การทำงานรูปแบบไหน ที่คนทำงานยุค Next Normal ตามหา
อีกไม่กี่เดือนก็จะครบ 3 ปีเต็ม ที่ชาวโลกยังคงต้องใช้ชีวิตอยู่กับ COVID-19 กันต่อไป โดยที่มองไม่เห็นปลายทางเลยแม้แต่น้อยว่ามันจะไปจบที่ตรงไหน
แท็ก
อีกไม่กี่เดือนก็จะครบ 3 ปีเต็ม ที่ชาวโลกยังคงต้องใช้ชีวิตอยู่กับ COVID-19 กันต่อไป โดยที่มองไม่เห็นปลายทางเลยแม้แต่น้อยว่ามันจะไปจบที่ตรงไหน
ในสถานการณ์ที่ไวรัสโควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างและรวดเร็ว ทางคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
เคยลองคิดดูเล่น ๆ บ้างหรือไม่ ว่าเรา Work from Home กันมานานเท่าไรแล้ว? 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน หรือว่า 1 ปี เชื่อได้เลยว่าคำตอบของหลาย ๆ คนคงทำเอาอึ้งอยู่เหมือนกัน
ขอถามคนที่ Work from Home ว่าไม่ได้เข้าออฟฟิศกันมานานเท่าไรแล้วเอ่ย? คำตอบของหลายคนน่าจะเกิน 3 เดือนไปแล้ว จริง ๆ มันอาจจะฟังดูขนลุกแปลก ๆ
แม้ว่าการทำงานอยู่ที่บ้าน หรือ Work from Home จะดีต่อคนทำงานในหลายสาขาอาชีพ แต่ใช่ว่าจะเวิร์กกับทุกคน
แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา หลายคนน่าจะได้เคย Work from Home กันมาบ้างแล้ว อันที่จริง เราอาจจะอยู่บ้านกันจนชินถึงขนาดจำวิธีแต่งหน้าไม่ได้ เพราะไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าอยู่บ้าน นั่ง ๆ นอน ๆ กิน ๆ
ขอต้อนรับเข้าสู่ช่วงเวลาของการ Work from Home กันยาว ๆ อีกครั้ง! แม้ว่าจะไม่ต้องตื่นแต่เช้ามืด ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องเสียสุขภาพจิตบนถนน
ในช่วงที่สถานการณ์บ้านเมือง ต้องเจอกับโรคระบาดอย่าง Covid-19 ทำให้หลายคนต้องกักตัวอยู่บ้าน และทำงานแบบ Work From Home กันมากขึ้น
เมื่อต้องกลับมา Work From Home กันอีกครั้ง ก็ต้องมาปรับวิถีชีวิตกันใหม่ แม้จะมีเวลามากขึ้นจากการเดินทางที่หายไป
ถึงช่วงนี้เราจะยัง Work from Home กันอยู่ แต่การประชุมงานก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องมี แม้ว่าจะไม่ได้เข้าออฟฟิศก็ตาม
แม้ว่าการทำงานอยู่ที่บ้าน หรือ Work from Home จะดีต่อคนทำงานในหลายสาขาอาชีพ แต่ใช่ว่าจะเวิร์กกับทุกคน
ชวนมาบอกลาปัญหา สมาธิสั้น พร้อมเติมความ Productive ให้ชีวิต ผ่าน 5 เคล็ดลับที่ถอดมาจาก Concentration บอกลาสมาธิสั้น
เมื่อปีที่แล้วหลายบริษัทต้องเผชิญกับการปรับตัวครั้งใหญ่ ด้วยการปรับเปลี่ยนการทำงานมาเป็น Remote Work หรือ Work from Home แต่สำหรับปีนี้
กลับมา Work from Home กันอีกรอบ หลายคนก็เริ่มบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำไมถึงเหนื่อยหนักยิ่งกว่าเดิม ทั้งที่อุตส่าห์ได้ทำงานอยู่บ้านแท้ ๆ
หลังจากอยู่ในโหมด Work from Home มานาน ตอนนี้องค์กรต่าง ๆ เริ่มให้พนักงานกลับเข้าทำงานในออฟฟิศตามปกติแล้ว หลายคนที่ทำงานอยู่ที่บ้านนาน ๆ ก็ไม่แปลกที่จะรู้สึก “ขี้เกียจ” ขึ้นมา
ด้วยสถานการณ์การระบาด COVID-19 ทำให้หลายบริษัททั่วโลกต้องออกมาตรการ Work from home เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้ ทั้งโรงเรียนทั้งห้างร้านต่างๆ
ในช่วง Work from Home เป็นเรื่องน่ายินดีของใครหลายคน เพราะไม่ต้องตื่นแต่เช้ามืด ไม่ต้องเดินทาง ไม่เจอเพื่อนร่วมงานแย่ ๆ สุภาพจิตดี และประหยัดค่าใช้จ่าย แต่มีคนจำนวนไม่น้อยที่การทำงานที่บ้านกลายเป็น “ปัญหา”
ตั้งแต่ Work from Home กันมา หลายคนเริ่มบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำไมถึงเหนื่อยหนักยิ่งกว่าเดิม ทั้งที่อุตส่าห์ได้ทำงานอยู่บ้านแท้ๆ
ช่วงนี้ บริษัทส่วนใหญ่ให้พนักงาน Work from Home กันหมดแล้ว แต่เริ่มกันไปได้ไม่ทันไร หลายคนก็เริ่มมีอาการ “หมดไฟ” กันเสียแล้ว เพราะรู้สึกว่าทำงานอยู่บ้านไม่ได้สบายอย่างที่คิด
อุปสรรคสำคัญที่ทำให้การ Work from Home ของหลายคนไม่ค่อยได้ประสิทธิภาพนัก เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่อง “สมาธิในการทำงาน” ที่ไม่สามารถจดจ่อหรือโฟกัสงานที่ทำได้ตลอดเวลา