เมื่อ Instragam เป็นมากกว่าแอพพลิเคชั่นถ่ายรูป
เมื่อ Instragam เป็นมากกว่าแอพพลิเคชั่นถ่ายรูป
“เวทีแจ้งเกิดของตากล้องมืออาชีพไม่จำเป็นต้องอาศัยกล้องดิจิตอลราคาเหยียบแสนอีกต่อไป”
Instragam เป็นแอพพลิเคชั่นบนแพลตฟอร์ม iOS ที่ได้รับความนิยมมาสักระยะและมีเครือข่ายผู้ใช้งานเยอะเทียบเท่า Social Media อย่าง Facebook, Twitter และ YouTube ได้เลยทีเดียว เพราะฟังก์ชั่นพื้นฐานแม้จะเป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับถ่ายภาพ และปรับแต่งเอฟเฟ็กต์ทั้งแสงสี และเงาแล้ว Instragam ยังสามารถระบุพิกัดของสถานที่ที่ได้เก็บภาพนั้น อีกทั้งยังแบ่งปันให้เพื่อนๆ ในเครือข่ายที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่น Instragam ที่ติดตามเราได้ติชม และแบ่งปันกระจายสู่เครือข่ายวงกว้างอื่นๆ อย่าง Facebook และ Twitter ได้อีกต่อหนึ่ง ทำให้กลายเป็นแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานง่าย
ในประเทศไทยนั้น Instragam ได้รับความนิยมมากมายระดับหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งในแพลตฟอร์มของ Android เองก็มีแอพพลิเคชั่นที่ใกล้เคียงกัน ที่พัฒนาโดยทีมคนไทยอย่าง Molome ที่น่าจะมีภาษีเทียบเคียงกับเจ้า Instragam ซึ่งในที่นี้ผู้เขียนขอนิยามไปที่แอพพลิเคชั่นเพียง Instragam เพียงตัวเดียวก่อน
สมัคร ถ่าย แต่ง แบ่งปัน
วิธีการง่ายๆ ที่ทำให้ Instragam และบริการของแอพพลิเคชั่นตัวนี้ครองใจผู้ใช้งานคือ แค่ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Instragam ผ่าน App Store ของ Apple โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแล้ว ยังไม่ต้องศึกษาการใช้งานให้ยุ่งยาก เพราะหน้าจอของแอพพลิเคชั่นนั้นสื่อความหมายได้ง่ายต่อการเข้าใจ เพราะเป็นเพียงแค่แอพพลิเคชั่นถ่ายภาพ และเมื่อถ่ายภาพเสร็จก็แค่จัดการแต่งภาพ ทำการแบ่งปันโดยบรรยายคำอธิบายของภาพที่ถ่ายไว้ พร้อมทั้งระบุพิกัดสถานที่บริเวณที่ได้ทำการถ่ายภาพ แบ่งปัน ให้แก่เพื่อนๆ ที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นก็เป็นอันเสร็จสิ้น
ซึ่งในปัจจุบันมีนักถ่ายภาพมือสมัครเล่นมากมายที่ถ่ายทอดภาพถ่ายในมุมมองของตนเอง ทำให้ยิ่งมีการบอกต่อถึงผลงานภาพถ่ายเหล่านั้น และเกิดผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการที่อยากจะติดตามผลงานถ่ายภาพของคนที่เพื่อนแนะนำ และบางรายก็อยากจะเป็นผู้เผยแพร่ฝีมือการถ่ายภาพซะเอง
หากมองย้อนกลับไปก่อนที่จะมีแอพพลิเคชั่น Instragam ช่างภาพทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพทั้งหลาย มีการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์หรือ Social Network ในการติดต่อสื่อสารพูดคุยภายในกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ วิธีการ และแสดงผลงานให้ได้ติชม อีกทั้งยังใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์เหล่านั้นเป็นเหมือน Portfolio ไว้แสดงผลงานไว้สำหรับนำเสนอผู้ว่าจ้าง เพื่อรับงานถ่ายภาพ นับว่าอาชีพช่างภาพกับการใช้อินเทอร์เน็ตนั้นเป็นสิ่งที่คู่กันมายาวนานแล้ว
ซึ่งเครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดังในสมัยก่อน ก่อนที่จะมี Facebook และ Twitter นั้น ช่างภาพหลายรายจะใช้บริการเว็บไซต์ Multiply ในการนำเสนอภาพถ่าย และเก็บไว้เป็นคอลเล็กชั่นของตนเอง แต่ว่าในปัจจุบันนี้ เหล่าช่างภาพและคนที่ชอบถ่ายภาพทั้งหลาย เริ่มมีกิจกรรมใหม่ในยามว่างคือการแชร์ หรือแบ่งปันภาพถ่ายผ่านสมาร์ทโฟนอย่างเจ้า iPhone ด้วยแอพพลิเคชั่นถ่ายภาพ เพื่อให้เหล่าเพื่อนฝูงที่คอยติดตามได้เฝ้าดูและติชมผ่านเครือข่ายแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนที่สามารถปรับแต่งรูปภาพที่ถ่ายมาให้สวยงาม จัดแสงจัดเงาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากก็น่าจะเป็นแอพพลิเคชั่น Camera+, Flickr และสุดท้ายก็มาลงเอยที่เจ้า Instragam นั่นเอง
เมื่อ Instragam กลายเป็น Portfolio
จากเดิมที่ตากล้องมืออาชีพ จะต้องมีการถ่ายภาพด้วยกล้อง DSLR ที่บางตัวราคาเหยียบแสน ออกมาเป็นภาพสวยงาม นำไปย่อขนาดภาพในเครื่องคอมพิวเตอร์ ปรับสี หรือปรับแสงเงาของภาพถ่าย แล้วนำมาแบ่งปันให้แก่เพื่อน โดยอัพโหลดผ่าน Facebook ด้วยฟังก์ชั่น Gallery แล้วก็ทำการเกณฑ์พรรคพวกให้เข้ามาติชม และบอกต่อถึงฝีมือระดับเทพบ้าง มารบ้าง ให้แก่เพื่อนๆ ภายในเครือข่ายต่อๆ กันไปเปรียบเสมือนการสร้างผลงานชั้นดีให้แก่ผู้ที่สนใจในผลงานของเรา
แต่ปัญหามันก็มีอยู่ว่า ขั้นตอนมันเยอะเกินไปหรือไม่ จะทำอย่างไรที่ภาพถ่ายของเราจะได้เผยแพร่สู่สาธารณะชน หรือเพื่อนในเครือข่ายของเราได้รวดเร็วที่สุด นั่นคือเหตุผลหนึ่งที่ตากล้อง หรือผู้ที่ชอบถ่ายภาพนั้นนิยมใช้งานแอพพลิเคชั่น Instragam เพราะว่าบางครั้งผลงานก็ไม่จำเป็นต้องถูกนำเสนอแบบยิ่งใหญ่ แค่มุมมองเล็กๆ น้อยๆ ผ่านสมาร์ทโฟนบางมุมก็สามารถเก็บเป็น Portfolio ดีๆ ไว้นำเสนอแก่ผู้ที่สนใจ หรือบางทีเหล่าคนทั่วไปที่ได้ใช้งานแอพพลิเคชั่นตัวนี้ก็สามารถพบเห็นงานของเราได้ทันทีผ่านฟังก์ชั่น Feed ของตัวแอพพลิเคชั่น ไม่แน่บางทีเราอาจจะได้ผู้ติดตามผลงานของเราเป็นศิลปินชื่อดังที่ใช้แอพพลิเคชั่นนี้ในการหาแรงบันดาลใจก็เป็นได้
เมื่อ Photographer หันมาเป็น PhoneGrapher
ในต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ อาชีพตากล้องนิรนาม หรือช่างภาพมือสมัครเล่นหลายคนแจ้งเกิดจากการใช้แอพพลิเคชั่น Instragam ในการแบ่งปันภาพถ่าย หลายคนถูกดึงตัวให้ไปร่วมงานกับธุรกิจแฟชั่น เสื้อผ้า และวงการโฆษณา ที่ต้องอาศัยการถ่ายแบบ เหล่าตากล้องนิรนาม หรือช่างภาพมือสมัครเล่นเหล่านี้มักจะแจ้งเกิดในผลงานการถ่ายภาพแนว Street Photography เป็นส่วนมาก ซึ่งการถ่ายภาพแบบ Street Photography นั้นตามหลักการจะต้องอาศัยเทคนิคการถ่ายภาพที่ต้องผสมผสานมุมมอง จังหวะ และองค์ประกอบของสถานที่ซึ่งได้แก่ท้องถนน เพื่อที่จะได้ภาพถ่ายที่สามารถสื่อถึงสภาพความเป็นจริงและเล่าเรื่องราวอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องมีตัวอักษรอธิบาย
และเรื่องราวของภาพถ่ายเหล่านั้นต้องสะท้อนให้เห็นถึงสังคม และวิถีชีวิตของตัวละครที่ปรากฏในภาพถ่าย โดยส่วนมากมักจะใช้ภาพขาว-ดำ หรือภาพที่ถูกจัดแสงในลักษณะที่มืดสว่างเกินบรรยากาศจริง เป็นการเอาเทคนิคการใช้แสงเงาสะท้อนกดอารมณ์ ความรู้สึก ของเรื่องราวภายในภาพออกมาสู่สายตาของผู้ชมให้รู้สึกว่าตนมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ที่ปรากฏในภาพ ซึ่งถนนของมหานครเมืองใหญ่ๆ ทั้งหลายสถานที่นั้นคือเวทีสำหรับถ่ายทอดมุมมองมากมายของเหล่าตากล้อง และช่างภาพหน้าใหม่ฝีมือเฉียบขาดหลายคน
ซึ่งแอพพลิเคชั่น Instragam นั้นมีฟังก์ชั่นที่สามารถปรับแสงเงาของภาพถ่าย ที่ได้ทำการถ่ายออกมาให้อยู่ในแนวทางของ Street Photography ซึ่งเหตุผลนี้เองที่ทำให้ศิลปินช่างภาพอิสระ ตากล้องนิรนาม ไปจนถึงช่างภาพมือสมัครเล่นได้โชว์ฝีมือแบบรวดเร็ว ทันใจเสิร์ฟถึงมือแมวมอง และเอเยนซี่ที่คอยสอดส่องผลงานที่เข้าตากรรมการในแอพพลิเคชั่น Instragam
ในตอนนี้ มีผู้คนที่นิยมออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชั่น Instragam หลายรายได้ออกมายอมรับว่าตนเองได้เสพติดภาพถ่ายของเหล่าตากล้องนิรนามหลายคนผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนตัวนี้พอๆ กับการเข้าชมงานแสดงผลงานถ่ายภาพที่จัดขึ้นนานๆ ครั้ง มันต่างกันก็เพียงแค่งานแสดงภาพบน Instragam นั้นมีให้ชมทุกวัน ขนาดที่ว่าบางครั้งแทบจะต้องเฝ้ารอดูว่าภาพที่ได้ติดตามเหล่าผู้เล่น Instragam ที่เป็นช่างภาพนั้น จะถูกอัพโหลดขึ้นในระบบตอนไหนเวลาใด ส่วนผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่น Instragam หลายคนได้ยอมรับว่าการถ่ายภาพผ่านแอพพลิเคชั่น Instragam นั้นคืองานอดิเรกที่สื่อถึงไลฟ์สไตล์ที่เป็นตัวเองมากที่สุด
การตลาดผ่าน Instragam
ปัจจุบันนี้ในต่างประเทศ แอพพลิเคชั่น Instragam กลายเป็นเครื่องมือการตลาดออนไลน์ผ่าน Social Media ตัวหนึ่งไปแล้ว เพราะว่าภาพถ่ายหลายๆ ภาพที่ปรากฏขึ้นใน Instragam เปรียบเสมือนการทำการตลาดแบบบอกต่อหรือ Viral Marketing ผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่น Instragam หลายรายที่มีผู้ติดตามภาพถ่ายเป็นจำนวนมากในต่างประเทศได้ถูกเจ้าของสินค้า และแบรนด์เนมชื่อดังจ้างในราคาที่สูงเพื่อจ้างให้พวกเขาเหล่านั้นแบ่งปันภาพถ่ายที่มีแบรนด์ของสินค้า หรือตัวผลิตภัณฑ์ให้ปรากฏอยู่ในภาพ
โดยผู้ให้บริการ และผู้ว่าจ้างเหล่านั้นได้ออกความเห็นว่า มันเป็นการง่ายพอๆ กับจ้างให้ Blogger เขียนโฆษณาแฝงลงในเนื้อหา หรือที่เรารู้จักอย่าง Advertorial บางรายก็สร้างแคมเปญการตลาดให้ค้นหาสัญลักษณ์ และการแบ่งปันเพื่อเก็บสะสมเป็นคะแนนมาแลกของรางวัล จุดนี้ผู้บริโภคหลายคนได้ให้ความเห็นเชิงบวกว่า มันสนุกที่จะมีเครื่องมือในการเล่น Social Media หรือเครือข่ายสังคมที่บอกเรื่องราวที่อยู่รอบๆ ตัวของผู้เล่นจากคนที่มีตัวตนจริงๆ อีกทั้งภาพบางภาพได้เป็นเสมือนกุญแจในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คน ในการพยายามตีความของภาพเหล่านั้นบนหน้าจอแอพพลิเคชั่น และสินค้าที่ปรากฏในภาพถ่ายของ Instragam สามารถทำให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ได้ง่ายพอๆ กับสินค้าเสมือนในเกมออนไลน์
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด แต่คนไทยไม่ควรเอาอย่างคือ ตัวอย่างสาวน้อยไฮท์สคูลรายหนึ่ง เธอใช้นามแฝงว่า Bobsuicide เป็นเจ้าของอัลบั้มภาพในแอพพลิเคชั่น Instragam ที่มีชื่อว่า Girl of Geek งานอดิเรกของเธอคือ การถ่ายภาพเซ็กซี่ของเธอเอง แล้วนำไปติดไว้ที่ตู้ล็อกเกอร์ในโรงเรียนมัธยมของเธอ โดยในแต่ละเดือนนั้นก็จะมีภาพเซ็กซี่ของเธอในธีมที่แตกต่างกันไป ให้เหล่าเพื่อนร่วมโรงเรียนได้คอยติดตาม ชมและวิจารณ์ จนกระทั่งเธอเปลี่ยนมาใช้แอพพลิเคชั่น Instragam และได้ถ่ายภาพของเธอแบ่งปันไปเรื่อยๆ จนมาถึงแกลลอรี่ที่ชื่อว่า Girl of Geek นี่เอง
โดยในภาพที่เธอถ่ายนั้นจะมีสินค้าจำพวกตุ๊กตา ที่จำลองมาจากภาพยนตร์เรื่อง Star Wars จนเมื่อภาพดังกล่าวได้ถูกพูดถึงมากขึ้น สินค้าทั้งหมดที่ปรากฏในภาพถ่ายของเธอก็มียอดขายสูงขึ้นทันที จนกลายเป็นว่าเจ้าของเบรนด์หลายแบรนด์ต้องจ้างเธอให้มาถ่ายภาพร่วมกับสินค้าใหม่ๆ ตลอดเวลาจนถึง ณ ตอนนี้ ซึ่งถือว่าการนำเสนอของ Bobsuicide บนแอพพลิเคชั่น Instragam นั้นเป็นกรณีศึกษาที่ดีมากในการทำการตลาดออนไลน์ แต่คงไม่เหมาะกับเยาวชนในประเทศไทยเท่าไรนัก เนื่องจากความแตกต่างในเรื่องค่านิยม
ข้อกังขาเสน่ห์ที่แท้จริงของการถ่ายภาพกำลังจะหมดไป
แม้ว่า Instragam จะมีอัตราผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มของตากล้องมือสมัครเล่น หรือช่างถ่ายภาพมืออาชีพ แต่ก็ยังมีหลายเสียงของช่างถ่ายภาพมืออาชีพบางกลุ่มที่ออกมาต่อต้านและต่อว่าเจ้าแอพพลิเคชั่น Instragam นี้ว่าเป็นอันตรายที่จะเข้ามาทำให้เสน่ห์ของการถ่ายภาพแบบเดิม และความละเมียดละมัยหายไปเพียงเพราะความทันใจเพียงอย่างเดียว
อีกทั้งยังต่อว่าถึงแอพพลิเคชั่น Instragam ตัวนี้ว่า ภาพถ่ายที่ปรากฏออกมานั้นล้วนเป็นภาพถ่ายที่ถูกเสริมเติมแต่งไปด้วยเอฟเฟ็กต์จากการปรับแต่งภาพซะจนเกินงาม และเกินกว่าความเป็นจริง กลุ่มผู้ต่อว่ามอง Instragam เป็นเพียงของเล่นบนโทรศัพท์มากกว่าจะนำมาเป็นเครื่องมือที่เอาไว้สร้างผลงาน
มีกระแสด้านลบ ก็มีคนคบเพราะด้านบวก
แม้ว่าจะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ข้างต้นเกี่ยวกับฟังก์ชั่นของการแบ่งปันที่ฉาบฉวย ขาดซึ่งความละเอียดอ่อนในสายงานอาชีพช่างถ่ายภาพ แต่ยังไงเสีย Instragam ก็ยังคงมีผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหล่าตากล้องที่ใช้เป็นเวทีโชว์ผลงานย่อยๆ อีกทั้งนักการตลาดออนไลน์เริ่มมีการมองหาช่องทางที่จะสร้างรายได้ และปรับกลยุทธ์ในการส่งเสริมการขาย และการประชาสัมพันธ์ผ่านสมาร์ทโฟนได้ดีมากขึ้น
เพราะคอนเทนต์และรูปภาพบนแอพพลิเคชั่น Instragam เมื่อเกิดการแบ่งปันจะสามารถกระจายแบบปากต่อปากได้รวดเร็ว ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อเหล่าศิลปินช่างภาพมือสมัครเล่น ที่จะได้เก็บผลงานตัวเองไว้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเป็นช่างภาพมืออาชีพในสายงานต่างๆ ผ่านเอเยนซี่และแมวมองต่อไป
อีกทั้งเหล่านักการตลาดก็จะได้ทำการตลาดแบบ Viral Marketing ผ่านสมาร์ทโฟนได้ง่ายขึ้น แทนการใช้โฆษณาบนป้ายโฆษณาแบนเนอร์บนเว็บฯ และสื่อสิ่งพิมพ์มาเป็นการโฆษณาแฝงลงในภาพถ่ายสวยๆ ผ่านเหล่าตากล้องบนสมาร์ทโฟน (PhoneGrapher) ได้สบายขึ้นอีกด้วย
แอพพลิเคชั่น Instragam สามารถเป็นเครื่องมือในการสร้าง Portfolio และเครื่องมือในการทำการตลาด Viral Marketing ชั้นดี หากว่ามีการจัดระเบียบการใช้งาน ช่องว่างในการเข้าไปแทรกตัวในสายงานและธุรกิจผ่าน Instragam ในประเทศไทยตอนนี้เหมาะเจาะที่จะต้องเข้าไปจองพื้นที่โดยด่วนที่สุด เพราะที่ต่างประเทศเขาเริ่มมีการสร้าง Portfolio และทำการตลาดอย่างจริงจัง ส่วนเมืองไทยนั้นอีกสักพักก็คงจะมา
ตอนนี้ก็คงต้องเต็มไปด้วยภาพสาวๆ น่ารักๆ ถ่ายตัวเองในหน้ากระจกในห้องน้ำ อวดกันไปก่อน แต่ผู้เขียนก็นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมไม่ค่อยเห็นสาวน้อยในแอพพลิเคชั่น Instragam ถ่ายภาพตัวเองตอนตื่นนอนบ้างเลย...
นักเขียน บัญญพนต์ พูลสวัสดิ์