บล.ไอร่า คาด หุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้น
บล.ไอร่า คาดหุ้นไทย เคลื่อนไหวแบบ side way มีโอกาสปรับขึ้น จับตาชุมนุม กปท. ที่หน้าทำเนียบ
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (10 ต.ค.) ว่า เคลื่อนไหวแบบ Sideway และมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น ภายใต้ความคาดหวังสภาคองเกรส อาจจะพิจารณาปรับเพิ่มเพดานหนี้ชั่วคราวให้กับรัฐบาลกลาง เช่นเดียวกับที่ทำไปเมื่อช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อระดับหนี้ชนเพดานที่ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยใช้มาตรการพิเศษต่างๆ เพื่อระดมทุนและชำระค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ขณะที่ในวันที่ 17 ตุลาคม 2556 รัฐบาลจะเหลือเงินสดในมือเพียง 3.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่รายจ่ายรายวันสูงถึง 6.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดน่าจะมีทางออกที่ดีเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
อย่างไรก็ตาม คาดยังมีปัจจัยบวกจากประเด็นการประชุมเฟด วันที่ 29 - 30 ตุลาคม 2556 ที่คาดในครั้งนี้ เฟดอาจจะยังไม่พิจารณาปรับลดวงเงิน QE ลง ขณะที่ล่าสุดมีการประกาศแต่งตั้ง นางเจเน็ต เยลเลน ขึ้นเป็นประธานเฟดคนใหม่ และมีแนวโน้มที่จะสานต่อนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของ นายเบอร์นันเก้ ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ คาดยังเป็นปัจจัยเดิม โดยหลังวุฒิสภามีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท โดยคาดน่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 30 วัน คาดน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง แต่จาก Fund Flow ที่ไหลออกในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตามทิศทางเดียวกับกลุ่ม TIP ขณะที่แนะติดตาม (1) การปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP ในปี ’56 ของหลายๆ หน่วยงาน ซึ่งคาดจะเป็นประเด็นกดดันตลาดต่อไป (2) ทิศทางค่าเงินบาท ที่ส่งผลต่อกลุ่มส่งออก รวมถึงแนะจับตาการเคลื่อนไหวของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่ล่าสุดมีการเคลื่อนย้ายจากสวนลุมพินี ไปปักหลักที่ทำเนียบรัฐบาล
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (10 ต.ค.) ว่า เคลื่อนไหวแบบ Sideway และมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น ภายใต้ความคาดหวังสภาคองเกรส อาจจะพิจารณาปรับเพิ่มเพดานหนี้ชั่วคราวให้กับรัฐบาลกลาง เช่นเดียวกับที่ทำไปเมื่อช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อระดับหนี้ชนเพดานที่ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยใช้มาตรการพิเศษต่างๆ เพื่อระดมทุนและชำระค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ขณะที่ในวันที่ 17 ตุลาคม 2556 รัฐบาลจะเหลือเงินสดในมือเพียง 3.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่รายจ่ายรายวันสูงถึง 6.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดน่าจะมีทางออกที่ดีเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
อย่างไรก็ตาม คาดยังมีปัจจัยบวกจากประเด็นการประชุมเฟด วันที่ 29 - 30 ตุลาคม 2556 ที่คาดในครั้งนี้ เฟดอาจจะยังไม่พิจารณาปรับลดวงเงิน QE ลง ขณะที่ล่าสุดมีการประกาศแต่งตั้ง นางเจเน็ต เยลเลน ขึ้นเป็นประธานเฟดคนใหม่ และมีแนวโน้มที่จะสานต่อนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของ นายเบอร์นันเก้ ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ คาดยังเป็นปัจจัยเดิม โดยหลังวุฒิสภามีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท โดยคาดน่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 30 วัน คาดน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง แต่จาก Fund Flow ที่ไหลออกในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตามทิศทางเดียวกับกลุ่ม TIP ขณะที่แนะติดตาม (1) การปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP ในปี ’56 ของหลายๆ หน่วยงาน ซึ่งคาดจะเป็นประเด็นกดดันตลาดต่อไป (2) ทิศทางค่าเงินบาท ที่ส่งผลต่อกลุ่มส่งออก รวมถึงแนะจับตาการเคลื่อนไหวของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่ล่าสุดมีการเคลื่อนย้ายจากสวนลุมพินี ไปปักหลักที่ทำเนียบรัฐบาล