ยอดจองทัวร์ตรุษจีนวูบ!ยกเลิก100เที่ยวบิน
ธุรกิจท่องเที่ยวครวญ ยอดจอง "ตรุษจีน" วูบ 50% "แอตต้า" วอนเคลียร์ปัญหาการเมือง ชาร์เตอร์ไฟลต์หายกว่า 100 เที่ยว ด้าน ททท.มั่นใจ ยอดนักท่องเที่ยวทั้งปีทะลุ 5 ล้านคน
นายวิชิต ประกอบโกศล ประธานกลุ่มบริษัท ซี.ซี.ที. กรุ๊ป ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากสถานการณ์การเมืองของไทยที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ ทำให้ยอดจองแพ็กเกจทัวร์ของตลาดนักท่องเที่ยวขาเข้า (อินบาวนด์) ชาวจีนในช่วงส่งปีใหม่ซบเซามาก และส่งผลให้ภาพรวมตลาดจีนโดยรวมลดลงกว่า 30% โดยเฉพาะกรุ๊ปทัวร์ที่ลดลงถึง 50% ปกติก่อนช่วงปีใหม่ บริษัททัวร์อินบาวนด์จีน จะมียอดจองทัวร์ทั้งช่วงปีใหม่และตรุษจีนกว่า 90% แล้ว แต่พอเจอปัญหาการเมือง นักท่องเที่ยวชาวจีนส่วนใหญ่แยกไม่ออกว่าปัญหาเกิดเฉพาะที่กรุงเทพฯเท่านั้น เขาเหมารวมว่าเกิดทั้งประเทศ แม้แต่ภูเก็ต เชียงใหม่ สมุย ก็ลดลง 20-30%เช่นกัน
"กฎหมายควบคุมทัวร์ศูนย์เหรียญของทางการจีนมีกระทบ ต่อเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เดิมคาดว่าตลาดจีนจะกลับมาภายใน 3 เดือน หลังกฎหมายบังคับใช้ หรือภายในเดือนมกราคม ทันช่วงตรุษจีน (ปลายเดือนมกราคม 2557) แต่พอเจอปัญหาการเมืองเข้า แม้จะไม่มีภาพความรุนแรงเกิดขึ้นก็กระตุ้นยอดจองทัวร์ช่วงตรุษจีนไม่ทัน และคาดว่าภาพรวมจะลดลง 20-30% ส่วนตลาดกรุ๊ปทัวร์ลดลง 50%"
นายวิชิต ยังคาดการณ์ด้วยว่า ในเดือนมกราคมนี้จะมีชาวจีนเที่ยวไทยเพียง 3.5-4 แสนคนต่อเดือน จากปกติ 4.5-5 แสนคนต่อเดือน ส่วนหนึ่งมาจากจำนวนเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) ที่ลดลง จากปกติช่วงตรุษจีนจะมีบินเข้าไทยกว่า 300 เที่ยวบิน ในจำนวนนี้จะลงกรุงเทพฯ 50% ที่เหลือบินเข้าเชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย ก็ลดลงเหลือ 200 เที่ยวบิน อย่างไรก็ตาม บริษัททัวร์จีนก็จะต้องเร่งทำตลาดเพื่อกระตุ้นให้ชาวจีนมาเที่ยวไทยช่วง เทศกาลสงกรานต์ เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปช่วงต้นปี 2557
"การเมือง เป็นปัจจัยลบที่ธุรกิจท่องเที่ยวกังวลมากที่สุด ส่วนปัจจัยบวกคือ เศรษฐกิจจีนยังคงขยายตัวดี คาดการณ์จีดีพีเติบโตราว 7.5% นอกจากนี้ยังได้อานิสงส์ต่อเนื่องจากความตึงเครียดบนคาบสมุทรระหว่างจีนกับ ญี่ปุ่น ทำให้นักท่องเที่ยวจีนไม่เดินทางไปญี่ปุ่น และเลือกมาไทยมากขึ้น"
ด้าน นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ช่วงไตรมาส 4 ปี 2556 แม้ยอดนักท่องเที่ยวจีนจะตกลงไปบ้าง แต่คิดว่าในปี 2557 จะรักษาฐานตลาดชาวจีนเที่ยวไทยประมาณ 4.7 ล้านคน เท่ากับตัวเลขปี 2556 สำหรับช่วงตรุษจีนซึ่งปกติจะมีชาวจีนมาเที่ยวไทยจำนวนมาก ยอมรับว่าปีนี้จะไม่มากเหมือนปีที่ผ่านๆ มา หากปัญหาความขัดแย้งจบลงได้เร็ว ก็มีความเป็นไปได้มากที่ยอดการจองทัวร์และชาร์เตอร์ไฟลต์จะเพิ่มขึ้น เพราะพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนมีการตัดสินใจจองทัวร์อย่างรวดเร็ว สาเหตุที่นักท่องเที่ยวช่วงตรุษจีนชะลอตัวส่วนหนึ่งเป็นเพราะกฎหมายท่องเที่ยวฉบับ ใหม่ของจีน ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับราคาขายแพ็กเกจทัวร์แพงขึ้น ประกอบกับไทยมีปัญหาการเมืองซ้ำเข้ามาอีก นักท่องเที่ยวจีนจึงระมัด ระวังเรื่องการเดินทาง บริษัททัวร์เองก็ไม่กล้าส่งเสริมให้เดินทางมาไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯที่เป็นเดสติเนชั่นหลัก และทำได้เพียงการปรับแผนโยกโปรแกรมนำเที่ยวไปที่อื่นแทน เช่น ภูเก็ต กระบี่ สมุย เกาะช้าง เกาะเสม็ด และเชียงใหม่
"คงต้องจับตาดูว่าวันที่ 13 มกราคมนี้ การชัตดาวน์กรุงเทพฯจะออกมาอย่างไร และรอมอนิเตอร์สถานการณ์อีก 2-3 วัน คาดว่าวันที่ 15 มกราคมนี้จะเห็นภาพชัดเจนว่าจะมียอดจองทัวร์ช่วงตรุษจีนจากชาวจีนเข้ามาหรือ ไม่ มากน้อยแค่ไหน"
ด้านนายปรัชญา สมะลาภา ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก ระบุว่า ขณะนี้กลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนและรัสเซียหายไปจาก พื้นที่เมืองพัทยากว่า 25% เนื่องจากความกังวลถึงความไม่ปลอดภัยจากสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น นับเป็นผลกระทบกับภาคการท่องเที่ยวในภาคตะวันออกอย่างต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้เกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่วที่จังหวัดระยองเมื่อปลายปีที่ ผ่านมา
"แม้จะออกโปรโมชั่น ลดราคาค่าห้องพัก ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มาก เพราะปัญหาขณะนี้เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความปลอดภัย ภาคธุรกิจและเอกชนก็ต้องรับสภาพ"
นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า เมืองพัทยาจะร่วมกับภาคธุรกิจท่องเที่ยวในเมืองพัทยาเพื่อกระตุ้นการท่อง เที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากปัญหาการเมืองเริ่มส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเมืองพัทยามากขึ้น เรื่อย ๆ โดยจะเน้นการประชาสัมพันธ์เพื่อให้นักท่องเที่ยวรับทราบถึงข้อเท็จจริงว่า เมืองพัทยายังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีความปลอดภัย
ด้าน นายพงศธร เกษสำลี รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ กล่าวว่า ตลาดจีนเริ่มจากตลาดนักท่องเที่ยวทั่วไป (แมส) ททท.ได้พยายามพัฒนาเป็นตลาดคุณภาพเพื่อเพิ่มยอดใช้จ่ายต่อคน โดยหามิติเชื่อมโยงทำการตลาดใหม่ ๆ กับเมืองต่าง ๆ ทั้งนี้คาดว่าจะมีคนจีนมาเที่ยวไทยปี 2557 เพิ่มเป็น 5.12 ล้านคน เติบโต 15% จากปี 2556 ที่คาดว่าปิดที่ 4.46 ล้านคน ส่วนรายได้คาดโต 22% จากปี 2556 ซึ่งน่าจะปิดที่ 1.76 แสนล้านบาท
ขณะที่นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก ททท. กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อแก้ปัญหาผลกระทบระยะสั้นของตลาดทัวร์จีน หลังรัฐบาลจีนออกกฎหมายท่องเที่ยวใหม่เมื่อตุลาคมที่ผ่านมาว่า ททท.ก็จะเน้นการทำตลาดแบบบิสซิเนสทูคอนซูเมอร์ (บีทูซี) หรือกระตุ้นดีมานด์ของนักท่องเที่ยวโดยตรง ขณะเดียวกันก็จะสนับสนุนให้บริษัททัวร์ติดต่อนักท่องเที่ยวผ่านช่องทางออ นไลน์มากขึ้น ซึ่ง ททท.เองจะให้ 5 สำนักงานในจีน และอีก 3 สำนักงานในญี่ปุ่น ร่วมกันจัดแคมเปญการตลาดร่วมกัน เพื่อทำตลาดและสื่อสารไปในทิศทางเดียวกัน โดยในตลาดจีนจะรุกกลุ่มคู่แต่งงาน ฮันนีมูน และกลุ่มกอล์ฟ ขณะที่ญี่ปุ่นจะเจาะกลุ่มพำนักในไทยเป็นเวลานานหรือลองสเตย์