ย้ายเมืองกรุงหนี Water World
กรุงเทพฯและปริมณฑลมีประชา-กรอาศัยอยู่กว่า 20 ล้านคน ยังสุ่มเสี่ยงจะได้รับวิบากกรรมจากมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ในไม่กี่ปีข้างหน้า โดย "ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา" นักวิศวกรรมศาสตร์ผู้หยั่งรู้การเปลี่ยน แปลงสภาพภูมิอากาศได้ย้ายหนีกรุง เทพฯ ไปสร้างโรงเรียนสร้างคนดี "สัตยาไส" ที่จังหวัดลพบุรี ขณะที่ "สมิทธ ธรรมสโรช" ออกโรงเตือนรีบสร้าง "กรุงเทพฯ 2" รับมือ ระบุเห็นด้วยที่จะเนรมิต "ปากช่อง" แล้วใช้รถไฟความเร็วสูงรับคนกรุงหนีน้ำ
ปี 2556 เป็นอีกปีที่คนกรุงอกสั่น ขวัญแขวนกับวิกฤติมหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นรอบทิศ โดยเฉพาะมวลน้ำเข้าโจมตี นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี เห็นสภาพแล้วเสมือนหนังม้วนเก่าเมื่อปี 2554 กลับมาฉายซ้ำยังไงยังงั้น แม้ว่าปีนี้ความเสียหายจะเทียบไม่ได้กับ 2 ปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่าเกือบ 5 แสนล้านบาท แต่จะมีใครกล้าออกมารับประกันว่าในปีต่อๆ ไปจะไม่เกิดความหายนะจากน้ำท่วมใหญ่
สังเกตได้จากพื้นที่ที่ไม่เคยประสบภาวะน้ำท่วมหลายจังหวัด เช่น สระแก้ว ปราจีนบุรี ขลบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ปีนี้กลับเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหนัก โดยผู้รู้ได้ออกมาเตือนว่า นี่เป็นลางร้ายที่จะเกิดน้ำท่วม "กรุง เทพฯ" ครั้งใหญ่ใน 7-8 ปีข้างหน้า
"จังหวัดที่ไม่เคยถูกน้ำท่วมกลับเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหนัก ชลบุรี น้ำก็ท่วม โดยเฉพาะพัทยามีน้ำทะเลหนุนสูง พื้นที่เคยวางผ้าใบได้ ทุกวันนี้พ่อค้า แม่ค้าวางไม่ได้แล้ว กางร่มก็ไม่ได้ ริมถนนเลียบทะเลน้ำท่วม หมดแล้ว" นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยแห่งชาติ เกริ่นถึงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่เลวร้าย
นอกจากนี้ "สมิทธ" ยังกล่าวกับ "สยามธุรกิจ" ด้วยว่าวิกฤติมหาอุทกภัยที่ประเทศไทยกำลังประสบอยู่มาจากมวลน้ำเหนือไหลงมาแล้วมีการบริหารจัดการไม่ถูกวิธี ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายพื้นที่ แต่ในปี 2563 กรุงเทพฯ จะถูกน้ำท่วมครั้งใหญ่สูงกว่า 10 เมตร ซึ่งเป็นการคาดการณ์ของ ผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศว่าน้ำทะเลจะท่วมกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับเมืองหลวงสำคัญๆ เช่น โตเกียว โซล ไทเป เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง ฮานอย สิงคโปร์ซิตี้ และย่างกุ้ง ซึ่งปัญหามาจากสภาวะโลกร้อนและจากการเปลี่ยนอุณหภูมิของอากาศเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 1.5-4.5 เซลเซียส ทำให้ระดับน้ำของมหาสมุทร เพิ่มสูงขึ้น 1-1.5 เมตร ภายในระยะ 8-15 ปี
กรุงเทพฯ จะถูกน้ำท่วมใหญ่มาจากปัญหาโลกร้อนทำให้น้ำแข็งละลาย เร็วผิดปกติแล้วยังมาจากการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ทำให้น้ำท่วมแถบปริมณฑลเกิดขึ้นอย่างถาวร ยกเว้นจะมีการก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำทะเลสูง 20 เมตร จังหวัดราชบุรีผ่านอ่าวไทยเชื่อมจังหวัดชลบุรี มูลค่า 1.3 แสนล้านบาท.....
"น้ำท่วมกรุงเทพฯ พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้แก่ เขตพระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ บางรัก คลองสาน บางกอกใหญ่ ผลกระทบที่จะตามมาคือ การให้บริการน้ำประปาประชากรเกือบ 20 ล้านคน" นายสมิทธ กล่าว
ประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยแห่งชาติ แนะนำว่า ประชาชน และนักธุรกิจ ที่อาศัยและทำมาหากินอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ควรเตรียมทางหนีทีไล่ด้วยการมองหาสถานที่ก่อสร้างบ้านและบริษัทไว้ในบริเวณที่สูง และถ้าเป็นไปได้อยากให้รัฐบาลมองหาพื้นที่ก่อสร้าง "กรุงเทพฯ 2" ไว้รองรับอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
"ได้มีตัวอย่างคือ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ได้ไปสร้างโรงเรียน สัตยาไส ที่จังหวัดลพบุรี เพื่อเตรียมความพร้อมหนีน้ำท่วมกรุงเทพฯ แล้ว"
"การเลือกสถานที่เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมควรเลือกพื้นที่สูงอย่างเช่นปากช่อง ก็มีความเหมาะสม โดย เฉพาะรัฐบาลกำหนดให้เป็นสถานีรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-หนองคาย ถ้าก่อสร้างเป็นกรุงเทพฯ 2 ก็ค่อนข้างมีความเป็นไปได้" นายสมิทธ กล่าวทิ้งท้าย
คำเตือนของ "สมิทธ" ครั้งนี้อย่าให้เป็นเหตุการณ์ซ้ำสองเหมือนเมื่อครั้งเคยเตือนภัย "สึนามิ" ในปี 2547 ว่าจะเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิในจังหวัดภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามันของไทย แต่ทว่า..ขณะนั้นยังไม่มีใครเชื่อ.?