พายุ พัดถล่มแท่นผลิตน้ำมันดันราคาขึ้น
ไทยออยล์ เผย พายุโซนร้อน Karen พัดถล่มแท่นผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโก หนุนราคาน้ำมันดิบขึ้น จับตาการแก้ปัญหาการคลัง สหรัฐ
บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) รายงานสถานการณ์น้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ปรับเพิ่มขึ้น 0.46 เหรียญฯ ปิดที่ 109.46 เหรียญฯ ขณะที่ เวสต์ เท็กซัส ส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ปรับเพิ่มขึ้น 0.53 เหรียญฯ ปิดที่ 103.84 เหรียญฯ โดยราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นหลังพายุโซนร้อน Karen พัดเข้าถล่มชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก ทำให้กว่าร้อยละ 50 ของกำลังผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโก ต้องหยุดดำเนินการลง และการผลิตก๊าซธรรมชาติกว่า 1.8 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ต้องหยุดดำเนินการไปด้วย รวมทั้ง ภาวะ Government Shutdown ของสหรัฐฯ ยังไม่มีข้อสรุป
อย่างไรก็ตาม บริษัทไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นว่า น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 102-108 เหรียญฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 106-112 เหรียญฯ ซึ่งยังคงต้องติดตามการแก้ปัญหา Government Shutdown และปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่จะมีกำหนดเส้นตายกลางเดือนนี้ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องจับตา ได้แก่ ยอดการค้าระหว่างประเทศ ดัชนีภาคบริการจีน (HSBC Service PMI) รวมถึง ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดนำเข้า - ส่งออกของเยอรมนี ยอดค้าส่งสหรัฐฯ และรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ยอดนำเข้า-สั่งซื้อ ยอดขายร้านสาขา และยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ และดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก และความรู้สึกผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึง ดัชนีราคาผู้บริโภคเยอรมนี
บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) รายงานสถานการณ์น้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ปรับเพิ่มขึ้น 0.46 เหรียญฯ ปิดที่ 109.46 เหรียญฯ ขณะที่ เวสต์ เท็กซัส ส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ปรับเพิ่มขึ้น 0.53 เหรียญฯ ปิดที่ 103.84 เหรียญฯ โดยราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นหลังพายุโซนร้อน Karen พัดเข้าถล่มชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก ทำให้กว่าร้อยละ 50 ของกำลังผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโก ต้องหยุดดำเนินการลง และการผลิตก๊าซธรรมชาติกว่า 1.8 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ต้องหยุดดำเนินการไปด้วย รวมทั้ง ภาวะ Government Shutdown ของสหรัฐฯ ยังไม่มีข้อสรุป
อย่างไรก็ตาม บริษัทไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นว่า น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 102-108 เหรียญฯต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 106-112 เหรียญฯ ซึ่งยังคงต้องติดตามการแก้ปัญหา Government Shutdown และปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่จะมีกำหนดเส้นตายกลางเดือนนี้ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องจับตา ได้แก่ ยอดการค้าระหว่างประเทศ ดัชนีภาคบริการจีน (HSBC Service PMI) รวมถึง ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดนำเข้า - ส่งออกของเยอรมนี ยอดค้าส่งสหรัฐฯ และรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ยอดนำเข้า-สั่งซื้อ ยอดขายร้านสาขา และยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ และดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก และความรู้สึกผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึง ดัชนีราคาผู้บริโภคเยอรมนี