ตลาดไททุ่มงบฯ2.6พันล.ยกระดับ ดันไทยศูนย์กลางค้าส่งผัก-ผลไม้สดรับเปิดเออีซี

ตลาดไททุ่มงบฯ2.6พันล.ยกระดับ ดันไทยศูนย์กลางค้าส่งผัก-ผลไม้สดรับเปิดเออีซี

ตลาดไททุ่มงบฯ2.6พันล.ยกระดับ ดันไทยศูนย์กลางค้าส่งผัก-ผลไม้สดรับเปิดเออีซี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ตลาดไท" ค้าส่งผักและผลไม้สดใหญ่สุดของไทย ย่านรังสิต ประกาศแผนการลงทุนครั้งใหญ่ ทุ่ม 2.6 พันล้านยกระดับมุ่งสู่ฮับค้าส่งผักผลไม้สด มูลค่ารวม 2.7 ล้านล้านบาทรับเปิดเออีซีปี 2558

นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์จำกัด เจ้าของตลาดไท เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนลงทุน 2,600 ล้านบาทภายในปีนี้และปีหน้า เพื่อผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางสำหรับการค้าส่งผักและผลไม้สดของภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558

ปัจจุบันธุรกิจตลาดค้าส่งผักและผลไม้สดของไทย มีตลาดไท และตลาดสี่มุมเมือง คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50% ของทั้งประเทศ มีสินค้าเกษตรผ่านเข้าออกมากกว่า 15,000 ตันต่อวัน ถือเป็นศักยภาพและเป็นโอกาสในการเดินหน้าเชิงรุกผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นฮับสำหรับการค้าในอาเซียน โดยกลยุทธ์ของตลาดไทคือขยับตัวให้รวดเร็วและลงทุนด้วยงบฯมหาศาล เพื่อยกระดับตลาดไท

"ถ้าตลาดไทประสบความสำเร็จ จะช่วยภาคการเกษตรโดยรวมของไทยได้ โดยการเปิดตลาดใหม่ ๆ ในภูมิภาค เพื่อเพิ่มลูกค้าให้กับเกษตรกรไทย ซึ่งจะส่งผลทำให้ราคาสินค้าของเกษตรกรไทยดีขึ้นตามไปด้วย" นายประดิษฐ์กล่าว

ด้านนายเกรแฮม แซนเดอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด กล่าวว่า เพื่อดำเนินการตามกลยุทธ์ดังกล่าว ขณะนี้บริษัทได้เพิ่มบริการเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของโมเดิร์นเทรดมากยิ่งขึ้น โดยเปิดศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าใหม่ในตลาดไท ทำหน้าที่ป้อนสินค้าให้กับโมเดิร์นเทรด โดยมีเทสโก้ โลตัส เป็นหนึ่งในลูกค้าหลักที่จะใช้บริการศูนย์ดังกล่าว

สำหรับศูนย์แห่งนี้สามารถรองรับสินค้าได้ 1,000 ตันต่อวัน โดยบริษัทจะลงทุน 1,000 ล้านบาทในช่วงต้นปี 2557 เพื่อขยายขีดความสามารถของศูนย์แห่งนี้ให้รองรับสินค้าได้ถึง 3,000 ตันต่อวัน พร้อมเพิ่มคลังสินค้าสำหรับการผลิต การบรรจุหีบห่อ และห้องเย็น เพื่อยกระดับศูนย์ให้มีความทันสมัยรองรับลูกค้าตลาดค้าส่งในปัจจุบัน รวมถึงลูกค้าโมเดิร์นเทรด

นายเกรแฮมกล่าวว่า นอกจากนี้ตลาดไทยังได้เปิดศูนย์คอนเทนเนอร์ใหม่ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน เพื่อเป็นแหล่งค้าขายผักและผลไม้นำเข้า ด้วยงบประมาณ 130 ล้านบาท รองรับได้ 13,140 คอนเทนเนอร์ต่อปี ทั้งนี้การนำเข้าผลไม้สดถือเป็นหนึ่งในภาคการนำเข้าที่มีอัตราการเติบโตรวดเร็วที่สุดของไทย โดยขยายตัวแบบก้าวกระโดดมากกว่า 26% ในปี 2555 ทำให้ภาคการนำเข้าผลไม้สดรวมมีมูลค่า 24,663 ล้านบาท

ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างประเมินโครงการลงทุนเพิ่มเติมมูลค่า 600 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินใกล้ตลาดไทเพิ่ม เพื่อขยายขีดความสามารถของศูนย์คอนเทนเนอร์ขึ้นเป็น 60,000 คอนเทนเนอร์ต่อปี

นอกจากนี้ ยังมีการยกระดับมาตรฐานโครงสร้างพื้นฐานหลักของตลาดไท ด้วยงบฯการลงทุนประมาณ 900 ล้านบาท ติดตั้งโครงข่ายไฟเบอร์ออปติกแกนหลักยาว 2 กิโลเมตร เครื่องสูบน้ำที่มีความสามารถในการสูบน้ำได้ 500 คิวบิกเมตรต่อวัน จำนวน 4 เครื่อง และโรงบำบัดน้ำเสีย 2 โรงที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ตลอดจนโครงการก่อสร้างและซ่อมแซมส่วนหลักอื่น ๆ ที่กำลังตามมา เป้าหมายเพื่อสร้างตลาดไทให้เป็นตลาดค้าส่งผักและผลไม้ที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

หากนับประเทศในเออีซีทั้งหมด ตลาดผักและผลไม้สดมีมูลค่ารวมกันประมาณ 2.7 ล้านล้านบาท โดยเป็นมูลค่าการนำเข้าและส่งออกระหว่างประเทศในเออีซีด้วยกัน รวมประมาณ 495,000 ล้านบาทต่อปี โดยผลิตผลไม้ได้ประมาณ 7,000,000 ตันต่อปี โดยส่งออกมากกว่า 2.7 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 89,000 ล้านบาท

สำหรับผลไม้ที่ส่งออกมากที่สุด 3 ชนิด ได้แก่ สับปะรด ส่งออกคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 60% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด รองลงมาคือลำไย คิดเป็นสัดส่วน 16% และทุเรียน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 8% ผลิตผักได้ประมาณ 3,300,000 ตันต่อปี ส่งออกประมาณ 249,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 9,900 ล้านบาท โดยผักที่ส่งออกมากที่สุด ได้แก่ มันสำปะหลัง ถั่วแดง และหอมแดง

ตลาดไทก่อตั้งในปี 2540 ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 450 ไร่ในย่านรังสิต เป็นสถานที่ทำมาค้าขายของประชาชนมากกว่า 100,000 คน และร้านค้า 3,000 ร้าน มีเงินหมุนเวียนประมาณ 500 ล้านบาทต่อวัน โดยเป็นตลาดค้าส่งผักและผลไม้สดที่ใหญ่ที่สุดของไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook