"เสี่ยเจริญ"หยิบสาทรโมเดลบูมหัวมุมพระราม4 ทุ่มหมื่นล้านพัฒนาที่ดินสนง.ทรัพย์สินฯ35ไร่

กลุ่มทีซีซี แลนด์ขยับแผนลงทุนมูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านบูมทำเลพระราม 4เป็นเซ็นเตอร์ศูนย์ประชุม-แสดงสินค้าในเมืองที่ใหญ่ที่สุด

กางแผนผุด 2 โครงการใหญ่ "คอมเมอร์เชียล-ออฟฟิศ-ศูนย์ประชุม-โรงแรม" บนที่ดินติดถนนพระราม 4 ใกล้ตลาดหลักทรัพย์ฯ 35 ไร่ พร้อมที่ดินซอยไผ่สิงโต 8 ไร่ในบริเวณใกล้เคียง หลังคว้าสิทธิ์เช่า 30 ปีจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนมหากษัตริย์ ส่วนศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เตรียมขยายพื้นที่เพิ่มเป็น 2 แสนตารางเมตร

แหล่งข่าวจากกลุ่มบริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด ซึ่งมีตระกูลสิริวัฒนภักดี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กลุ่มบริษัททีซีซี แลนด์เตรียมขยับแผนลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่อีกรอบ ครั้งนี้มุ่งมาบริเวณที่ดินถนนพระราม 4 หลังจากได้กรรมสิทธิ์เช่าที่ดินผืนใหญ่ 2 แปลงจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

เสี่ยเจริญบูมพระราม 4

ประกอบด้วยที่ดิน 35 ไร่ ติดถนนพระราม 4 ใกล้กับอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีพื้นที่จอดรถสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินคั่นระหว่างอาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ กับแยกคลองเตย และอีกแปลงคือที่ดินที่อยู่ใกล้เคียงกันบริเวณซอยไผ่สิงโต ติดถนนรัชดาภิเษก เนื้อที่ 8 ไร่ ซึ่ง บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ในกลุ่มทีซีซี แลนด์ได้สิทธิ์เช่าที่ดินเป็นเวลา 30 ปี คาดว่าทั้ง 2 โครงการจะใช้งบฯลงทุนรวมไม่ต่ำกว่า 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท

การลงทุนครั้งนี้มั่นใจว่าจะบูมทำเลพระราม 4 ให้กลายเป็นย่านศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้าและจัดเอ็กซิบิชั่นในเมืองที่ใหญ่ที่สุด จากปัจจุบันที่มีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์อยู่แล้ว ต่อไปจะมีสำนักงาน พื้นที่คอมเมอร์เชียล และโรงแรม เพื่อรองรับนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว

"แนวคิดการพัฒนาที่ดินหัวมุมถนนพระราม 4 จะคล้าย ๆ กับบริเวณถนนสาทรตัดนราธิวาส ที่กลุ่มทีซีซี แลนด์เป็นเจ้าของโครงการขนาดใหญ่หลายอาคาร ยกตัวอย่างอาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์เป็นออฟฟิศขนาดใหญ่ ปัจจุบันกำลังขยายพื้นที่ค้าปลีกเพิ่ม มีโรงแรมดับเบิลยูโฮเทล อาคารสำนักงานสาทรสแควร์ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ดิ แอสคอท สาทร แต่ต่างกันตรงที่ทำเลสาทรเป็นเซ็นเตอร์ของออฟฟิศเกรดเอ ขณะที่พระราม 4 จะเป็นเซ็นเตอร์ของศูนย์แสดงสินค้าและศูนย์การประชุม"

เซ็นรับมอบที่ดิน 35 ไร่

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทในกลุ่มทีซีซี แลนด์ได้เซ็นสัญญารับมอบที่ดิน 35 ไร่ ติดถนนพระราม 4 ใกล้กับอาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ จากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มีระยะเวลาเช่านาน 30 ปี และมีเวลาให้ก่อสร้างโครงการอีกประมาณ 3-4 ปี เบื้องต้นวางมาสเตอร์แปลนพัฒนาเป็นโครงการอสังหาฯแบบมิกซ์ยูส ได้แก่ พื้นที่คอมเมอร์เชียล ออฟฟิศให้เช่า ศูนย์การประชุม โรงแรมระดับ 5 ดาว คาดว่าใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท

ส่วนที่ดินบริเวณซอยไผ่สิงโต ติดถนนรัชดาฯ เนื้อที่ 8 ไร่ ที่อยู่ใกล้เคียงกัน ปัจจุบันบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้สิทธิ์เช่าที่ดินระยะยาว 30 ปี จากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เช่นกัน วางแผนจะพัฒนาเป็นโครงการแบบมิกซ์ยูสประกอบด้วย อาคารสูง 12-14 ชั้น จำนวน 3 อาคาร รวมพื้นที่ประมาณ 1 แสนตารางเมตร ใช้เงินลงทุนกว่า 3-4 พันล้านบาท รูปแบบโครงการจะมีออฟฟิศให้เช่า 2 อาคาร 7.5 หมื่นตารางเมตร กับโรงแรมระดับ 3-4 ดาว 1 อาคาร จำนวนกว่า 260 ห้องพัก มีพื้นที่ประมาณ 2.5 หมื่นตารางเมตร คาดว่าจะเริ่มลงมือก่อสร้างในช่วงปลายปีนี้ ใช้เวลา 3-4 ปีจึงจะแล้วเสร็จ

"เนื่องจากทั้ง 2 โครงการเป็นที่ดินคนละแปลงแต่อยู่ใกล้เคียงกัน ขณะนี้กำลังศึกษาว่าจะสามารถทำทางเชื่อมอาคาร ทั้งการออกแบบเป็นสะพานหรือขอทำทางเชื่อมใต้ดินจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเข้าสู่อาคารได้หรือไม่"

รอจังหวะขยายศูนย์สิริกิติ์

แหล่งข่าวจากบริษัท เอ็น.ซี.ซี.แมเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้พัฒนาศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เปิดเผยว่า เตรียมลงทุนขยายพื้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จากปัจจุบันมีพื้นที่จัดเอ็กซิบิชั่น ศูนย์การประชุม ร้านค้า และที่จอดรถรวม 6.5 หมื่นตารางเมตร จะขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 1.35 แสนตารางเมตร รวมเป็น 2 แสนตารางเมตร

ส่วนการพัฒนาโรงแรมซึ่งเดิมเป็นหนึ่งในทางเลือกจะไม่มีการก่อสร้าง เพราะต้องการมุ่งพัฒนาเป็นศูนย์การประชุมและแสดงสินค้าโดยเฉพาะ

ความคืบหน้าขณะนี้อยู่ระหว่างรอกรุงเทพมหานคร (กทม.) แก้ไขข้อบัญญัติ กทม. เพื่อปลดล็อกเขตควบคุมความสูงอาคารไม่เกิน 23 เมตร โดยการก่อสร้างจะขยายพื้นที่อาคารทั้งในแนวราบ-แนวสูง จากปัจจุบันเป็นตัวอาคารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เป็นอาคาร 3 ชั้น สูง 26 เมตร (สร้างขึ้นก่อนมีข้อบัญญัติ กทม.)

หลังจากปรับปรุงใหม่แล้วจะมีจำนวนชั้นเท่าเดิมแต่เพิ่มความสูงอาคารเป็น 36 เมตร รวมถึงขยายพื้นที่อาคารออกไปทางด้านหลังซึ่งปัจจุบันเป็นลานจอดรถ ส่วนการปรับปรุงมี 2 แนวทาง คือ ปิดปรับปรุงทั้งหมดหรือทยอยปิดปรับปรุงเป็นส่วน ๆ

อย่างไรก็ตาม การขยายศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เฟส 2 จะไม่สามารถเชื่อมต่อกับโครงการใหม่ของกลุ่มทีซีซี แลนด์บนที่ดินข้างตลาดหลักทรัพย์ฯได้ เนื่องจากที่ดินทั้ง 2 แปลงมีโรงเรียนคั่นอยู่ แต่จะสร้างบริเวณนี้ให้กลายเป็นเซ็นเตอร์ของศูนย์การประชุมและแสดงสินค้ากลางเมือง