ทนง มองขยายเพดานหนี้สหรัฐฯไม่น่ากังวล
อดีตรัฐมนตรีฯ คลัง 'ทนง พิทยะ' มอง ขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ไม่น่ากังวล จับตาปรับ QE ขอ ธปท. ดูแลอัตราแลกเปลี่ยนใกล้ชิด
นายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การขยายเพดานหนี้ของทางสหรัฐฯ นั้น เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน และที่ผ่านมาก็ได้เป็นบทพิสูจน์แล้วว่า เป็นการเล่นเกมทางการเมืองเท่านั้น เนื่องจาก ทางสหรัฐฯ จะไม่ยอมให้โดนปรับลดเรตติ้งอย่างแน่นอน เพราะผิดนัดชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม ได้มองว่าปัญหาดังกล่าวคงไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยมากนักแต่จากนี้ไปประเทศไทยคงต้องจับตาในส่วนการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ของทางสหรัฐฯ ที่จะมีผลต่อเงินทุนไหลเข้าและไหลออกมากกว่า ซึ่งทั้งนี้คงต้องให้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เข้ามาดูแลและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในการรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉพาะค่าเงินบาท ไม่ให้มีความผันผวนมากจนเกินไป ซึ่งในปัจจุบันนั้น อัตราค่าเงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ 31 - 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ นั้น ถือว่ามีความเหมาะสม และเชื่อว่า ทางธนาคารแห่งประเทศไทย มีเครื่องมือพร้อมในการเข้ามาดูแล
นายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การขยายเพดานหนี้ของทางสหรัฐฯ นั้น เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน และที่ผ่านมาก็ได้เป็นบทพิสูจน์แล้วว่า เป็นการเล่นเกมทางการเมืองเท่านั้น เนื่องจาก ทางสหรัฐฯ จะไม่ยอมให้โดนปรับลดเรตติ้งอย่างแน่นอน เพราะผิดนัดชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม ได้มองว่าปัญหาดังกล่าวคงไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยมากนักแต่จากนี้ไปประเทศไทยคงต้องจับตาในส่วนการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE ของทางสหรัฐฯ ที่จะมีผลต่อเงินทุนไหลเข้าและไหลออกมากกว่า ซึ่งทั้งนี้คงต้องให้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เข้ามาดูแลและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในการรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉพาะค่าเงินบาท ไม่ให้มีความผันผวนมากจนเกินไป ซึ่งในปัจจุบันนั้น อัตราค่าเงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ 31 - 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ นั้น ถือว่ามีความเหมาะสม และเชื่อว่า ทางธนาคารแห่งประเทศไทย มีเครื่องมือพร้อมในการเข้ามาดูแล