จากดินสู่ดาว 8 CEO ระดับโลก จากชนบทในอินเดีย
อินเดีย ประเทศที่อาจจะมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าตื่นตาตื่นใจอยู่มากมาย แต่วันนี้อินเดียกำลังกลายเป็นที่จับจ้องของทั่วโลกไม่เฉพาะในเรื่องท่องเที่ยว หรือประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมแต่เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
ณ วันนี้อินเดียได้รับการยอมรับมากขึ้นทุกวินาทีว่าเป็นที่มาของผู้บริหารในองค์กรยักษ์ใหญ่ทรงอิทธิพลระดับโลกในหลายอุตสาหกรรม เทคโนโลยี, การเงิน, หรือแม้แต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เด็กชายชาวอินเดียที่เกิดในชนบทเล็กๆ ในตอนนั้นหลายคนถูกดูถูกค่อนแคะว่าจะไปได้สักกี่น้ำ และคงต้องจมอยู่กับภาวะอันยากจน แต่ตอนนี้คนที่เกิดและเติบโตในเมืองชนบทจากดินแดนภารตะที่ผู้คนเคยดูแคลนได้ก้าวแซงคนที่เคยเหยียดหยามพวกเขาขึ้นมาเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Sundar Pichai
ชื่อของผู้บริหารหนุ่มวัย 41 ปีคนนี้ถูกสปอตไลท์ฉายตรงไปที่เขาในทันทีหลังจากที่แถลงการของ ลาร์รี เพจ เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างธุรกิจของ Google ใหม่ทั้งหมดให้อยู่ภายใต้บริษัทแม่ที่ชื่อ Alphabet ซึ่งบอกว่า ซันดาร์ พิชัย จะเป็น CEO ผู้ดูแล Google ภายหลังการปรับโครงสร้าง
ซันดาร์ เกิดที่รัฐทมิฬ นาฑู อยู่ทางตอนใต้ของอินเดีย และได้ย้ายมายังสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1993 และได้ร่วมงานกับกูเกิลในปี 2004 ซันดาร์เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในโครงการที่ประสบความสำเร็จหลายอย่างของกูเกิ้ล เช่น Chrome ซึ่งเป็นเว็บเบราเซอร์ของกูเกิลและกูเกิลแอพ และในปี 2013 เขา ได้ถูกมอบหมายให้ดูแลระบบปฏิบัติการโทรศัพท์มือถือ แอนดรอยด์ โดยตลอดระยะเวลา 11 ปีใน กูเกิล ซันดาร์ได้รับการยกย่องจากเพื่อนร่วมงาน รวมถึง ลาร์รี เพจ ว่าเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น เอาใจใส่ ในเนื้องาน รวมทั้งมีการสื่อสารที่ดีต่อทีมงานทุกคน ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้รับเลือกให้ก้าวขึ้นสู่ CEO ของกุเกิลในอนาคต
Punit Renjen
เด็กชายที่เติบโตใน 'โรแต็ก' เมืองเล็กๆที่ห่างจากกรุงเดลีไปถึง 80 กิโลเมตร กับสภาพครอบครัวที่เรียกว่าแสนอัตคัต ช่วงหนึ่งพ่อของเขาไม่มีเงินพอที่จะส่งเขาไปเรียนในโรงเรียนในเมืองได้พอ แต่ พูนิต ก็ยังมีความขยันและตั้งใจเขาเลือกกลับมาเรียนในโรงเรียนท้องถิ่นที่ค่าเทอมถูกกว่า แล้วตั้งใจเรียนเพื่อใช้วิธีสอบชิงทุนการศึกษา จนในที่สุด พูนิต เร็นเจน ก็ได้ทุนจากมูลนิธิโรตารี ให้มาศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ในสหรัฐอเมริกา ตอนนั้นเขาเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลด้วยเงินติดตัวเพียง 300 เหรียญ และมีกางเกงยีนส์เพียงตัวเดียวที่ต้องใส่ไปเรียนทุกวันด้วยซ้ำพูนิต ก้าวขึ้นรับตำแหน่ง Global CEO ของ Deloitte ด้วยคะแนนโหวตจากบอร์ดผู้บริหารที่สูงถึง 98% อีกทั้งเขายังกลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่กลายเป็นคนอินเดียคนแรกที่ได้รับตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของบริษัทในกลุ่มสี่ยักษ์ใหญ่ที่ปรึกษาทางการเงินของโลก
Lakshmi Mittal
ชายหนุ่มที่เกิดจากเมืองหลังหุบเขาอย่างราชคฤห์ การเรียนจบด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยใน กัลกัตต้า บริษัทเหล็กที่พ่อของเขาดุแลแทบล้มละลายเมื่อรัฐบาลอินเดียดำเนินนโยบายจำกัดการผลิต ลักษมี ในวัย 26 ปี ตัดสินใจทิ้งบ้านเกิด มาเปิดโรงงานเหล็กเล็กๆในอินโดนีเซียแทน
และจากการตัดสินใจอันเด็ดขาดในวันนั้นทำให้วันนี้ชื่อ ลักษมี มิตทาล คือ มหาเศรษฐีชาวฮินดู ที่มั่งคั่งที่สุดทั้งในยุโรปและเอเชีย เพราะ Arcelor Mittal คือบริษัทผลิตเหล็กใหญ่ที่สุดในโลก ณ เวลานี้ ความมั่งคั่งของเขาอธิบายด้วยการที่สามารถทุ่มเงินมหาศาลเพื่อจัดงานแต่งงานของลูกสาวในพระราชวังแวร์ซายส์ได้อย่างสบายๆ
Anshu Jain
อันชู จาอิน ก้าวเข้ารับตำแหน่ง CEO ของ ดอยช์ แบงค์ สถาบันการเงินที่ใหญ่และแข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในปี 2012 เขาได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการสร้างผลกำไรให้กับองค์กรได้สูงกว่า CEO คนเก่าๆเคยทำไว้ได้ตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามาบริหารงาน
Satya Nadella
สัตติยา นาเดลลา เป็น CEO คนใหม่ โดยนับเป็นซีอีโอคนที่สาม ถัดจากบิล เกตส์ และสตีฟ บาลเมอร์ โดยเขาเข้ารับตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2014 หลังจากทำงานอย่างจงรักภักดีต่อไมโครซอฟต์มายาวนานกว่า 22 ปี
โดย บิล เกตส์ ได้กล่าวถึง CEO ที่จะนำไมโครซอฟต์ก้าวสู่ยุคเปลี่ยนผ่านนี้เอาไว้ว่า “ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่มีใครเหมาะสมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของไมโครซอฟท์มากไปกว่า สัตยา นาเดลลา แล้ว เขามีทักษะด้านวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยม ประกอบกับวิสัยทัศน์ทางด้านธุรกิจและเทคโนโลยีที่สามารถหลอมรวมคนเข้าด้วยกัน รวมไปถึงประสบการณ์ที่จะนำไมโครซอฟท์ก้าวไปสู่บทบาทต่อไปทางด้านนวัตกรรมที่จะก่อให้เกิดการขยายตัวและเติบโตต่อไป”
Ajay Banga
ครึ่งหนึ่งของผู้ใช้บัตรเครดิตทั่วโลกถือบัตรที่อยู่ภายใต้สังกัดของ Master Card อาเจย์ ซิงห์ บังกา ไม่ได้เป็นแค่เพียงผู้บริหารสูงสุดของบริษัทบัตรเครดิตยักษ์ใหญ่แห่งนี้เท่านั้น แต่เขายังคือหนึ่งในที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐภายในยุคของประธานาธิบดี บารัค โอบามา อีกด้วย
Ivan Menezes
จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ คือสก็อตวิสกี้ และ ดิอาจิโอ บริษัทผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ คือบริษัทจากประเทศอังกฤษ แต่ CEO ของพวกเขา อิวาน เมเนสหลังจากที่ เมเนส ประสบความสำเร็จกับบริษัทผู้ผลิตวิสกี้ในอินเดีย เขาก็ต้องการความท้าทายครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม จึงได้ตัดสินใจเข้าร่วมงานกับ ดิอาจิโอ ในปี 1997 เขาได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการเป็นผู้บริหารดูแลตลาดทุกทวีปทั่วโลกจนทำให้ได้รับเลือกให้ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุดตั้งแต่ กรกฎาคม 2013
Ajit Jain
อาจจะกล่าวได้ว่าเขาคือนักบริหารมือทองคู่บารมีของมหาเศรษฐีที่เป็นไอดอลนักธุรกิจและนักลงทุนทั่วโลก "วอร์เร็น บัฟเฟ็ต" อาจิต จาอิน แสดง ฝีไม้ลายมือและกึ๋นของเขาให้ทุกคนได้เห็นในปี 2008 ที่ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเริ่มชะลอตัวอย่างหนัก ธุรกิจและบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งถึงกับต้องประสบภาวะขาดทุนหรือเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้าง แต่ อาจิตกลับทำให้ Berkshire Hathaway หนึ่งในบริษัทของ บัฟเฟ็ต มีผลประกอบการเป็นบวกหลายล้านดอลลาร์