โพล ชี้ชัด คนไทยวันนี้ รายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทมีภาระหนี้สิน ส่วนใหญ่กู้แบงก์

โพล ชี้ชัด คนไทยวันนี้ รายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทมีภาระหนี้สิน ส่วนใหญ่กู้แบงก์

โพล ชี้ชัด คนไทยวันนี้ รายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทมีภาระหนี้สิน ส่วนใหญ่กู้แบงก์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นางสาว ปภาดา ชินวงศ์ ผู้จัดการโครงการเปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่องภาระหนี้สินของประชาชน กรณีศึกษา หัวหน้าครัวเรือนที่มีอายุ 25-60 ปี ที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี จำนวนทั้งสิ้น 1,205 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างเดือนกรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา พบว่า

ผลการสำรวจชี้ให้เห็นว่า ตัวอย่างส่วนมากหรือร้อยละ 61.0 มีภาระหนี้สินที่ต้องผ่อนชำระเมื่อเทียบกับรายได้ในแต่ละเดือน โดยตัวอย่างร้อยละ 30.6 ระบุต้องผ่อนชำระร้อยละ 26 - 50 ของรายได้ต่อเดือน ร้อยละ 26.4 ระบุต้องผ่อนชำระหนี้สินไม่เกินร้อยละ 25 ของรายได้ต่อเดือน และร้อยละ 4.0 ระบุต้องผ่อนชำระมากกว่าร้อยละ 50 ของรายได้ต่อเดือน ในขณะที่ร้อยละ 39.0 ระบุไม่มีหนี้สินที่ต้องชำระ/ผ่อนชำระ

นอกจากนี้ตัวอย่างกว่าร้อยละ 60 ระบุการมีหนี้สิน ซึ่งเป็นหนี้ในระบบมากที่สุด รองลงมา คือ หนี้นอกระบบ และหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ ตามลำดับ ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจำแนกตามรายได้ส่วนตัวต่อเดือน พบว่า เมื่อกลุ่มตัวอย่างมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็จะมีหนี้สินเพิ่มขึ้นตาม โดยกลุ่มที่มีรายได้มากกว่า 50,000 บาทต่อเดือน มีหนี้สินสูงถึงร้อยละ 80 ขณะที่กลุ่มที่มีรายได้ น้อยกว่า 10,000 บาทต่อเดือน มีหนี้สินร้อยละ 50 แต่มีข้อน่าสังเกตว่าเกือบครึ่งหนึ่งที่เป็นหนี้สินนอกระบบ

กลุ่มตัวอย่างที่เป็นหนี้ในระบบ ระบุว่า ส่วนใหญ่กู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ รองลงมาคือ ธนาคารของรัฐ หนี้กับบัตรเครดิต สินเชื่อเงินด่วน/เงินสด ตามลำดับ สำหรับรูปแบบการกู้นอกระบบของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า เกินครึ่งหรือร้อยละ 57.6 กู้ยืมจากนายทุน รองลงมา คือ พ่อแม่ ญาติพี่น้อง และเพื่อน โดยมีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดร้อยละ 20 บาท/เดือน

เมื่อสอบถามถึงประเภทหนี้สินที่ต้องผ่อนชำระ พบว่า ผู้มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาทส่วนมากมีภาระหนี้สินที่ต้องผ่อนชำระ คือ เรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ อาหาร เป็นต้น และการกู้ยืม/หนี้สิน ในการประกอบอาชีพ ประกอบธุรกิจ และสิ่งที่ค้นพบคือ ผู้มีรายได้ 10,000 -30,000 หรือร้อยละ 1 ใน 5 ของตัวอย่างระบุมีหนี้สินต้องผ่อนรถยนต์คันแรก ตามนโยบายของรัฐ ขณะที่ผู้ที่มีรายได้ 30,001 บาทขึ้นไประบุมีหนี้สินต้องผ่อนรถยนต์และบ้านที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ

จากผลสำรวจ พบว่า ตัวอย่างบางส่วนเคยถูกข่มขู่ตามทวงหนี้จากนายทุนนอกระบบ อย่างไรก็ตามการรับรู้ของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อกฎหมายควบคุมธุรกิจทวงหนี้ พบว่า ตัวอย่างไม่ถึงครึ่งหรือร้อยละ 42.2 รับทราบตัวกฎหมายดังกล่าว และสิ่งที่ตัวอย่างอยากให้รัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้สินนอกระบบ โดยเฉพาะเรื่องดอกเบี้ยที่ไม่ควรเกินกฎหมายกำหนด รองลงมา คือ จัดตั้งสถาบันการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และเพิ่มบทลงโทษในตัวกฎหมาย ควบคุมเจ้าหนี้ ตามลำดับ

ประการสุดท้าย ความต้องการที่อยากให้รัฐบาลชุดปัจจุบัน ดำเนินการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ โดยตัวอย่าง ร้อยละ 63.7 ระบุอยากให้นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้อย่างจริงจัง รองลงมา อยากให้มีการปรับสมดุลราคาสินค้าให้มีความสอดคล้องกับรายได้ค่าแรงขั้นต่ำ จัดสวัสดิการให้กับประชาชนอย่างครอบคลุม เช่น การรักษาพยาบาล รณรงค์ปลูกฝังจิตสำนึกรักแผ่นดินอย่างจริงจัง "ใช้สินค้าไทยบริโภคสินค้าไทย" และส่งเสริมสนับสนุนการทำอาชีพเสริม เช่น การฝึกฝีมือแรงงานตามลำดับ

จากการศึกษาครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างมีภาระหนี้สิน สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เผชิญปัญหาหนี้สินนอกระบบ รวมไปถึงภาระการจ่ายอัตราดอกเบี้ยที่สูง ดังนั้นรัฐบาลควรเข้ามาแก้ไขนอกจากตัวกฎหมายในการควบคุม ยังรวมไปถึงการให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนให้ทั่วถึง นอกจากนี้ผู้มีรายได้ตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่มีการกู้เงินมาซื้อรถยนต์ ซื้อบ้าน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการผลักดันนโยบายของรัฐบาลเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขาดสภาพคล่องที่จะนำไปสู่ภาวะหนี้เสียของประชาชนได้ รัฐบาลควรปลูกจิตสำนึกให้กับประชาชนในการนำหลักแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้กับทุกภาคส่วน ซึ่งจากผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างเกือบ 2 ใน 3 ได้ให้ความเห็นว่ารัฐบาลควรมีการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้อย่างจริงจัง

จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 42.1 เป็นชาย ร้อยละ 57.9 เป็นหญิง และเมื่อจำแนกตามช่วงอายุของตัวอย่าง พบว่า ร้อยละ 17.9 อายุระหว่าง 25-30 ปี ร้อยละ 31.9 อายุระหว่าง 31-40 ปี ร้อยละ 25.1 อายุระหว่าง 41-50 ปี และร้อยละ 25.1 อายุระหว่าง 51-60 ปี สำหรับด้านการศึกษาของตัวอย่างนั้นพบว่า ร้อยละ 69.3 ระบุสำเร็จการศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรี ร้อยละ 30.7 ระบุสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป นอกจากนี้ ตัวอย่างร้อยละ 44.2 ระบุอาชีพค้าขายอิสระ/ธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 23.2 ระบุเป็นลูกจ้าง/พนักงานบริษัท ร้อยละ 16.5 ระบุรับจ้างทั่วไป ร้อยละ 8.3 ระบุเป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณ ร้อยละ 7.2 ระบุ เป็นข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ และร้อยละ 0.2 ระบุเป็นเกษตรกร และเมื่อพิจารณาถึงรายได้ส่วนตัวต่อเดือนพบว่าร้อยละ 23.4 ระบุรายได้ต่ำกว่า 10,000 บาท ร้อยละ 68.9 ระบุ รายได้ 10,000-30,000 บาท ร้อยละ 6.9 ระบุรายได้ 30,001-50,000 และร้อยละ 0.8 ระบุรายได้ มากกว่า 50,000 บาทขึ้นไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook