ปิยสวัสดิ์มองช่องว่างกฎหมายเป็นอุปสรรคพัฒนา

ปิยสวัสดิ์มองช่องว่างกฎหมายเป็นอุปสรรคพัฒนา

ปิยสวัสดิ์มองช่องว่างกฎหมายเป็นอุปสรรคพัฒนา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
'ปิยสวัสดิ์' แนะ สภาพัฒน์ เปลี่ยนบทบาทเป็นผู้กลั่นกรองการดำเนินนโยบายมหภาคของรัฐ มองช่องว่างกฎหมายเป็นอุปสรรคพัฒนา

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ ประธานกรรมการมูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม กล่าวในการเสวนา วางรากฐานสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจไทย ว่า ระบบการเงินของเศรษฐกิจไทย ได้ปรับเปลี่ยนไปจากเดิม ดังนั้น การแก้ปัญหาเพื่อการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน จึงเห็นว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ควรปรับเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นผู้เสนอแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มาเป็นการกลั่นกรองการดำเนินนโยบายมหภาคของรัฐบาล เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการอนุมัติโครงการที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศเช่นในอดีต

นอกจากนี้ นายปิยสวัสดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาและอุปสรรคต่อการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างยั่งยื่น มีหลายปัจจัย โดยปัจจัยที่สำคัญ มาจากมาตรการกฎเกณฑ์ของภาครัฐ ในการออกใบอนุญาตต่างๆ ที่ต้องมีการปฏิรูประบบการบริหารดำเนินงานทั้งระบบ เพื่อปิดช่องทางการทุจริคคอร์รัปชั่น โดยเฉพาะการทำงานของระบบราชการไทยที่มีความล่าช้า ส่งผลให้ภาคเอกชนดำเนินธุรกิจได้ยากลำบาก ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดช่องว่างของปัญหาคอร์รัปชั่นได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook