เมื่อคนจีนไม่ง้อ Facebook, Twitter และ YouTube
อย่างที่รู้ๆ กันว่า ประเทศจีนยังเป็นประเทศที่มีกลิ่นอายของระบบการปกครองแบบสังคมนิยมอยู่ แต่ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารไร้พรมแดนที่พัฒนาก้าวไกลมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ข้อมูลข่าวสารไหลบ่าบนโลกอินเทอร์เน็ต
ยิ่งทำการจัดการข้อมูลข่าวสารและควบคุมคนในประเทศจีนได้ลำบากมากขึ้นทุกที และเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคมจีน รัฐบาลจำเป็นจะต้องดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง และไม่ให้เกิดกลุ่มขบวนการใต้ดินที่เคลื่อนไหวปฏิวัติผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างที่เคยเกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ พวกเขาจึงตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการตัดสินใจบล็อกโซเชียลเน็ตเวิร์ก อย่าง Facebook, Twitter, Google และ YouTube เสียเลย
แต่ใช่ว่าเหล่าประชากรจีนจะถูกปิดหัวปิดตาไม่ให้รับรู้ข่าวสารจากโลกภายนอกเสียทีเดียว ในเมื่อพวกเขายังรู้จัก เลดี้ กาก้า, รู้ว่ามีหนังเรื่องไหนเข้าฉายในอเมริกา, รู้จักหาข้อมูลความรู้จากอินเตอร์เน็ตในการทำรายงาน หรือสามารถแชร์รูปหรือความเคลื่อนไหวของตัวเองไม่ต่างจากที่เราเล่น Facebook หรือ Twitter ว่าแต่...พวกเขาใช้โปรแกรมอะไร เราจะนำท่านผู้อ่านไปรู้จักกับโซเชียลเน็ตเวิร์กที่นิยมของคนจีนกันเลย
QQ
เป็นโปรแกรมแชตที่ทำหน้าที่เหมือน MSN Messenger ทุกประการ แต่คนจีนส่วนใหญ่ไม่นิยมแชทผ่านโปรแกรม MSN เท่าไหร่ แต่จะนิยมแชทผ่านโปรแกรมนี้แทน ซึ่งในชีวิตประจำวันนั้นสำหรับคนที่เพิ่งรู้จักใหม่ๆ นอกจากจะถามเบอร์โทรศัพท์แล้ว ยังถามรหัส QQ อีกด้วย โดยรหัสล็อกอินของโปรแกรมนี้จะเป็นตัวเลข ซึ่งคนจีนเองก็ต้องจำตัวเลขหลายหลักจนกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว
Weibo.com
โซเชียลเน็ตเวิร์กที่ฮิตฮอตมากในหมู่คนจีนคือ โปรแกรม Weibo หรือเวยปั๋ว ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่เหมือน Twitter ทุกประการ ทั้งการฟอลโลว์การทวีตข้อความต่างๆ แบ่งปันข้อมูลข่าวสาร ภาพถ่าย และอื่นๆ ซึ่งอัตราการเล่นเวยปั๋วในหมู่คนจีนมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทีมผู้บริหารเองก็คาดการณ์ว่าอาจจะตีตื้นขึ้นมาแข่งกับ Twitter ได้ในอนาคตอันใกล้เลยทีเดียว
Renren.com
บ้านเราเล่นเฟซบุ๊กแชร์โน่นแบ่งปันนี่กันอย่างสนุกสนาน ใช่ว่าชาวจีนจะทำแบบเราได้ เมื่อพวกเขามี www.renren.com (เหรินเหริน) ซึ่งเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กที่มีหน้าตาของเว็บเพจและมีวิธีการใช้งาน
เหมือนเฟซบุคทุกประการ แต่ดูไปดูมาโซเชียลเน็ตเวิร์คอันนี้ดูจะไม่ได้รับความนิยมเท่ากับเวบปั๋ว อาจเป็นเพราะการใช้งานที่ยุ่งยากซับซ้อนกว่าเวยปั๋วก็เป็นได้
Baidu.com
ความจริงแล้วคนจีนเองก็สามารถใช้ Google ในการหาข้อมูลได้เช่นกันเพียงแต่จะใช้ในฐานข้อมูลจากประเทศฮ่องกงแทน แต่สำหรับคนจีนนั้น Search Engine ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ www.baidu.com (ไป่ตู้) ซึ่งนอกจากจะหาความรู้ได้ครอบจักรวาลแล้ว ยังมีทั้งภาพ เพลงจีนฮิตติดอันดับให้ฟังหรือดาวน์โหลดกันได้ตามใจชอบอีกด้วย
Youku.com
แม้จะไม่ได้ดู YouTube แต่นักท่องเน็ตชาวจีนก็สามารถเกาะกระแสความบันเทิงจากต่างประเทศได้ด้วยการเข้าเว็บไซต์ที่มีชื่อว่า www.youku.com (โยวคู่) ซึ่งนอกจากมีคลิปต่างๆ นานาให้เลือกชมแล้ว ยังแบ่งเป็นหมวดละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ จัดให้คนจีนได้ดาวน์โหลดดูกันได้โดยไม่มีการแบ่งคลิปย่อยเหมือนของ YouTube แต่อย่างใด แต่สำหรับผู้ใช้นอกประเทศจีนที่หวังจะดาวน์โหลดหนังจากเว็บฯ นี้
ต้องบอกว่าระยะเวลาในการดาวน์โหลดมันช่างยาวนานชั่วกัปชั่วกัลป์เลยทีเดียว ทั้งหมดนี้เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่นักท่องโลกไซเบอร์ชาวจีน ซึ่งแน่นอนว่าแนวโน้มของประชากรจีนที่ใช้อินเทอร์เน็ตจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ กลุ่มเจ้าของโซเชียลเน็ตเวิร์กเหล่านี้ก็รวยรับเละไปตามระเบียบนั่นแล
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจได้ที่ http://money.sanook.com