"อิชิตัน"ระดมทุน 5 พันล้าน ลุยเออีซี ลดโหมโปรใหญ่-เน้นสร้างแบรนด์ ประกาศทิ้งแชมป์-ขอทำกำไรสูงสุด

อิชิตันประกาศเข้าตลาดปลายปีนี้หวังระดมทุน 5 พันล้าน เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อส่งออกรับเปิดเออีซี ระบุหลังเข้าตลาดแล้วจะปรับกลยุทธ์ใหม่เน้นสร้างแบรนด์ ไม่โหมโปรใหญ่

เหตุต้องทำกำไรสูงสุดเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น ลั่นไม่ลงแข่งโออิชิขอแชร์แค่อันดับ 2

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการนำบริษัทเข้ากระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ว่า ขณะนี้ได้ยื่นแบบแสดงข้อมูลเพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้ว

และคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายได้ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ ทั้งนี้ตามแผนนั้นบริษัทจะได้เงินจากการระดมทุนครั้งนี้ประมาณ 3-5 พันล้านบาท โดยมีเป้าหมายที่จะนำเงินดังกล่าวไปชำระคืนหนี้เงินกู้กับสถาบันการเงินและเพื่อการขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานเฟส 2 ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากเดิมมีกำลังการผลิต 400 ล้านหน่วย เป็น 1,000 ล้านหน่วยต่อปี ใช้เงินประมาณ 2,500 ล้านบาท

โดยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวจะเน้นเพื่อการส่งออก ที่บริษัทมีแผนขยายตลาดไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รับการรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ส่วนแผนการตลาดคาดว่าน่าจะชัดเจนได้ในปี 2557

"สินค้าที่ใช้ส่งออกคืออิชิตัน เย็นๆ เพราะในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาสามารถทำยอดขายได้ถึง 1,000 ล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 1,400 ล้านบาทในช่วงสิ้นปี โดยขณะนี้ได้เริ่มหารือกับพันธมิตรทางธุรกิจในย่านนี้แล้วเช่น ผู้ผลิตชาเขียวรายใหญ่ในเวียดนาม

แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้" นายตันกล่าว และว่า หลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว บริษัทจะเปลี่ยนกลยุทธ์การทำตลาดไปเน้นเรื่องการสร้างแบรนด์เป็นหลัก ลดความถี่ในการจัดแคมเปญใหญ่ใช้กระตุ้นยอดขายช่วงหน้าร้อน ซึ่งเป็นช่วงหน้าขายจาก 2 แคมเปญใหญ่เหลือปีละครั้ง เพราะหากจัดบ่อยจะทำให้ผู้บริโภคจดจำซื้อสินค้าตอนมีโปรโมชั่น

นายตันกล่าวว่า ในช่วงหลังของปีนี้จะเปิดแคมเปญใหญ่อีก 1 แคมเปญ คือ "อิชิตันทัวร์ยกแก๊งฮอกไกโด ตอนรหัสช้อปเปรี้ยง 1 ล้านบาท" ให้รางวัลสูงสุดกว่า 100 ล้านบาท ทั้งเงินช็อปปิ้งแก๊งละ 1 ล้าน แจกทองรางวัลละ 1 แสนกว่า 600 รางวัล ถือเป็นแคมเปญการตลาดที่ให้รางวัลมากสุดในอุตสาหกรรม เริ่มแคมเปญตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม-22 พฤศจิกายน คาดว่าจะสร้างยอดขายได้ประมาณ 1,500 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท โตจากเป้าเดิมที่ตั้งไว้ที่ 4,500 ล้านบาท

"เป้าหมายในการทำธุรกิจหลังจากนี้จะเน้นกำไรเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นเป็นหลัก ไม่เน้นการแข่งขันในลักษณะโปรโมชั่นลดราคา เพราะจะมีผลต่อกำไร และไม่ได้คาดหวังว่าต้องเป็นผู้นำในตลาด แม้ว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาทางเดอะนีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช ระบุว่าอิชิตันจะมีส่วนแบ่งตลาดชาเขียวอยู่ที่ 44% แซงหน้าโออิชิที่มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 37% ก็ตาม เพราะเชื่อว่าด้วยกลยุทธ์ราคาของคู่แข่งจะผลักดันให้คู่แข่งขึ้นเป็นผู้นำในช่วงปลายปีนี้จากมูลค่าตลาดรวม 16,500 ล้านบาทในสิ้นปี 2556" นายตันกล่าว