บล.เคเคเทรด มองเฟดยังไม่ลดQEหนุนหุ้นไทย
บล.เคเคเทรด มองตลาดหุ้นไทยยังได้รับปัจจัยหนุนจากเฟดยังไม่ปรับลด QE ชี้ กระแสเงินทุนไหลเข้าราว 357 ล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคเคเทรด จำกัด เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (21 ต.ค.) ว่า ยังคงมีแนวโน้มที่จะได้รับปัจจัยหนุนจากโอกาสที่เหลือน้อยมาก ที่เฟดจะปรับลดขนาดมาตรการ QE ลงในการประชุม FOMC วันที่ 29-30 ต.ค.2556 โดยที่ในเบื้องต้นประเมินว่า เฟดจะลดขนาดมาตรการ QE ลงเร็วที่สุด คือ ในการประชุม วันที่ 24-25 ม.ค.2557 และยุติทั้งหมดใน พ.ย.2557
ขณะที่ผลสำรวจจาก Bloomberg ระบุว่า โดยเฉลี่ยนักเศรษฐศาสตร์ 40 คน คาดว่า เฟดจะลดขนาดมาตรการ QE ในการประชุม วันที่ 17-18 มี.ค.2557 ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นที่กลับมาสะท้อนออกมาจากการที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสเงินทุนไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นโลกถึง 1.72 หมื่นล้านดอลลาร์ สวนทางกับตลาดพันธบัตรโลกที่มีเงินทุนไหลออกราว 3.26 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม สัญญาณการไหลกลับของกระแสเงินทุนมายังตลาดหุ้นเอเชียยังคงชัดเจนต่อเนื่อง โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเงินทุนไหลเข้าราว 357 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ในกลุ่ม TIPs ตลาดหุ้นไทยเป็นเพียงตลาดเดียวที่มีกระแสเงินทุนไหลเข้าราว 152 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ในระยะไม่เกิน 1 สัปดาห์ SET มีโอกาสที่เหวี่ยงตัวขึ้นไปที่ 1,490 จุดได้ ซึ่งถ้ายืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ SET จะขยับกรอบการเหวี่ยงตัวขึ้นไปที่ 1,490-1,520 จุด แต่ถ้าทดสอบแล้วไม่สามารถยืนได้ หรือหมุนตัวลงต่ำกว่า 1,465 จุดลงมาอีกครั้ง SET มีโอกาสที่จะถอยตัวลงมาสร้างฐานสั้นๆ ในกรอบ 1,445-1,425 จุด
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคเคเทรด จำกัด เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (21 ต.ค.) ว่า ยังคงมีแนวโน้มที่จะได้รับปัจจัยหนุนจากโอกาสที่เหลือน้อยมาก ที่เฟดจะปรับลดขนาดมาตรการ QE ลงในการประชุม FOMC วันที่ 29-30 ต.ค.2556 โดยที่ในเบื้องต้นประเมินว่า เฟดจะลดขนาดมาตรการ QE ลงเร็วที่สุด คือ ในการประชุม วันที่ 24-25 ม.ค.2557 และยุติทั้งหมดใน พ.ย.2557
ขณะที่ผลสำรวจจาก Bloomberg ระบุว่า โดยเฉลี่ยนักเศรษฐศาสตร์ 40 คน คาดว่า เฟดจะลดขนาดมาตรการ QE ในการประชุม วันที่ 17-18 มี.ค.2557 ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นที่กลับมาสะท้อนออกมาจากการที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสเงินทุนไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นโลกถึง 1.72 หมื่นล้านดอลลาร์ สวนทางกับตลาดพันธบัตรโลกที่มีเงินทุนไหลออกราว 3.26 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม สัญญาณการไหลกลับของกระแสเงินทุนมายังตลาดหุ้นเอเชียยังคงชัดเจนต่อเนื่อง โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเงินทุนไหลเข้าราว 357 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ในกลุ่ม TIPs ตลาดหุ้นไทยเป็นเพียงตลาดเดียวที่มีกระแสเงินทุนไหลเข้าราว 152 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ในระยะไม่เกิน 1 สัปดาห์ SET มีโอกาสที่เหวี่ยงตัวขึ้นไปที่ 1,490 จุดได้ ซึ่งถ้ายืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ SET จะขยับกรอบการเหวี่ยงตัวขึ้นไปที่ 1,490-1,520 จุด แต่ถ้าทดสอบแล้วไม่สามารถยืนได้ หรือหมุนตัวลงต่ำกว่า 1,465 จุดลงมาอีกครั้ง SET มีโอกาสที่จะถอยตัวลงมาสร้างฐานสั้นๆ ในกรอบ 1,445-1,425 จุด