"สหฟาร์ม"รอดหวุดหวิดวางโฉนดที่ดินค้ำ"กฟภ."จ่ายไฟต่อ
"สหฟาร์ม" วิ่งโร่ นำโฉนดมูลค่า 200 ล้านบาท วางหลักประกันขอใช้ "ไฟฟ้า" ต่อ หลังค้างหนี้ค่าไฟอ่วมเฉียด 1,000 ล้านบาท ขณะที่หนี้เกษตรกร 105 ราย 54 ล้านบาทถูกดองเงียบไร้การติดต่อ
แหล่งข่าวจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ทางบริษัท สหฟาร์ม จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกเนื้อไก่และไก่แปรรูปยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศได้ประสบปัญหามีภาระหนี้สินกว่า 30,000 ล้านบาท
ได้นำโฉนดที่ดิน ซึ่งแจ้งว่ามีมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาทมาวางเป็นหลักประกันในการใช้ไฟฟ้าในปัจจุบันที่ได้ติดค้างชำระกับ กฟภ. รวมถึงการใช้ไฟในอนาคตถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2556 แล้ว
ซึ่งทาง กฟภ.ได้ให้ทางบริษัทประเมินราคาที่ดินแห่งหนึ่งประเมินราคาอีกครั้งหนึ่ง ก่อนรับหลักประกันดังกล่าวไว้อย่างเป็นทางการ
หากภายในเดือนสิงหาคมนี้ ทางบริษัทสหฟาร์มสามารถตกลงเงื่อนไขกับสถาบันเจ้าหนี้ โดยเฉพาะธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ได้ ทาง กฟภ.ต้องการให้บริษัทสหฟาร์มเปลี่ยนจากโฉนดที่ดินไปเป็นแบงก์การันตี มูลค่า 200 ล้านบาทแทน
เพราะทาง กฟภ.สามารถนำไปใช้เป็นสภาพคล่องในการลงทุนดำเนินการในโครงการต่าง ๆ ได้สะดวกกว่าการถือครองสินทรัพย์ที่เป็นที่ดิน" แหล่งข่าวกล่าว
ที่ผ่านมาทางสหฟาร์มได้ค้างชำระหนี้ค่าไฟฟ้า และได้ทำหนังสือขอผ่อนผันไปยังนายนำชัย หล่อวัฒนตระกูล ผู้ว่าการ กฟภ. แบ่งออกเป็น 2 ส่วน 1) หนี้ค้างเก่าปี 2555 จำนวน 800 ล้านบาท ซึ่ง
ผู้ว่าการ กฟภ.ได้มีนโยบายให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณา และได้เข้าไปเจรจากับทางบริษัท เนื่องจากบริษัทสหฟาร์มเป็นบริษัทใหญ่ หากมีการตัดไฟทันทีจะก่อให้เกิดความเสียหายได้ จึงได้ข้อสรุปให้ผ่อนชำระเป็นงวด ๆ ภายในระยะเวลา 2 ปี หรือ 24 เดือน ซึ่งได้ทยอยผ่อนชำระมาแล้วเป็นเดือนที่ 4
และ 2) หนี้ที่เพิ่งเริ่มค้างชำระตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2556 ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ทาง กฟภ.มีหลักเกณฑ์การพิจารณาที่จะผ่อนปรนช่วยเหลือ แต่ต้องดำเนินการภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม
โดยหนี้ที่ค้างชำระตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน-กรกฎาคม และไฟที่จะขอใช้ไปถึงเดือนสิงหาคม 2556 ทาง กฟภ.จะอนุมัติให้ แต่ทางบริษัทสหฟาร์มต้องหาเงินจำนวน 200 ล้านบาทมาวางค้ำประกันกับ กฟภ.ภายในวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา
นายไวพจน์ หิมารัตน์ ปศุสัตว์จังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางปศุสัตว์จังหวัดได้นำหนังสือลงนามโดยนายจิรายุทธ วัจนะรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ส่งถึงผู้บริหารของบริษัท สหฟาร์ม จำกัด
เพื่อขอให้ทางบริษัทได้กรุณาจ่ายเงิน 53,263,000 บาทที่ค้างชำระหนี้เกษตรกรจำนวน 105 รายด้วย เพราะเกษตรกรเองมีภาระหนี้ต้องจ่ายสถาบันการเงิน นอกนั้นยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าไฟฟ้าเช่นกัน โดยขอให้บริษัทตอบกลับมาโดยเร็ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการให้คำตอบใด ๆ กลับมายังปศุสัตว์จังหวัด ทั้งนี้ คงต้องให้เกษตรกรรอไปอีกสักระยะหนึ่ง
สำหรับเกษตรกรที่ถูกติดหนี้ เลี้ยงกันในระดับตั้งแต่ 10,000 -100,000 ตัว โดยบริษัทติดค้างหนี้ประมาณ 3 รอบการเลี้ยง โดยหนี้ส่วนใหญ่ติดค้างมาตั้งแต่ปลายปี 2554 ต่อเนื่องมากลางปี 2555 หลังจากนั้น ปัจจุบัเกษตรกรส่วนใหญ่ย้ายไปเป็นลูกเล้าเลี้ยงให้บริษัทอื่นแล้ว และบางรายเลิกเลี้ยงไปเลยก็มี