ตลาดไททุ่มงบฯ2.6พันล.ยกระดับ ดันไทยศูนย์กลางค้าส่งผัก-ผลไม้สดรับเปิดเออีซี
"ตลาดไท" ค้าส่งผักและผลไม้สดใหญ่สุดของไทย ย่านรังสิต ประกาศแผนการลงทุนครั้งใหญ่ ทุ่ม 2.6 พันล้านยกระดับมุ่งสู่ฮับค้าส่งผักผลไม้สด มูลค่ารวม 2.7 ล้านล้านบาทรับเปิดเออีซีปี 2558
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์จำกัด เจ้าของตลาดไท เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนลงทุน 2,600 ล้านบาทภายในปีนี้และปีหน้า เพื่อผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางสำหรับการค้าส่งผักและผลไม้สดของภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558
ปัจจุบันธุรกิจตลาดค้าส่งผักและผลไม้สดของไทย มีตลาดไท และตลาดสี่มุมเมือง คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50% ของทั้งประเทศ มีสินค้าเกษตรผ่านเข้าออกมากกว่า 15,000 ตันต่อวัน ถือเป็นศักยภาพและเป็นโอกาสในการเดินหน้าเชิงรุกผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นฮับสำหรับการค้าในอาเซียน โดยกลยุทธ์ของตลาดไทคือขยับตัวให้รวดเร็วและลงทุนด้วยงบฯมหาศาล เพื่อยกระดับตลาดไท
"ถ้าตลาดไทประสบความสำเร็จ จะช่วยภาคการเกษตรโดยรวมของไทยได้ โดยการเปิดตลาดใหม่ ๆ ในภูมิภาค เพื่อเพิ่มลูกค้าให้กับเกษตรกรไทย ซึ่งจะส่งผลทำให้ราคาสินค้าของเกษตรกรไทยดีขึ้นตามไปด้วย" นายประดิษฐ์กล่าว
ด้านนายเกรแฮม แซนเดอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด กล่าวว่า เพื่อดำเนินการตามกลยุทธ์ดังกล่าว ขณะนี้บริษัทได้เพิ่มบริการเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของโมเดิร์นเทรดมากยิ่งขึ้น โดยเปิดศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าใหม่ในตลาดไท ทำหน้าที่ป้อนสินค้าให้กับโมเดิร์นเทรด โดยมีเทสโก้ โลตัส เป็นหนึ่งในลูกค้าหลักที่จะใช้บริการศูนย์ดังกล่าว
สำหรับศูนย์แห่งนี้สามารถรองรับสินค้าได้ 1,000 ตันต่อวัน โดยบริษัทจะลงทุน 1,000 ล้านบาทในช่วงต้นปี 2557 เพื่อขยายขีดความสามารถของศูนย์แห่งนี้ให้รองรับสินค้าได้ถึง 3,000 ตันต่อวัน พร้อมเพิ่มคลังสินค้าสำหรับการผลิต การบรรจุหีบห่อ และห้องเย็น เพื่อยกระดับศูนย์ให้มีความทันสมัยรองรับลูกค้าตลาดค้าส่งในปัจจุบัน รวมถึงลูกค้าโมเดิร์นเทรด
นายเกรแฮมกล่าวว่า นอกจากนี้ตลาดไทยังได้เปิดศูนย์คอนเทนเนอร์ใหม่ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน เพื่อเป็นแหล่งค้าขายผักและผลไม้นำเข้า ด้วยงบประมาณ 130 ล้านบาท รองรับได้ 13,140 คอนเทนเนอร์ต่อปี ทั้งนี้การนำเข้าผลไม้สดถือเป็นหนึ่งในภาคการนำเข้าที่มีอัตราการเติบโตรวดเร็วที่สุดของไทย โดยขยายตัวแบบก้าวกระโดดมากกว่า 26% ในปี 2555 ทำให้ภาคการนำเข้าผลไม้สดรวมมีมูลค่า 24,663 ล้านบาท
ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างประเมินโครงการลงทุนเพิ่มเติมมูลค่า 600 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินใกล้ตลาดไทเพิ่ม เพื่อขยายขีดความสามารถของศูนย์คอนเทนเนอร์ขึ้นเป็น 60,000 คอนเทนเนอร์ต่อปี
นอกจากนี้ ยังมีการยกระดับมาตรฐานโครงสร้างพื้นฐานหลักของตลาดไท ด้วยงบฯการลงทุนประมาณ 900 ล้านบาท ติดตั้งโครงข่ายไฟเบอร์ออปติกแกนหลักยาว 2 กิโลเมตร เครื่องสูบน้ำที่มีความสามารถในการสูบน้ำได้ 500 คิวบิกเมตรต่อวัน จำนวน 4 เครื่อง และโรงบำบัดน้ำเสีย 2 โรงที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ตลอดจนโครงการก่อสร้างและซ่อมแซมส่วนหลักอื่น ๆ ที่กำลังตามมา เป้าหมายเพื่อสร้างตลาดไทให้เป็นตลาดค้าส่งผักและผลไม้ที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หากนับประเทศในเออีซีทั้งหมด ตลาดผักและผลไม้สดมีมูลค่ารวมกันประมาณ 2.7 ล้านล้านบาท โดยเป็นมูลค่าการนำเข้าและส่งออกระหว่างประเทศในเออีซีด้วยกัน รวมประมาณ 495,000 ล้านบาทต่อปี โดยผลิตผลไม้ได้ประมาณ 7,000,000 ตันต่อปี โดยส่งออกมากกว่า 2.7 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 89,000 ล้านบาท
สำหรับผลไม้ที่ส่งออกมากที่สุด 3 ชนิด ได้แก่ สับปะรด ส่งออกคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 60% ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด รองลงมาคือลำไย คิดเป็นสัดส่วน 16% และทุเรียน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 8% ผลิตผักได้ประมาณ 3,300,000 ตันต่อปี ส่งออกประมาณ 249,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 9,900 ล้านบาท โดยผักที่ส่งออกมากที่สุด ได้แก่ มันสำปะหลัง ถั่วแดง และหอมแดง
ตลาดไทก่อตั้งในปี 2540 ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 450 ไร่ในย่านรังสิต เป็นสถานที่ทำมาค้าขายของประชาชนมากกว่า 100,000 คน และร้านค้า 3,000 ร้าน มีเงินหมุนเวียนประมาณ 500 ล้านบาทต่อวัน โดยเป็นตลาดค้าส่งผักและผลไม้สดที่ใหญ่ที่สุดของไทย