สมศักย์ยันปตท.รับผิดชอบน้ำมันรั่ว-ห่วงสารเคมีตกค้าง
นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สำหรับค่าเสียหายกรณีน้ำมันดิบรั่วอ่าวพร้าว ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง นั้น ยืนยัน ทาง ปตท. ต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ ส่วนผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ จะให้ทาง ปตท. บูรณาการทำการช่วยเหลือต่อไป ส่วนค่าเสียโอกาส ทางกระทรวงจะหารือและสรุปเรื่องนี้อีกครั้ง ทั้งนี้ ทาง ปตท. และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. จะจัดอีเว้นท์นอกสถานที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า กว่าร้อยละ 90 ของเกาะเสม็ด สามารถท่องเที่ยวได้อย่างปกติ โดยให้กระทรวงเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงานดังกล่าว ส่วนการฟื้นฟูอ่าวพร้าว ดำเนินการไปถึงร้อยละ 90 แล้ว เหลือเพียงความมั่นใจในน้ำทะเลเท่านั้นที่อาจใช้เวลา 1-2 ปี ส่วนอาหารทะเลคิดว่าไม่มีปัญหาเกิดขึ้น อีกทั้งตนเองได้ทานแล้ว ก็ยังปกติ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่ทราบว่า นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่อ่าวพร้าว หรือไม่
ชาวประมงระยองห่วงสารเคมีตกค้างทะเล
นายไพรัตน์ อรุณเวสสะเศรษฐ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเพ จ.ระยอง กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงสถานการณ์น้ำมันรั่ว ว่า ขณะนี้ใกล้จะกลับสู่สภาพปกติแล้ว ต่อไปจะเข้าสู่โหมดการตรวจสอบสภาพความเสียหาย ซึ่งทางจังหวัดได้ตั้งศูนย์เยียวยาขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบลงชื่อเพื่อตรวจสอบสภาพความเสียหายแล้วโดยสิ่งที่ประชาชนโดยเฉพาะชาวประมงเป็นห่วง คือ สารเคมี ที่ทางบริษัทเอกชนใช้ฉีดลงไปในคราบน้ำมันนั้น ได้สร้างความเสียหายให้กับอวนหาปลาของชาวประมงที่วางอยู่ในทะเล นอกจากนี้ ชาวบ้านยังไม่มั่นใจว่าสารเคมีต่างๆ เหล่านี้ที่ตกค้างในทะเลย่อยสลายไปต้องใช้เวลาเท่าไร รวมไปถึงต้องใช้เวลาฟื้นฟูเป็นระยะเวลานานแค่ไหนระบบนิเวศและสัตว์น้ำต่างๆ จะกลับคืนสู่สภาพเดิม ซึ่งตรงนี้ทางภาครัฐต้องเร่งหาคำตอบให้ชาวบ้านเหล่านี้ด้วย
ระยอง เปิดศูนย์ร้องเรียน รับเป็นตัวแทนเรียกค่าเสียหาย ปตท.
ว่าที่ ร.ต.สุพีร์พัฒน์ จองพานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเหตุน้ำมันรั่ว ว่า ขณะนี้คราบน้ำมันที่อ่าวพร้าว ซึ่งเป็นจุดใหญ่ที่น้ำมันไหลมารวมกันก็กำจัดได้เกือบหมดแล้ว เหลือเพียงรายละเอียดในส่วนอื่น เช่น เรื่องที่มองไม่เห็น เช่น ใต้น้ำ ผลกระทบทางทรัพยากรสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อประชาชน โดยตอนนี้มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่ไปร้องเรียนกับสถานีตำรวจในพื้นที่นับ 100 รายแล้ว เราก็จะจัดระเบียบ โดยที่มีการเปิดศูนย์รับร้องเรียนผู้ได้รับผลกระทบที่อำเภอใกล้เคียง 3 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.แกลง และ อ.บ้านฉาง โดยให้มาลงชื่อไว้ก่อน และจะมีการคัดกรองแยกเป็นกลุ่ม ทั้งผู้ประกอบการสถานบริการร้านอาหาร เรือ-รถรับจ้าง ชาวประมง และรับจ้างทั่วไป เป็นต้น เพื่อจัดเจ้าหน้าที่พิจารณาให้เร็วที่สุด โดยผู้ที่มาร้องเรียนต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนว่าเสียหายจริงด้วย
ส่วนทางจังหวัดระยอง เองก็ได้มีการหารือ และแบ่งให้แต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปรวบรวมข้อมูล กฎหมายที่รับผิดชอบ ว่าส่วนใดที่จะต้องดำเนินคดีบ้าง โดยทางจังหวัดจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชนในการจัดระเบียบการเรียกร้องค่าเยียวยาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย พร้อมประสาน ปตท.ให้เร่งทำแผนฟื้นฟู หากทุกฝ่ายพอใจ ก็อาจไม่ดำเนินการฟ้องร้อง
