บัณฑิตจบใหม่แห่พึ่งมีดหมอ ตลาดจีนอู้ฟู่โตติดท็อปทรีโลก

บัณฑิตจบใหม่แห่พึ่งมีดหมอ ตลาดจีนอู้ฟู่โตติดท็อปทรีโลก

บัณฑิตจบใหม่แห่พึ่งมีดหมอ ตลาดจีนอู้ฟู่โตติดท็อปทรีโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การแข่งขันเพื่อเข้าทำงานของนักศึกษาจบใหม่จำนวนหลายล้านคนในจีน ได้หันมาพึ่งศัลยกรรมพลาสติกกันมากขึ้น เพราะการมีรูปลักษณ์ที่ดูดีนั้นเชื่อว่าจะสามารถใช้เป็นความได้เปรียบในการเข้าทำงาน จนคลินิกแห่งหนึ่งถึงกับคิดรูปทรงจมูกที่ได้แรงบันดาลใจจากหอไอเฟล

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า การรับสมัครคนเข้าทำงานของบริษัทในจีนนั้นมีการกล่าวถึงลักษณะที่ต้องการของผู้รับสมัครอย่างชัดเจน แม้กระทั่งส่วนสูงก็ต้องถึงเกณฑ์ที่กำหนด

จากข้อมูลพบว่าจำนวนนักศึกษาที่จบใหม่ในจีนปีนี้มีจำนวน 7 ล้านคน แม้ว่าจะมีอัตราการเติบโตจะช้าลงบ้างแล้วก็ตาม แต่สื่อของรัฐบาลจีนได้ออกมากล่าวว่า ปี 2556 นี้เป็นปีที่หินสุดสุดสำหรับพนักงานออฟฟิศหรือ White-collar Employee กันเลยก็ว่าได้ความจำเป็นต่อการแข่งขันดังกล่าวทำให้การออกมาพึ่งมีดหมอของนักศึกษาเหล่านี้ ขยายตลาดศัลยกรรมความงามจีนจนมีขนาดใหญ่อยู่ในอันดับที่ 3 ของโลกได้ในปัจจุบันคลินิกหลายสิบแห่งในบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของจีนอย่างฉงชิ่ง ได้ออกมาโฆษณาการเสริมจมูกในรูปทรงที่มีความโค้งเว้าแบบหอไอเฟล สัญลักษณ์แห่งประเทศฝรั่งเศส สถาปัตยกรรมที่ขึ้นชื่อของโลก

"เราได้รับแรงบันดาลใจมาจากความงามของสถาปัตยกรรมแห่งนี้ และเราก็ไม่ได้ทำแค่เพิ่มมันเข้าไป เราสร้างโครงจมูกใหม่ให้กับผู้ที่ต้องการ" หวัง ซื่อ หมิง เจ้าของคลินิกแห่งหนึ่งในฉงชิ่งกล่าว และยังบอกอีกว่า เดือนเดือนหนึ่งเขาได้ศัลยกรรมจมูกรูปทรงนี้ให้ลูกค้ากว่า 10 คน

จากสถิติของทางการจีน พบว่าการที่รัฐบาลได้ให้น้ำหนักกับการศึกษามากขึ้นทำให้จำนวนมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนต่าง ๆ ได้เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวใน 10 ปีที่ผ่านมา

โดยความไม่เพียงพอของตำแหน่งงานนั้นเห็นได้จากการที่นักศึกษาจำนวนมากที่สำเร็จการศึกษาลงเอยด้วยการว่างงานทุกปี โดยตัวเลขการว่างงานของนักศึกษาที่เพิ่งจบใหม่คิดเป็นตัวเลขประมาณ 10% ขณะที่คนอีกจำนวนมากกว่าครึ่ง ของประชากรทั้งหมดก็อยู่ในสถานะตกงานเช่นกัน สอดคล้องกับผลสำรวจจาก MyCos บริษัทที่ปรึกษาด้านการศึกษาในปักกิ่ง

"นักศึกษาหลายคนต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันที่จะต้องเข้าทำงานภายหลังจากเรียนจบไปแล้ว และถ้าหน้าตาของพวกเขาดูดี มันก็จะทำให้โอกาสในการเข้าทำงานง่ายขึ้น และเมื่อเราได้เสริมจมูกทรงไอเฟลให้ นั่นเป็นการช่วยพวกเขาเรื่องการเข้าทำงานได้มาก" หวังกล่าว

จากข้อมูลของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติพบว่า จำนวนการเข้ารับผ่าตัดศัลยกรรมพลาสติกในประเทศจีนเป็นรองแค่สหรัฐกับบราซิลเท่านั้น

สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีได้ออกมาบอกว่า การยอมควักกระเป๋าของชนชั้นกลางเพื่อความสวยครั้งนี้ส่งผลให้ตัวเลขของตลาดศัลยกรรมพลาสติกในจีนเติบโตขึ้นถึง 40% ในปีที่ผ่านมา

"ซู หยาง" นักศึกษาหลักสูตรพิพิธภัณฑ์วิทยาในปักกิ่งกล่าวว่า ปีนี้เธอได้ใช้บริการการดูดไขมัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในตัวช่วยที่จะทำให้เธอได้งาน "ฉันคิดว่ารูปร่างที่อ้วนของฉัน เมื่อเข้ารับการศัลยกรรมแล้วจะช่วยให้หางานได้ง่ายขึ้น บางครั้งเวลาที่เราไปสัมภาษณ์งานเขาก็สนใจในเรื่องรูปลักษณ์ของคุณมากกว่าประสบการณ์ที่มี โดยเฉพาะอาชีพพนักงานออฟฟิศต่าง ๆ"

ผู้บริหารโรงพยาบาลท่านหนึ่งกล่าวว่า ส่วนใหญ่แล้วลูกค้าของคลินิกจะเป็นผู้หญิงมากกว่า และมักจะมีครอบครัวที่สนับสนุนทางด้านการเงิน และบ่อยครั้งที่พวกเขามาพร้อมกับแม่ และดูมีสถานะทางการเงินที่ดี โดยราคาของการศัลยกรรมจมูกรูปทรงหอไอเฟลนั้นอยู่ที่ 60,000 หยวน หรือ 9,800 เหรียญสหรัฐ

"หอไอเฟลเป็นสถาปัตยกรรมที่คลาสสิกและเต็มไปด้วยดีไซน์ที่งดงาม เราพยายามที่จะผสมผสานศิลปะเข้าไปกับการแพทย์"

และเร็ว ๆ นี้เธอก็กำลังจะจัดทริปสำหรับผู้ที่ทำจมูกทรงไอเฟลจำนวนหนึ่ง โดยปราศจากค่าใช้จ่าย ให้ไปปารีสเพื่อยืนเทียบกับหอไอเฟลกันแบบจะจะอีกด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook