5 ข้อเสียที่หนุ่มๆ มักทำโดยไม่รู้ตัว จนทำให้ภรรยาเบื่อ...ถึงขั้นอยากเลิก
หนุ่ม ๆ ส่วนใหญ่ที่เคยมีประสบการณ์เลิกรากับภรรยาที่คบกันมานานแบบไม่ทันได้ตั้งตัว พอเริ่มต้นไปคบกับใคร พออยู่ไปก็ยังไม่รอดอยู่ดี
แท็ก
หนุ่ม ๆ ส่วนใหญ่ที่เคยมีประสบการณ์เลิกรากับภรรยาที่คบกันมานานแบบไม่ทันได้ตั้งตัว พอเริ่มต้นไปคบกับใคร พออยู่ไปก็ยังไม่รอดอยู่ดี
เวลาที่คนเรามีความรัก คลั่งรักอยู่ในความสัมพันธ์กับใครสักคน ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยได้นึกถึงสถานการณ์ในด้านลบที่อาจเป็นเหตุให้ความสัมพันธ์ไม่ได้ไปต่อสักเท่าไร
“เมื่อแรกรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน เมื่อจืดจางน้ำตาลยังว่าขม” บรรดาคนมีความรักทั้งหลายน่าจะเคยได้ยินคำกล่าวข้างต้นกันมาบ้าง
ทุกวันนี้ โซเชียลมีเดียและฟังก์ชันต่าง ๆ ในมือถือ ได้กลายมาเป็นสิ่งเร้าอย่างหนึ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์แบบคนรักของคู่รักหลาย ๆ คู่มีปัญหา ประการแรกคือความสำคัญในการเป็นพื้นที่แสดงความสัมพันธ์ของคนในฐานะคนรัก
หลายคนน่าจะเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับอดีตคนรักที่ต้องเลิกรากันไปทั้งที่พวกเขายังรักกันอยู่ ก็คงนึกสงสัยใช่ไหมว่าในเมื่อยังรักกันแล้วจะเลิกกันทำไม คำตอบที่ง่ายที่สุดก็คือ เพราะ “ความรักอย่างเดียวมันไม่พอ”
เมื่อความรักต้องจบลง คงเหลือแต่ตัวเราที่ต้องเดินหน้าต่อไป สิ่งสำคัญคือการให้กำลังใจและรักตนเอง ต่อจากนี้คือ 9 วิธีคิดที่คุณควรจะบอกกับตนเองทุกวันเมื่อความสัมพันธ์จบลงไปแล้ว
ความรักทำให้โลกของคนสองคนเป็นสีชมพู แต่เมื่อไปกันต่อไม่ได้ก็ต้องเลิกรากันไป โลกสีชมพูก็พลันเปลี่ยนเป็นสีเทา ดอกโศกบานอยู่ในหัวใจแทนดอกกุหลาบ
แม้ว่า “ความรัก” จะเป็นสิ่งที่ “สวยงาม” เสมอ แต่จริง ๆ แล้ว ความรักก็มีอีกด้านไม่ต่างจากเหรียญนั่นแหละ มีสุขมีทุกข์ มีรักมีหมดรัก
โดยทั่วไปของคนที่มีแฟน สาเหตุที่ทำให้คู่รักตัดสินใจเลิกรากันนั้น มักจะมาจากปัญหาที่ค่อย ๆ สะสมมาจากเรื่องเล็กเรื่องน้อย เกิดขึ้นทีละนิดทีละหน่อย
เรื่องของความสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเปราะบาง โดยเฉพาะความสัมพันธ์แบบคนรัก เรื่องเข้าใจผิดเพียงเล็กน้อยก็อาจจะกลายเป็นเป็นเรื่องราวใหญ่โตจนทำให้เกิดการเอือมระอาในความสัมพันธ์
เมื่อโทรศัพท์กลายเป็นเครื่องมือสื่อสารสำคัญ และทำให้คนสองคนที่เคยรักและเลิกร้างกันไปได้กลับมาคุยกันได้ ดังนั้นคุณไม่ต้องแปลกใจถ้าวันดีคืนดีได้รับข้อความส่งมาจากแฟนเก่า
“เมื่อแรกรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน เมื่อจืดจางน้ำตาลยังว่าขม” บรรดาคนมีความรักทั้งหลายน่าจะเคยได้ยินคำกล่าวข้างต้นกันมาบ้าง
ความรักและชีวิตคู่ เปรียบเสมือนปริศนาธรรม เพราะคนเราวันหนึ่งรักกันมาก พอเวลาผ่านไป ความรักความรู้สึกดีที่เคยมีให้กันกลับหายไป บางคู่จบได้ดี บางคู่เจ็บแต่จบ และบางคู่จบด้วยน้ำตา
คนรักกัน ก็เหมือนลิ้นกับฟัน ที่มีกระทบกระทั่งกันได้เป็นเรื่องธรรมดา ในท้ายที่สุดหลังจากที่ทะเลาะกันในแต่ละครั้ง แต่ละคู่ก็มีตอนจบแตกต่างกันไป
เวลาที่คุณรู้สึกพึงใจใครสักคน และพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นช่วงเวลาดังกล่าวจงอย่าปล่อยให้ความรักมันเข้าตามากนัก ควรสังเกตเสียหน่อยว่าในความรักที่เกิดขึ้นนั้น
การคบหากับใครสักคนในสถานะคนรัก และครองความสัมพันธ์ครั้งนี้กันไปนาน ๆ เป็นความปรารถนาส่วนหนึ่งในชีวิตของใครหลาย ๆ คน
ปัญหาเรื่องงาน เป็นปัญหาที่คนวัยทำงานทุกคนย่อมเคยเจอ ซึ่งปัญหานี้ก็แบ่งยิบย่อยได้สารพัด ทั้งปัญหาเนื้องาน ปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ปัญหากับหัวหน้า ปัญหากับลูกน้อง ปัญหากับลูกค้า กล่าวง่าย ๆ
แม้ว่า “ความรัก” จะเป็นสิ่งที่ “สวยงาม” เสมอ แต่จริง ๆ แล้ว ความรักก็มีอีกด้านไม่ต่างจากเหรียญนั่นแหละ มีสุขมีทุกข์ มีรักมีหมดรัก
คำพูดต่อไปนี้ คือตัวอย่างของการใช้ถ้อยคำทำร้ายจิตใจ ส่งผลระยะยาวต่อผู้ฟังได้อย่างมาก
“รักง่าย หน่ายไว” ดูจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้วในสังคมยุคใหม่ ที่ทั้งหญิงและชายได้พบเจอกับผู้คนมากหน้าหลายตา ทำให้ความสัมพันธ์ในชีวิตคู่กลายเป็นเรื่องอ่อนไหว