นายแบงก์ มองเฟดต้องชัดเจนลด QE
นายแบงก์ มองเฟด ต้องชัดเจนลด QE คาดลดน้อย ไม่กระทบเศรษฐกิจไทยปีนี้ มองเงินบาทปีนี้ 31-32 บาท/ดอลลาร์ฯ
น.ส.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ หัวหน้าศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ และผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยถึงการพิจารณาลดมารตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ในการประชุมวันที่ 17 - 18 ก.ย.นี้ว่า หากการประชุม มีความชัดเจนในการตัดสินใจ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อการลดปริมาณ QE ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจจะมีน้อย แต่หากยังไม่มีความชัดเจนในการประชุมครั้งนี้ จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และเกิดเงินทุนไหลออก กระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนของประเทศ ซึ่งในขณะนี้ เห็นว่า อัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสม ควรอยู่ที่ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทางด้าน นายบันลือศักดิ์ ปุสสะรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัยสายบริหารความเสี่ยง ธนาคารซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า มองเฟดจะตัดสินใจลดปริมาณ QE น้อยที่ 5,000-10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร แต่ในปีหน้าเชื่อว่า เฟด จะยกเลิก QE ทั้งหมด และอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย อาจทำให้มีปัญหาด้านสภาพคล่องตึงตัว จากการแข่งขันในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน โดยมองว่ากรอบอัตราแลกเปลี่ยนในปีนี้จะอยู่ที่ 31 - 32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
น.ส.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ หัวหน้าศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ และผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยถึงการพิจารณาลดมารตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ในการประชุมวันที่ 17 - 18 ก.ย.นี้ว่า หากการประชุม มีความชัดเจนในการตัดสินใจ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อการลดปริมาณ QE ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจจะมีน้อย แต่หากยังไม่มีความชัดเจนในการประชุมครั้งนี้ จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และเกิดเงินทุนไหลออก กระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนของประเทศ ซึ่งในขณะนี้ เห็นว่า อัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสม ควรอยู่ที่ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทางด้าน นายบันลือศักดิ์ ปุสสะรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัยสายบริหารความเสี่ยง ธนาคารซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า มองเฟดจะตัดสินใจลดปริมาณ QE น้อยที่ 5,000-10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร แต่ในปีหน้าเชื่อว่า เฟด จะยกเลิก QE ทั้งหมด และอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย อาจทำให้มีปัญหาด้านสภาพคล่องตึงตัว จากการแข่งขันในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน โดยมองว่ากรอบอัตราแลกเปลี่ยนในปีนี้จะอยู่ที่ 31 - 32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ