พม่าจ่ายก๊าซธรรมชาติให้ไทยตามปกติแล้ว
นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า วานนี้ (13 ม.ค.) เวลา 18.00 น. สหภาพเมียนมาร์สามารถจ่ายก๊าซธรรมชาติได้ตามปกติ ทำให้โรงไฟฟ้าฝั่งตะวันตกที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนราชบุรี โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมราชบุรี โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมราชบุรีเพาเวอร์ โรงไฟฟ้าไตรเอ็นเนอร์ยี่ สามารถกลับมาใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้า และคาดว่าโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมพระนครเหนือชุดที่ 1 และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมพระนครใต้ ชุดที่ 3 จะสามารถใช้ก๊าซตะวันตกได้ไม่เกิน 20.00 น.ของวันนี้(14 ม.ค.) ซึ่งตลอดช่วงระยะเวลาที่สหภาพเมียนมาร์หยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติเพื่อซ่อมบำรุงตามแผนงาน ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค. 56 - 14 ม.ค. 57 กฟผ. ได้บริหารจัดการและสามารถดำเนินการผลิตกระแสไฟฟ้าและจ่ายไฟได้ตามปกติ ไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในระบบไฟฟ้า และประชาชนยังคงมีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ ซึ่งในช่วงระยะเวลาดังกล่าว กฟผ.ได้มีการบริหารจัดการปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติเป็นน้ำมันเตาและน้ำมันดีเซลแทน โดยใช้น้ำมันเตา จำนวน 67 ล้านลิตร และน้ำมันดีเซล จำนวน 12 ล้านลิตร ขณะเดียวกัน กฟผ. ก็ได้มีการตั้งศูนย์เฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาการหยุดจ่ายก๊าซดังกล่าว
ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวต่อไปว่า แม้ว่า กฟผ. จะสามารถบริหารจัดการด้านการใช้เชื้อเพลิงได้ ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน แต่ปัจจุบันมีการใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้า ถึงร้อยละ 70 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มาก จึงมีความเสี่ยงแต่หากมีการกระจายสัดส่วนเชื้อเพลิงที่เหมาะสม จะสามารถสร้างความมั่นคงระบบไฟฟ้าได้ในระยะยาว