สมรภูมิ "พิซซ่า" ร้อนฉ่า ขาใหญ่เปิดศึก "1 แถม 1" ชิงลูกค้า

ตลาดพิซซ่าดูร้อนแรงขึ้นมาทันตา เมื่อ "พิซซ่าฮัท" จากค่าย "ยัม" ส่งโปรโมชั่นสุดฮอตซื้อ 1 แถม 1 เป็นครั้งแรกที่จัดพร้อมกันตั้งแต่ไซซ์กลาง ทุกหน้า ทุกขอบ ทุกช่องทางตั้งแต่ 15 กันยายนถึง 3 พฤศจิกายน จากปกติที่มีการจัดโปรโมชั่นดังกล่าวบ้าง แต่ไม่ครอบคลุมเหมือนเช่นครั้งนี้

เป็นที่รู้กันดีว่า "ขาประจำ" ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของโปรโมชั่น 1 แถม 1 ของตลาดพิซซ่าบ้านเราต้องยกให้กับ "เดอะพิซซ่า คอมปะนี" ที่เดินหน้าจัดต่อเนื่องมามากกว่า 10 ปี ในช่วงเดือนมีนาคม และกลายเป็น "เทรดิชั่น" หรือประเพณีที่ทำสืบทอดกันมา นอกจากเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของเดอะพิซซ่าฯ ถึงความ "คุ้มค่า คุ้มราคา"

ที่สำคัญก็ได้เซต "มาตรฐาน" โปรโมชั่นพิซซ่าในเมืองไทย และสร้างผลกระทบต่อการทำโปรโมชั่นของบรรดาคู่แข่งไปโดยปริยาย เหมือน ๆ ที่เกิดกับสมรภูมิ "ชาเขียวพร้อมดื่ม" ของไทยในทุกวันนี้ที่เสี่ยตัน ภาสกรนที ได้สร้างธรรมเนียมการทำโปรโมชั่นว่า ดื่มชาเขียวแล้วต้องได้เที่ยวญี่ปุ่น, ลุ้นทอง ฯลฯ

"แววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยัมเรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เป็นครั้งแรกที่บริษัทได้เปิดตัวแคมเปญ 1 แถม 1 เพราะมีความพร้อมมากขึ้น จากการปรับโมเดลธุรกิจพิซซ่าฮัทที่เพิ่งลงตัวเมื่อกลางปีที่ผ่านมา โดยจากนี้จะมุ่งธุรกิจ "ดีลิเวอรี่" เป็นหลัก

ขณะเดียวกันการเลือกจัดโปรโมชั่นดังกล่าวที่ถือเป็นโปรโมชั่นราคาที่รุนแรงในช่วงเวลานี้ เพราะต้องการกระตุ้นยอดขายในช่วงเศรษฐกิจขาลง บวกกับเป็นจังหวะเดียวกับการที่พิซซ่าฮัทได้ปรับสูตรแป้งแพนพิซซ่าให้ถูกปากคนไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากในช่วงที่ผ่านมา

"จากการจัดแคมเปญไปในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เราพบว่าผู้บริโภคมักเลือกสั่งพิซซ่าในราคาที่สูง อาทิ ขอบชีส หรือขอบไส้กรอกชีส ซึ่งมีราคาสูงกว่าทั่วไป เพราะต้องการความคุ้มค่า นั่นหมายถึงผู้บริโภคยังคงมองหาพิซซ่าในคุณภาพที่ดี ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ขณะเดียวกันทำให้เรารู้ว่าคนทานพิซซ่าค่อนข้างมีกำลังซื้อกว่าอาหารประเภทอื่น ๆ"

อย่างไรก็ตาม "แววคนีย์" ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า จะเดินหน้าจัดแคมเปญดังกล่าวต่อเนื่องในทุกปีในช่วงเวลานี้หรือไม่ ด้วยการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด แต่ยอมรับว่า โปรโมชั่นในลักษณะนี้เป็นสิ่งจำเป็นในการแข่งขันในตลาดพิซซ่าเมืองไทย

"ทุกวันนี้ยอมรับว่าในตลาดทุกค่ายมีการทำโปรโมชั่น 1 แถม 1 อย่างเดอะพิซซ่าก็จะทำทุกเดือนมีนาคม ค่ายอื่น ๆ ก็ทำ เราก็ถือโอกาสช่วงกำลังซื้อที่ไม่ค่อยดีในเวลานี้ ซึ่งเห็นชัดเจนว่าขณะนี้ทุกสินค้ารวมถึงอาหารจานด่วนทุกค่ายต่างทำโปรโมชั่นกันหมด"

ขณะที่ "เดอะ พิซซ่า คอมปะนี" ที่ยังไม่ถึงช่วงเดือนมีนาคม เลือกใช้โปรโมชั่นกับเมนูใหม่ "จัมโบ้ พิซซ่า พัฟ" ราคาเริ่มต้นเพียง 99 บาท ชูไซซ์ใหญ่และความหนักเครื่องตามสไตล์เดอะพิซซ่าฯ หวังปลุกยอดโค้งท้ายไปจนถึง 14 พฤศจิกายนนี้

ขณะที่ผู้เล่นรายล่าสุดอย่าง "โดมิโน" ที่หวนกลับมาทำตลาดในไทยตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็ต้องมาเจอภาวะกำลังซื้อในไทยที่อยู่ในช่วงถดถอยตลอดช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดก็ได้ส่งแคมเปญ 1 แถม 1 เริ่มต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยยังไม่มีกำหนดว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ แต่เลือกจำกัดวันเฉพาะวันอังคาร ส่วนวันหรือช่วงเวลาอื่นก็จะมีกิมมิกที่ต่างกันไป อาทิ วันศุกร์จะเป็นส่วนลดครึ่งราคาสำหรับพิซซ่าถาดที่ 2 หรือช่วงเวลากลางวัน ในวันจันทร์-ศุกร์ ที่จัดเป็นเซตสุดคุ้ม ประกอบด้วยพิซซ่า ชิคเก้นวิงส์ 4 ชิ้น โค้ก 1 กระป๋อง ในราคา 150 บาท

แม้จะมีโปรโมชั่นที่เร้าใจแต่ด้วยสาขาที่ยังกระจุกตัวอยู่แค่ในบริเวณสุขุมวิท 6 สาขา และลาดพร้าวอีก 2 สาขา ทำให้ศักยภาพในการดีลิเวอรี่ถึงมือผู้บริโภคยังไม่สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนได้เหมือน 2 รายใหญ่เท่าไรนัก

ส่วนอีกรายที่ขอเกาะกระแส "1 แถม 1" กับเขาด้วยคือ "นารายณ์ พิซเซอเรีย" ที่เพิ่งสิ้นสุดแคมเปญ 1 แถม 1 ไปเมื่อสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยเป็นค่ายที่กระโดดเข้ามาเล่นสงครามราคาแบบไม่เกรงกลัวค่ายใหญ่ และทำต่อเนื่องมาเป็นระยะ ๆ ซึ่งผู้บริหารนารายณ์ฯยอมรับว่า ท่ามกลางศึกโปรโมชั่นที่ดุเดือด บริษัทคงอยู่นิ่งไม่ได้ แต่ต้องกระโจนเข้าไปแข่งขัน แม้จำนวนสาขายังเสียเปรียบ แต่ก็ได้อาศัยช่องทางดีลิเวอรี่ในการเข้าถึงลูกค้า

วันนี้สมรภูมิพิซซ่าเมืองไทยยังเต็มไปด้วยโปรโมชั่น ซึ่งดูเหมือนเป็นกลยุทธ์ที่ขาดเสียมิได้ และเมื่อพิซซ่าฮัท แบรนด์อันดับ 1 ของโลก ประกาศความ