คอทองแดงกระอักพิษภาษี ร้านค้าโขกราคา-เหล้าเถื่อนทะลัก

คอทองแดงกระอักพิษภาษี ร้านค้าโขกราคา-เหล้าเถื่อนทะลัก

คอทองแดงกระอักพิษภาษี ร้านค้าโขกราคา-เหล้าเถื่อนทะลัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"เหล้า-เบียร์" กุมขมับยังมึนพิษภาษีใหม่ไม่หาย ยักษ์น้ำเมานอก "ดิอาจิโอ" หวั่นทัพเหล้าเถื่อนทะลักเพิ่ม ขณะที่ "บุญรอดฯ" เผยสับสนต้องหยุดผลิต 10 วัน ทำสินค้าขาดตลาด ร้านค้าปลีกสบโอกาสโขกราคา "ไทยเบฟฯ" ยันขยับราคาตามภาระภาษี ผลักภาระคอทองแดง "ไฮเนเก้น" สวนกระแส ยอมแบกรับต้นทุน-ตรึงราคา รอตลาดชัดเจน ทุกค่ายประสานเสียง หน้าขายปลายปีไม่คึกคัก

แม้ภาษีสรรพสามิต เหล้า-เบียร์ ใหม่ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน แต่จากความไม่ชัดเจนในการวิธีการคำนวณภาษีที่นอกจากจะเป็นการปรับทั้งใน เพดานภาษีแล้ว ในแง่ของฐานที่จะนำมาใช้ในการคำนวณที่เปลี่ยนมาเป็นราคาขายส่งสุดท้าย จากเดิมที่ใช้ราคาซีไอเอฟ หรือราคาหน้าโรงงาน

ได้ส่งผลให้ตลาดเกิด ภาวะชะลอตัว เนื่องจากผู้ประกอบการไม่สามารถจะยื่นต้นทุนเพื่อเสียภาษี และผลิตสินค้าเพื่อป้อนตลาดได้ และทำให้สินค้ามีไม่เพียงพอกับความต้องการ ขณะที่ร้านค้าปลีกมีการฉวยโอกาสปรับราคาสินค้าในสต๊อกเดิมไปล่วงหน้า



จับตาเหล้าเถื่อนทะลัก

นาย ธนากร คุปตจิตต์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างประเทศรายใหญ่ แบล็กเลเบิ้ล, เรดเลเบิ้ล เบนมอร์ ฯลฯ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า

จน ถึงขณะนี้บริษัทยังไม่ได้ยื่นต้นทุนเพื่อเสียภาษีใหม่ เพราะยังมีความสับสนอยู่ ประกอบกับบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำเข้าเป็นจำนวนมาก แต่ละรายการ แต่ละประเภทก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไปจึงอาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะ หนึ่ง และที่ผ่านมาก็ได้เข้าไปหารือกับกรมสรรพสามิตมาบ้างแล้ว

อัตรา ภาษีใหม่ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้มีต้นทุนเพิ่มอีกประมาณ 15-20% ยกตัวอย่าง กรณีของแบล็กเลเบิ้ล ปกติขายขวดละประมาณ 1,300 บาท อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะต้องปรับราคาขึ้นอีกขวดละ 200 บาท ราคาที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป บางกลุ่มอาจลดปริมาณการดื่มลง บางกลุ่มอาจเปลี่ยนไปดื่มสินค้าที่มีราคาถูกกว่า

สิ่งที่ผู้ประกอบ การกังวลก็คือเรื่องของเหล้าหนีภาษีที่จะมีมากขึ้น เนื่องจากราคาขายที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ช่องว่างราคาของเหล้าที่นำเข้าอย่างถูก ต้องกับของที่ลักลอบนำเข้ามามากขึ้น ซึ่งขณะนี้จากข้อมูลพบว่าเริ่มมีระบาดมากขึ้น และมีบางรายที่มีการประกาศขายทางออนไลน์ด้วย

"การปรับภาษีใหม่ดัง กล่าวเชื่อว่าจะมีผลกระทบกับตลาดช่วงปลายปีแน่ ส่วนจะมากหรือน้อยเพียงใดยังไม่สามารถบอกได้ชัด ซึ่งที่ผ่านมาตลาดเหล้านอกก็อยู่ในภาวะทรงตัว"

ฉวยโอกาสขึ้นราคาสต๊อกเดิม

แหล่ง ข่าวจากบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่จำกัด ผู้ผลิตเบียร์สิงห์ ลีโอ กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ไปในทิศทางเดียวกันว่าจนถึงวันนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดเข้าใจวิธีการ คิดภาษีใหม่ 100% และยังมีความสับสนอยู่ แต่จากที่ได้เข้าไปหารือกับกรมสรรพสามิต

และได้ข้อสรุปร่วมกันได้ใน ระดับหนึ่ง ซึ่งบริษัทก็ยื่นต้นทุนให้สรรพสามิตคิดคำนวณตามภาษีใหม่แล้ว เพราะหลังจากที่มีประกาศออกมา และเกิดความสับสนและไม่ชัดเจน บริษัทจึงหยุดผลิตเบียร์รวมประมาณ 10 วัน เพราะไม่รู้ว่าจะคำนวณภาษีอย่างไร

"เรา ต้องหยุดผลิตเพื่อรอความชัดเจน ซึ่งส่งผลกระทบกับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอย่างมาก โดยเฉพาะร้านอาหาร ร้านค้าปลีก ที่มีเบียร์ไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค นอกจากนี้ยังทำให้ผู้ประกอบการจำนวนหนึ่งที่ฉวยโอกาสปรับราคาขึ้นไป"

เมื่อ ถามถึงราคาขายเบียร์ตามภาษีใหม่ แหล่งข่าวกล่าวว่า เบื้องต้นราคาขายส่งจากบริษัทไปถึงร้านสะดวกซื้อน่าจะต้องบวกขึ้นจากเดิมอีก โดยเฉลี่ยขวดละ 7-8 บาท ส่วนจะราคาขายปลีกเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละร้านจะต้องการกำไรมากน้อย แค่ไหน ยกตัวอย่าง แม็คโคร หรือเซเว่นฯ หรือร้านตู้แช่ (โชห่วย) ก็จะขายราคาไม่เท่ากัน เพราะแต่ละร้านจะตั้งกำไรไม่เท่ากัน

"ช่วงนี้ ตลาดเบียร์โดยรวมอาจจะชะลอตัวลง เนื่องจากราคาที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลง ซึ่งในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา ตลาดก็มีอัตราการเติบโตเพียงเล็กน้อย ประมาณ 2-3% เท่านั้น"

ไทยเบฟฯทำใจตลาดชะลอตัว

แหล่งข่าวจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเหล้าและเบียร์รายใหญ่ กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สำหรับกลุ่มเบียร์บริษัทได้แจ้งต้นทุนเพื่อเสียภาษีใหม่ไปแล้ว เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา แต่ในส่วนของกลุ่มเหล้ายังไม่ได้ยื่น

เนื่องจากบริษัทมีสินค้าหลายรายการ จึงต้องรอรายละเอียดอีกระยะหนึ่ง ซึ่งผลจากอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว บริษัทก็จะต้องทยอยประกาศปรับราคาสินค้าตามภาระภาษีที่เพิ่มขึ้น และจะส่งผลให้ราคาขายปลีกต้องปรับขึ้นไปด้วย ซึ่งแต่ละชนิดแต่ละประเภทก็จะปรับขึ้นไม่เท่ากัน เพราะแต่ละชนิดแต่ละยี่ห้อก็มีต้นทุนที่แตกต่างกัน

"จากนี้ไปแม้ว่า จะเริ่มเข้าสู่หน้าขายสำคัญในช่วงปลายปี แต่ผลจากราคาเหล้าเบียร์ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับผลกระทบจากปัจจัยทางเศรษฐกิจโดยรวมที่ไม่ดีนัก กำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลจากเรื่องของรถคันแรก จะทำให้ตลาดเหล้าเบียร์โดยรวมอยู่ในภาวะที่ไม่ดีนัก"

ด้านนายปริญ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กร บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตเบียร์ไฮเนเก้น ไทเกอร์ และเชียร์ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ได้แจ้งต้นทุนเพื่อเสียภาษีตามอัตราใหม่ไปแล้ว แต่สินค้าตลาดยังจำหน่ายในราคาเดิม

เนื่องจากบริษัทยอมแบกรับภาระต้น ทุนภาษีไว้เอง อย่างไรก็ตามเมื่อสภาวะตลาดมีความชัดเจน บริษัทก็จะพิจารณาปรับราคาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นเมื่อไร หรือจะปรับเพิ่มขึ้นเท่าไหร่

"ช่วง 3 เดือนที่เหลืออยู่ โดยส่วนตัวเชื่อว่าตลาดเครื่องดื่มเหล้าเบียร์จะไม่หวือหวา เนื่องจากเป็นผลกระทบจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อมากกว่าเรื่องภาษี และช่วงนี้เป็นช่วงที่ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัว ทั้งในเรื่องของภาษีใหม่ และพฤติกรรมของผู้บริโภค จากนั้นในต้นปีหน้า การแข่งขันก็น่าจะกลับมาแรงขึ้น"

รายงานข่าวจากกรมสรรพสามิตเปิดเผย ว่า เมื่อวันที่ 25 และ 26 กันยายนที่ผ่านมา บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ได้ทยอยเข้าแจ้งต้นทุนให้กรมสรรพสามิตใช้ในการคำนวณภาษีตามอัตราใหม่ตาม ลำดับ และคาดว่าจากนี้ไป

เบียร์ของ 2 ค่ายใหญ่จะค่อย ๆทยอยออกสู่ตลาดเช่น สิงห์ (ขวด) เสียภาษีเพิ่ม 2 บาท ลีโอ 4.30 บาท ไฮเนเก้น 5 บาท ไทเกอร์ 0.30 สตางค์ และเชียร์ 1.70 บาท ส่วนเบียร์กระป๋อง สิงห์ เสียภาษีเพิ่ม 0.53 บาท ลีโอ 4.14 บาท ไฮเนเก้น 2.61 บาท และเชียร์ 0.57 บาท ส่วนช้าง (ขวด) เสียภาษีเพิ่ม 5.49 บาท อาชา เสียภาษีเพิ่ม 1.99 บาท ช้างเอกซ์พอร์ต เสียภาษีเพิ่ม 3.17 บาท และช้างดราฟท์ เสียภาษีเพิ่ม 4.10 บาท

ก่อนหน้านี้ รายงานข่าวจากกรมสรรพสามิตแจ้งว่า จากการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ คาดว่าราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาทิ เบียร์ช้าง ขนาด 330 มล. ราคา 25 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 27.96 บาท ขนาด 640 มล. ราคา 42 บาท เป็น 46.19 บาท ไฮเนเก้น ขนาด 330 มล. ราคา 40 บาท เป็น 42.07 บาท ขนาด 640 มล. ราคา 60 บาท เป็น 70.21 บาท

ขณะที่สุราปรุงพิเศษ แม่โขงขวดละ 100 เป็น 101 บาท รีเจนซี่ขนาด 175 มล. ราคา 142 บาท เป็น 155 บาท ขนาด 350 มล. ราคา 245 บาท เป็น 255 บาท ขนาด 700 มล. ราคา 500 บาท เป็น 525 บาท จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็กเลเบิ้ล ราคา 1,199 บาท เป็น 1,230 บาท เรดเลเบิ้ล ราคา 779 บาท เป็น 860 บาท ฮันเดรด ไพเพอร์ส ราคา 365 บาท เป็น 390 บาท สุราขาว 28 ดีกรี ขวดละ 75 บาท เป็น 77.45 บาท, 30 ดีกรี ขวดละ 80 บาท เป็น 82.70 บาท, 35 ดีกรี ขวดละ 85 บาท เป็น 86.81 บาท, 40 ดีกรี ขวดละ 90 บาท เป็น 90.92 บาท เป็นต้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook