3 อุตสาหกรรมเจาะลาว "สปา-กาแฟ-อู่รถ" สดใส

3 อุตสาหกรรมเจาะลาว "สปา-กาแฟ-อู่รถ" สดใส

3 อุตสาหกรรมเจาะลาว "สปา-กาแฟ-อู่รถ" สดใส
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คำถามที่ยังคงเกิดขึ้นอยู่เสมอคือ ถ้าจะเจาะตลาดเออีซี อุตสาหกรรมใด มีโอกาสมากที่สุด โดยเฉพาะตลาดบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง สปป.ลาว

โสภณ ผลประสิทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ตอบคำถามนี้ว่า จากการศึกษาเจาะลึกของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมพบว่า อุตสาหกรรมที่มีแนวโน้ม ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการเปิดตลาดสปป.ลาวมี 3 กลุ่มคือ

1.อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งเราคงเคยได้ยินกันมาบ้างว่าสินค้าที่ขาย ใน สปป.ลาวมากกว่า 80% เป็นสินค้าจาก ประเทศไทย แม้ปัจจุบันสินค้าจากจีนเริ่มแชร์ ส่วนแบ่งเพิ่มมากขึ้น ด้วยราคาที่ดึงดูดใจมากกว่า แต่คุณภาพก็สู้สินค้าไทยไม่ได้

อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้สะท้อนความจริงว่า สินค้าอุปโภคบริโภค จากไทยยังถือเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพของคนลาว และเป็นที่ต้องการอย่างมาก โดยสปป.ลาว มีการนำเข้าสินค้า อุปโภคบริโภคจากประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-15% ต่อปี โดยเฉพาะสินค้าปรุงอาหารในครัวเรือน

อาทิ อุตสาหกรรมน้ำมันพืช อุตสาหกรรมน้ำตาล อุตสาหกรรมอาหาร กึ่งสำเร็จรูป อุตสาหกรรมน้ำแข็ง ฯลฯ ประเทศไทยถือเป็นแหล่งผลิตสินค้าให้กับประชาชนของ สปป.ลาว เนื่องจากสปป. ลาว นั้นมีจำนวนประชากรเพียง 6.2 ล้าน คน ฉะนั้นผู้ประกอบการเอกชนจึงยังไม่ให้ ความนิยมในการตั้งโรงงานขนาดใหญ่ ทำ

ให้สินค้าไม่เพียงพอกับความต้องการของคนในประเทศ จึงต้องพึ่งพาสินค้าที่นำเข้า จากไทย ซึ่งมีความหลากหลายมากกว่าและคุณภาพของสินค้าที่สูงกว่า

2.อุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง เป็นสินค้าที่ตอบสนองความต้องการจากภาคธุรกิจและภาคประชาชนที่เริ่มมีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จึงมีความต้องการในการ พัฒนาปรับปรุงที่อยู่อาศัย โดยสินค้าจากประเทศไทยที่ได้รับความนิยมในสปป.ลาว ได้แก่ อิฐบล็อก กระเบื้อง

โครงอะลูมิเนียม หลังคาเหล็ก ฯลฯ อย่างไรก็ตาม สปป.ลาว มีนโยบายในการเร่งพัฒนาระบบโครงสร้าง พื้นฐานของประเทศ จึงมีความต้องการใน กลุ่มสินค้าประเภทนี้เพื่อรองรับการค้าและการลงทุนที่กำลังขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจากข้อมูลในปี 2554 มีมูลค่าการส่งออก กลุ่มสินค้าวัสดุก่อสร้างใน สปป.ลาวกว่า 69.7 ล้านบาท

3.อุตสาหกรรมบริการ กลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีโอกาสและเหมาะกับธุรกิจ SMEs ของไทย ประเภท สปา ร้านกาแฟ อู่ซ่อมรถ โรงแรม ท่องเที่ยวและคาร์แคร์ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมบริการคาร์แคร์ ในสปป.ลาวมีจำนวนน้อย และการให้บริการยังไม่ครบวงจร แต่จำนวนรถยนต์ในประเทศกลับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

 

ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวนอก จากจะตอบสนองประชาชนในสปป.ลาวแล้ว ยังสามารถตอบสนองกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะมีนักท่องเที่ยว ให้ความนิยมจำนวนมาก

ด้านนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนได้ประชุมกับดร.นาม วิยะเกด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและ การค้าแห่ง สปป.ลาว ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้อง ต้องกันว่าจะเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุน ระหว่างกันให้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

โดยน่าจะเติบโตได้ถึง 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2558 หรือประมาณ 2.4 แสน ล้านบาท ซึ่งจะเป็นปีที่อาเซียนจะเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนโดยจะร่วมกันพิจารณาจัดทำแผนยุทธศาสตร์และแผนงานด้านต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

ปัจจุบันการค้าในเขตชายแดนไทย-ลาวนั้นมีความคึกคักเป็นอย่างมากอันเกิด จากการสร้างสะพานมิตรภาพไทย- ลาว ทั้ง 3 แห่ง อันได้แก่สะพานมิตรภาพ 1 หนองคาย-เวียงจันทน์สะพานมิตรภาพ 2 มุกดาหาร-สะหวันนะเขต และ สะพานมิตรภาพ 3 นครพนม-คำม่วน ซึ่งสะพานดังกล่าวเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่สร้างความเชื่อมโยงทางการค้าและ สร้าง ความสัมพันธ์และก่อให้เกิดศักยภาพในระบบการขนส่งระหว่างประเทศ

โดยในปี 2555 ภาพรวมการส่งออกสินค้าของไทยสู่ สปป.ลาวมีมูลค่าการส่งออกสินค้า จำนวน 109,059.22 ล้านบาท โดยปรับตัวขึ้นจากปี 2554 กว่า 34.43% โดยเฉพาะในด้านการค้าชายแดนไทย-ลาวในจังหวัดมุกดาหารซึ่งมีมูลค่าการส่งออกสินค้าในปี 2555 กว่า 28,677.9 ล้านบาท หรือประมาณ 26.29%

ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในอนาคตอันใกล้ในพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-ลาว ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัดในลุ่มแม่น้ำโขง ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี และบึงกาฬ จะเป็นกลุ่มจังหวัดที่ได้รับอานิสงส์จากการเป็นเออีซี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook