กรมเจ้าท่า ยังไม่ฟ้อง PTTGC
กรมเจ้าท่า ยัน ไม่ฟ้อง PTTGC หากเหตุเกิดน้ำมันรั่วลงทะเล ไม่ใช่ความประมาท
นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยยืนยันว่า กรมเจ้าท่า มีอำนาจตาม พ.ร.บ.การเดินเรือน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 ในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทั้งหมด โดยเบื้องต้นจะไม่มีการฟ้องร้องบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เนื่องจากได้แสดงตัวออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างชัดเจน แต่หากผลการตรวจหาสาเหตุการรั่วไหลของน้ำมัน ซึ่งกระทรวงพลังงาน กำลังดำเนินการสอบสวนปรากฏว่าเกิดจากการกระทำโดยประมาท ทำให้เกิดความเสียหาย อาจถูกฟ้องร้องทางคดีอาญา ส่วนกรณีค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทั้งหมด กรมเจ้าท่า มีหน้าที่รวบรวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติหน้าที่จากทุกหน่วยงาน ส่งไปเรียกเก็บจาก บริษัท PTTGC เป็นรายเดือน
อย่างไรก็ตาม หน้าที่หลักของ กปน. คือ การทำแผนคณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ให้สมบูรณ์ โดยปัจจุบันมีการซ้อมปีละ 4 ครั้ง ณ มาบตาพุด แหลมฉบัง และ จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีความเสี่ยงน้ำมันรั่วไหลสูง ในส่วนพื้นที่ที่มีการส่งน้ำมันทางท่อ คือที่ จ.ระยอง และ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี บริเวณโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์
นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยยืนยันว่า กรมเจ้าท่า มีอำนาจตาม พ.ร.บ.การเดินเรือน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 ในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทั้งหมด โดยเบื้องต้นจะไม่มีการฟ้องร้องบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เนื่องจากได้แสดงตัวออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างชัดเจน แต่หากผลการตรวจหาสาเหตุการรั่วไหลของน้ำมัน ซึ่งกระทรวงพลังงาน กำลังดำเนินการสอบสวนปรากฏว่าเกิดจากการกระทำโดยประมาท ทำให้เกิดความเสียหาย อาจถูกฟ้องร้องทางคดีอาญา ส่วนกรณีค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทั้งหมด กรมเจ้าท่า มีหน้าที่รวบรวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติหน้าที่จากทุกหน่วยงาน ส่งไปเรียกเก็บจาก บริษัท PTTGC เป็นรายเดือน
อย่างไรก็ตาม หน้าที่หลักของ กปน. คือ การทำแผนคณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ให้สมบูรณ์ โดยปัจจุบันมีการซ้อมปีละ 4 ครั้ง ณ มาบตาพุด แหลมฉบัง และ จ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีความเสี่ยงน้ำมันรั่วไหลสูง ในส่วนพื้นที่ที่มีการส่งน้ำมันทางท่อ คือที่ จ.ระยอง และ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี บริเวณโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์