ทอท. คาด กู้ TG 679 ได้ใน 48 ช.ม.
ทอท. คาด กู้ครื่องบิน TG 679 ไถลออกนอกรันเวย์ได้ ใน 48 ชั่วโมง ระบุ ใช้ ดอนเมือง , อู่ตะเภา ลงจอดชั่วคราว
นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีการเกิดอุบัติเหตุเที่ยวบิน ทีจี 679 เส้นทาง กวางโจว-กรุงเทพ ด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ 330-300 เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 23.20 น. ได้เกิดเหตุไถลออกนอกทางวิ่ง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 6 คน เป็นชาวจีน 4 คน คนไทย 1 คน และชาวซิมบับเวย์ 1 คน ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุดังกล่าว ในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 07.00-10.00 น. ที่ผ่านมา ส่งผลให้เครื่องบินที่บินอยู่ในห่วงอากาศประมาณ 35 ลำ ดีเลย์ประมาณ 15 นาที ในการนำเครื่องลงจอด และเครื่องบินที่อยู่ในภาคพื้น ประมาณ 45 ลำ ดีเลย์ ประมาณ 30 นาที ในการบินขึ้น ทั้งนี้ การบินขึ้นของเครื่องบิน จะบินขึ้นได้แค่เครื่องขนาดไม่เกินแอร์บัส 320 ได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถลงจอด ส่วนเครื่องบินขนาดตั้งแต่ แอร์บัส 737 สามารถบินขึ้นลงได้ตามปกติ และขณะนี้ ท่าอากาศสุวรรณภูมิ ได้เปิดใช้เพียงรันเวย์ 19 ฝั่งขวา ด้านตะวันออกเพียงรันเวย์เดียว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ของกรมการบินพลเรือน และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เริ่มดำเนินการเก็บกู้เครื่องบินลำดังกล่าวแล้ว โดยคาดว่าจะเคลื่อนย้ายแล้วเสร็จ ภายใน 48 ชั่วโมง โดยหากสามารถเคลื่อนย้ายเครื่องบินออกจากรันเวย์ได้ จะใช้เวลาซ่อมแซมรันเวย์ ประมาณ 5 ชั่วโมง เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเปิดใช้รันเวย์ได้ก่อนเที่ยงของวันที่ 11 ก.ย.56 นอกจากนี้ ได้สั่งการให้เปิดท่าอากาศยานดอนเมืองและอู่ตะเภา ให้ใช้เป็นท่าอากาศยานชั่วคราว สำหรับสายการบินที่ต้องการจะนำเครื่องลงจอด
นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีการเกิดอุบัติเหตุเที่ยวบิน ทีจี 679 เส้นทาง กวางโจว-กรุงเทพ ด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ 330-300 เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 23.20 น. ได้เกิดเหตุไถลออกนอกทางวิ่ง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 6 คน เป็นชาวจีน 4 คน คนไทย 1 คน และชาวซิมบับเวย์ 1 คน ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุดังกล่าว ในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 07.00-10.00 น. ที่ผ่านมา ส่งผลให้เครื่องบินที่บินอยู่ในห่วงอากาศประมาณ 35 ลำ ดีเลย์ประมาณ 15 นาที ในการนำเครื่องลงจอด และเครื่องบินที่อยู่ในภาคพื้น ประมาณ 45 ลำ ดีเลย์ ประมาณ 30 นาที ในการบินขึ้น ทั้งนี้ การบินขึ้นของเครื่องบิน จะบินขึ้นได้แค่เครื่องขนาดไม่เกินแอร์บัส 320 ได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถลงจอด ส่วนเครื่องบินขนาดตั้งแต่ แอร์บัส 737 สามารถบินขึ้นลงได้ตามปกติ และขณะนี้ ท่าอากาศสุวรรณภูมิ ได้เปิดใช้เพียงรันเวย์ 19 ฝั่งขวา ด้านตะวันออกเพียงรันเวย์เดียว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ของกรมการบินพลเรือน และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เริ่มดำเนินการเก็บกู้เครื่องบินลำดังกล่าวแล้ว โดยคาดว่าจะเคลื่อนย้ายแล้วเสร็จ ภายใน 48 ชั่วโมง โดยหากสามารถเคลื่อนย้ายเครื่องบินออกจากรันเวย์ได้ จะใช้เวลาซ่อมแซมรันเวย์ ประมาณ 5 ชั่วโมง เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเปิดใช้รันเวย์ได้ก่อนเที่ยงของวันที่ 11 ก.ย.56 นอกจากนี้ ได้สั่งการให้เปิดท่าอากาศยานดอนเมืองและอู่ตะเภา ให้ใช้เป็นท่าอากาศยานชั่วคราว สำหรับสายการบินที่ต้องการจะนำเครื่องลงจอด