กวาดมาได้แบบหลายปี ต่อเนื่องกัน เท่านี้ก็การันตีได้ถึงความสามารถในการบริหารงานของอิสระได้เป็นอย่างดี
ในโอกาสที่ KLeasing ดำเนินธุรกิจมาครบ 6 ปี และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 ในการเป็นผู้นำด้านการให้บริการสินเชื่อรถยนต์ที่หลากหลายและครบวงจร GM ชวนอิสระมาพูดคุยในเรื่องธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์ที่เขาคลุกคลีมากว่า 24 ปี ทั้งเรื่องการทำงาน ชีวิตด้านอื่นๆ และโดยเฉพาะเรื่องกีฬากอล์ฟที่เขารัก
ความที่อิสระทำงานคลุกคลีอยู่ในธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์ มาอย่างยาวนาน ทำให้เขาเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายในธุรกิจนี้ อิสระบอกว่าในอดีตหากไม่ใช่ลีสซิ่งของบริษัทรถยนต์จะมีก็แต่ลีสซิ่งของบริษัทเงินทุนหรือไฟแนนซ์เท่านั้น จำนวนผู้ประกอบการจึงมีไม่มาก ต่างกับปัจจุบันที่มีผู้ประกอบการจำนวนมาก การแข่งขันจึงสูงตามกัน
"สมัยก่อนธนาคารพาณิชย์ไม่ทำธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ บริษัทไฟแนนซ์จึงครองตลาดธุรกิจนี้ แต่พอแบงก์ชาติเปิดเสรีทางการเงินให้ธนาคารพาณิชย์สามารถทำธุรกิจประเภทนี้ได้ ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ก็กลายมาเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด" อิสระบอกกับเรา
เมื่อธุรกิจเปลี่ยน ผู้บริหารองค์กรก็ต้องปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลง อิสระเล่าว่า สถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อรถยนต์ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ การบริหารงานให้ทันยุคทันสมัยมากขึ้น เขายกตัวอย่าง KLeasing ซึ่งอยู่ในเครือของธนาคารกสิกรไทย ที่หันมาออกผลิตภัณฑ์ จัดแคมเปญการตลาดร่วมกับผลิตภัณฑ์ของธนาคาร เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด และเป็นทั้งจุดแข็งและสร้างจุดขายที่ผู้บริการรายอื่นไม่มี
อิสระบอกว่าหน้าที่สำคัญของเขาคือสร้างแบรนด์ KLeasing ให้เหนือกว่าคู่แข่ง เพื่อเป็นผู้นำในธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์ให้ได้ ซึ่งเวลาที่ผ่านมา ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขาทำได้จริงๆ
ไม่เพียงหน้าที่รับผิดชอบใน KLeasing เท่านั้น เพราะไม่นานมานี้ อิสระได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย อีกด้วย เขาบอกว่างานในสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทยเป็นงานเพื่อส่วนรวม ซึ่งมี ส่วนช่วยเสริมกับงานที่เขารับผิดชอบใน KLeasing ด้วย เพราะเขาได้เห็นข้อมูลส่วนกลางทั้งหมดของกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งเป็นประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจของ KLeasing และผลพลอยได้อีกอย่างที่ตามมาก็คือ มันทำให้แบรนด์ KLeasing เด่นชัดยิ่งขึ้น
"การไปร่วมงานต่างๆ ในฐานะของประธานกรรมการสมาคมฯ อย่างน้อยๆ คนก็ได้รู้แล้วว่าผมเป็นผู้บริหารของ KLeasing ยิ่งได้เห็นหน้าผมบ่อยๆ การรับรู้ต่อ KLeasing ก็มากขึ้น"
ตลอด 24 ปีที่อิสระคลุกคลีอยู่ในธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์ เขาได้สร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งกับคนในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์หรือสื่อมวลชนสายยานยนต์ ซึ่งเครือข่ายเหล่านี้ สามารถช่วยผลักดันให้ KLeasing เติบโตอย่างมั่นคงได้ในอนาคต
เราจึงอยากรู้ว่า อิสระมีนักธุรกิจ คนไหนที่ถือเป็นต้นแบบในการทำงาน ?
คำตอบของหัวเรือใหญ่แห่ง KLeasing คือ บัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) นั่นเอง
อิสระบอกกับเราว่า เขาจำคำสอนของ บัณฑูร ล่ำซำ ที่เคยพูดกับเขาได้เป็นอย่างดี ว่า "ความเสี่ยงของผู้บริหาร คือความรัก ที่มีต่อสินค้าและบริการของตัวเอง แต่ลูกค้า ไม่อาจรู้ถึงความรักนั้นได้ เพราะไม่เห็นข้อดีของสินค้า และไม่สามารถรับรู้ถึงจุดเด่น ของสินค้า หลักการสำคัญจึงอยู่ที่ผู้บริหาร ต้องสื่อสารจุดเด่นของสินค้าออกไปให้ลูกค้าได้รู้"
ซึ่งนั่นเป็นหลักการตลาดที่อิสระยึดถือปฏิบัติมาจนถึงปัจจุบัน
6 ปีในการดำเนินธุรกิจของ KLeasing องค์กรแห่งนี้ได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำในตลาดการให้บริการสินเชื่อรถยนต์ที่ครบวงจร เป็นเพราะการใช้ยุทธศาสตร์ การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ที่มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยนวัตกรรมสินค้าที่นำเสนอผ่านช่องทาง จำหน่ายที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ตลอดจน ความมุ่งมั่นในการให้บริการที่เหนือชั้นกว่าคู่แข่ง นั่นทำให้เราไม่แปลกใจเลยที่ KLeasing สามารถกวาดรางวัลมาได้จากหลายสถาบัน ทั้งรางวัลระดับประเทศ คือ Best Car Leasing โดย บริษัท กรังด์-ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้จัดงาน Bangkok International Motor Show โดย KLeasing คว้ามาได้ 3 ปีซ้อน คือในระหว่างปี 2552-2554 และรางวัลระดับภูมิภาคเอเชีย Frost & Sullivan Award ASEAN Automotive Finance Company of The Year 2008 (Thailand) และ Frost & Sullivan Asia Pacific Automotive Awards 2009
รางวัลเหล่านี้มีความหมายกับอิสระและบุคลากรของ KLeasing อย่างมาก เพราะใช่เพียงแต่สร้างชื่อเสียงให้กับองค์กรเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่แสดงถึงความสำเร็จที่สามารถขึ้นมายืนอยู่แถวหน้าได้ภายในระยะเวลา 6 ปี
นอกเหนือจากการทุ่มเทให้กับงาน อีกด้านของชีวิต สิ่งที่อิสระทุ่มเทให้ไม่น้อยไปกว่ากันนั่นคือ ความหลงใหลในกีฬากอล์ฟของเขา
ย้อนกลับไปสมัยที่เขาเริ่มต้นทำงานใหม่ๆ เมื่อราว 20 ปีก่อน ก่อนหน้านั้นเขาเล่นกอล์ฟไม่เป็น แต่สาเหตุที่ทำให้หนุ่มคนนี้ ต้องศึกษาเรียนรู้กีฬากอล์ฟเพราะได้รับ มอบหมายให้เป็นตัวตั้งตัวตีในการพาพนักงานร่วมบริษัทไปเข้าร่วมดวลวงสวิงกับคู่ค้า แต่เพราะไม่ได้ทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างจริงจัง จึงทำให้ผลงานการตีกอล์ฟของมือใหม่อย่างอิสระ และทีมไม่ได้สวยหรูเลยแม้แต่น้อย
ความผิดพลาดในครั้งนั้นเป็นแรงผลักดัน ให้อิสระทุ่มเทฝึกซ้อมตีกอล์ฟอย่างจริงจัง โดยเข้ารับการฝึกกับโปรกอล์ฟมืออาชีพ จากวันนั้นถึงวันนี้ กีฬากอล์ฟได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอิสระไปแล้ว เขาคว้าถ้วยรางวัลมาได้จากการแข่งขันในหลายๆ รายการ ทั้งถ้วยไฟลท์ A และถ้วยไฟลท์ B โดยแต่ละสัปดาห์เขาจะแบ่งเวลาไปตีกอล์ฟอย่างสม่ำเสมอ
อิสระบอกว่ากีฬากอล์ฟได้ให้อะไรกับเขาหลายอย่าง ได้มิตรภาพใหม่ระหว่างนักกอล์ฟด้วยกันซึ่งมาจากหลากหลายอาชีพ ได้ฝึกปรือการวางแผน ทำให้เมื่อต้องทำงานอะไรก็ตามเขาจะวางแผนไว้อย่างรอบคอบรัดกุมเสมอ
"เล่นกอล์ฟ 18 หลุม ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง ช่วงเวลานั้นมันมีทั้งความสุขและความทุกข์ปนกันไป เล่นกอล์ฟได้ฝึกทั้งความอดทน ฝึกสมาธิ แพ้-ชนะไม่ได้วัดกันที่หลุมแรก ต้องดูกันในหลุมสุดท้าย หลุมที่ 18 ดังนั้น จึงมีโอกาสให้แก้ตัวได้ เมื่อพลาดพลั้งก็ให้อดทนและพยายามสู้ต่อไป ไม่แน่ว่าเล่นๆ ไปอาจจะชนะหรือพบกับความสำเร็จก็ได้"
นอกจากนั้นสิ่งที่สำคัญอีกอย่างของการออกรอบคือ ทำให้ได้เรียนรู้นิสัยของคนอื่นๆ ที่แตกต่างกันไป
"เวลาเล่นกอล์ฟจะรู้เลยว่าคนนี้ใจเย็น คนนั้นใจร้อน ทำให้รู้ด้วยนะว่าคนที่เล่นด้วยมีความซื่อสัตย์แค่ไหน ทำให้เรากลับมา พิจารณาว่าจะคบหาหรือทำธุรกิจกับเขาดีไหม" อิสระพูดทิ้งท้าย
พูดอย่างนี้ สงสัยต้องลองหาเวลาว่าง ไปออกรอบกับเขาดูสักครั้งซะแล้ว