ตัวแทนพุงปลิ้นคอมมิสชั่นเกิน 6 หมื่นล้าน
ตัวแทนประกันชีวิต ยังคงเป็นช่องทางหลักในการขายประกันชีวิต โดย "สาระ ล่ำซำ" นายกสมาคมประกันชีวิตไทย ระบุว่า ช่องทางตัวแทนเป็นช่องทางที่เข้าถึงลูกค้าได้ดีที่สุด ในทุกกลุ่มทุกระดับ กระทั่งกลุ่มรากหญ้าที่เน้นการขาย แบบประกันไมโครอินชัวรันส์ ซึ่งแม้จะเป็นสินค้าที่ไม่ซับซ้อน และมีช่องทาง การขายหลากหลายที่จะช่วยเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย แต่สุดท้ายแล้วยังต้องอาศัย ตัวแทนประกันชีวิตในการสร้างความเข้าใจให้กับลูกค้า
"ช่องทางขายหลากหลาย ก็เพื่อให้ลูกค้า เข้าถึงประกันได้ง่ายขึ้น ซึ่งก็ขึ้นกับความสะดวก และ ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนว่าสะดวกที่จะซื้อประกันผ่านช่องทางไหน แต่วัดกันจริงๆ ตัวแทนยังเป็นช่องทางที่เข้าถึงลูกค้าได้ดีที่สุด"
ขณะที่การสอบตัวแทนประกันชีวิตกำลังอยู่ ในช่วงของการปรับปรุงข้อสอบ และทำคู่มือสอบ เพื่อให้ยอดสมัครสอบกระเตื้องขึ้นจากที่ลดฮวบ ฮาบกว่า 10% เพื่อให้การสร้างตัวแทนใหม่ของบริษัทประกันชีวิตเป็นไปตามแผนการผลิตผลงานเบี้ยประกัน หากมองในมุมของรายได้ของ ตัวแทนประกันชีวิต ที่เรียกว่า "ค่าบำเหน็จ" หรือ "ค่าคอมมิสชั่น" ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
+ มือทองฟันคอมมิสชั่นกระฉูด
+ ปี55โกย 64,356 ล้านบาทพุ่ง 23%
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสมาคมประกันชีวิตไทย พบว่า ทัพตัวแทนในธุรกิจประกันชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นับแต่ปี2547 ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งในสมัยนั้นยังเป็นกรมการประกันภัย ได้สังคายนาระบบทะเบียนตัวแทนชีวิตเสียใหม่ ทำให้เหลือตัวแทนในระบบ อยู่ 229,160 คน ลดลงไปเกือบครึ่งจาก 438,237 คน ในปีก่อนหน้า จากนั้นก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาเป็น 266,763 คน ในปี 2548 เพิ่มเป็น 293,192 คน ในปี2549 จนมาเป็น 324,858 คน ในปี 2550 และมาเป็น 333,468 คน ในปี 2551
กระทั่งในปี2552 ซึ่งเป็นปีที่คปภ. เริ่ม ต้นใช้กฎกติกาใหม่สำหรับการขอรับและ ต่อใบอนุญาตตัวแทน-นายหน้า ตาม พ.ร.บ. ประกันชีวิต และพ.ร.บ.ประกันวินาศภัย ฉบับใหม่ พ.ศ.2551 ที่ต้องให้มีการอบรมก่อน ทำให้เกิดปัญหาต่อใบอนุญาตไม่ทัน รวมทั้งการสร้างตัวแทนใหม่ชะงักไป ทำให้ยอดตัวแทนตกลงไป 13.04% เหลือ 289,938 คน และปี2553 ก็ลดลงมาอีก 10.51% เหลือ 259,495 คน ก่อนจะกระเตื้องขึ้นมา 3.64% เป็น 268,929 คน ในปี2554 และเพิ่มขึ้น 3.95% มาเป็น 279,540 คน ในปี2555 ที่ผ่านมา
ขณะที่รายได้ค่าคอมมิสชั่นของตัวแทน ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2550-2555) มีเพียงปี2553 เท่า นั้นที่ตกลงไป โดยปี2550 ธุรกิจประกันชีวิต จ่ายค่าคอมมิสชั่นตัวแทน ทั้งระดับตัวแทน และผู้บริหารตัวแทนไปถึง 36,466 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปี2549 ที่จ่ายไป 30,310 ล้านบาท มาถึงปี 2551จ่ายคอมมิสชั่นไป 39,301 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% และปี 2552 จ่ายคอมมิสชั่นไป 43,037 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%
ส่วนปี2553 จ่ายคอมมิสชั่นไป 39,749 ล้านบาท ลดลงไป 8% จากนั้นในปี2554 จ่ายคอมมิสชั่นไป 52,517 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 32% และปี2555 จ่ายคอมมิสชั่นไป 64,356 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% ตามลำดับ
+ ค่ายท็อปทรีจ่ายเยอะสุด
+ มือทอง "เอไอเอ" โกย 21,000 ล้าน
ส่วนบริษัทประกันชีวิตที่จ่ายค่าคอมมิสชั่นมากที่สุด หนีไม่พ้นบริษัทระดับท็อป ทรีที่มีเบี้ยประกันมากที่สุด และมีตัวแทนมาก ที่สุด โดยบริษัท เอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด มีตัวแทนกว่า 70,000 คน ปี2555 จ่ายคอม มิสชั่นไปทั้งหมด 21,680 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปี2554 โดยจ่ายให้ระดับตัวแทนทั่วไป 16,269 ล้านบาท และระดับผู้บริหาร ตัวแทน 5,411 ล้านบาท ตามด้วยบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มีตัวแทนประมาณ 70,000 คน ปี2555 จ่ายคอมมิสชั่นไปทั้งหมด 8,007 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากปี2554 โดยจ่ายให้กับระดับตัวแทนทั่วไป 4,804 ล้านบาท และตัวแทนระดับบริหาร 3,202 ล้านบาท และบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มีตัวแทนกว่า 20,000 คน ปี2555 จ่ายคอมมิสชั่นไป 7,952 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% แบ่ง เป็นจ่ายให้ระดับตัวแทน 4,864 ล้านบาท และ จ่ายให้ระดับผู้บริหารตัวแทน 3,088 ล้านบาท
ตามด้วยบริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มีตัวแทนประมาณ 4,000 คน จ่ายคอมมิสชั่นในปี2555 ไป 6,104 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% แบ่งเป็นจ่ายให้ระดับ ตัวแทน 5,007 ล้านบาท และระดับผู้บริหาร ตัวแทน 1,097 ล้านบาท และบริษัท กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มี ตัวแทนประมาณ 10,087 คน ปี2555 จ่ายคอมมิสชั่นไป 5,033 ล้านบาท เพิ่ม ขึ้น 44% แบ่งเป็นจ่ายให้ระดับตัวแทน 2,390 ล้านบาท และระดับผู้บริหารตัวแทน 2,642 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับแนวโน้มธุรกิจประกันชีวิต ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทางสมาคมประกัน ชีวิตไทย ยังยืนยันว่าน่าจะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 17.3% เนื่องจากในไตรมาสสุดท้ายของปีจะเป็นช่วงที่มีการเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตสูงสุด และในช่วงที่ผ่านมา 7 เดือนธุรกิจประกันชีวิตมีเบี้ยรับ รวมเติบโตเพิ่มขึ้นแล้วถึง 18%