ผู้กู้เฮ "ธอส."เล็งลดดอกเบี้ยบ้าน หวังลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน
ธอส.ประชุมบอร์ดขออนุมัติลดดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากสัปดาห์นี้ หลัง กนง.ได้ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ระบุแบงก์รัฐเห็นควรลดดอกเบี้ยหวังลดภาระประชาชนท้ายปี ส่วนปีหน้าตั้งเป้าปล่อยกู้ 1.3 แสนล้านบาท เน้นขยายพอร์ตไปหัวเมืองมากขึ้น
นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ธอส. เพื่อพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก เพราะธนาคารของรัฐได้หารือร่วมกันแล้ว เห็นว่า ควรจะต้องมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ซึ่งจะช่วยลดภาระให้กับผู้กู้ในช่วงท้ายปี ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
นางอังคณากล่าวว่า การปรับลดดอกเบี้ยสินเชื่อลง ยังจะส่งผลดีต่อฐานะของธนาคารด้วย เพราะคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้น จากภาระผ่อนชำระที่ลดลง ซึ่งจะช่วยให้สามารถลดระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ได้ หลังจากที่ธนาคารสามารถลดเอ็นพีแอลลงเหลือ 6.71% คิดเป็น 48,506 ล้านบาทลดลงถึง 10% ด้วยการขายเอ็นพีแอล 8,114 ล้านบาทให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิช จำกัด (บสก.)
นางอังคณากล่าวอีกว่า สำหรับเป้าหมายสินเชื่อในปี 2557 ธอส.ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อไว้ที่ประมาณ 1.3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2557 จะขยายตัว 8-10% และสินเชื่อที่อยู่อาศัยรวมจะขยายตัว 5% ซึ่ง ธอส.ก็ตั้งเป้ามากกว่าระบบรวมเล็กน้อย โดยตั้งเป้าที่จะขยายการปล่อยกู้ไปยังภูมิภาคมากขึ้น จากความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นแนวเชื่อมต่อกับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)
"จะเห็นได้ว่า ช่วงที่ผ่านมา สินเชื่อในเขต กทม. และปริมณฑลยังขยายตัวไม่มากเท่าสินเชื่อในเขตภูมิภาค เนื่องจากการขยายตัวของหัวเมืองใหญ่ในเขตชายแดนที่เติบโตตามการขยายตัวของการค้าในเขตเออีซี และ การคาดการณ์ว่าเมืองจะเจริญตามแนวก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูง โดยปัจจุบันสินเชื่อในเขตภูมิภาคมีสัดส่วนถึง 60% ขณะที่สินเชื่อ กทม.มีสัดส่วน 40%" นางอังคณากล่าว และว่า ส่วนเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมืองใน กทม.ขณะนี้ จะไม่กระทบกับการปล่อยสินเชื่อมากนัก เพราะธนาคารก็เน้นปล่อยสินเชื่อในต่างจังหวัดอยู่แล้ว โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันออก ที่อสังหาฯยังเติบโตได้ดี