Daily View - บล.กสิกรไทย

Daily View - บล.กสิกรไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Happy New Year 2012 วาระดิถีขึ้นปีใหม่ ทีมงานฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างยิ่งที่ติดตามผลงานกันมาโดยตลอด เราสัญญาว่าจะพัฒนาผลงานให้ดีขึ้นในปีใหม่ที่จะมาถึง พร้อมกันนี้ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก อำนวยพรแด่ท่านและครอบครัวให้ประสบความสุขมีสุขภาพแข็งแรง ประสบความสำเร็จในทุกด้าน คิดสิ่งใดขอให้สมตามความปรารถนา อิตาลีประสบความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรอายุ 10 ปี ด้วยผลตอบแทนที่ลดลงมาที่ 6.98% ลดลงจากการประมูลในเดือนที่แล้วที่ 7.56% ขณะที่สหรัฐฯ ก็ยังคงรายงานตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี อย่างไรก็ตาม การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของอิตาลี ยังคงเคลื่อนไหวใกล้กับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นั้น ทำให้เรายังคงกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาลอิตาลี เมื่อพิจารณาจากเมื่อครั้งที่กรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส ต้องยื่นขอความช่วยเหลือด้านการเงินหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ของประเทศเหล่านี้ พุ่งขึ้นเหนือระดับ 7% โดยเฉพาะยังคงมีมูลหนี้มหาศาลที่จะต้องประมูลไม่ใช่จากเฉพาะอิตาลี หรือสเปน แต่รวมถึงธนาคารกลางยุโรปที่ต้องประมูลแข่งด้วย ดังนั้นเรายังคาด SET Index มีโอกาสปรับฐานในช่วงต้นปี 2555 แม้ว่าอาจมีดีดตัวกลับได้บ้างในช่วงวันสุดท้ายของปี จากความคาดหวังเรื่อง window dressing หรือช่วงสัปดาห์แรกของปีหน้า จากความคาดหวังว่าต่างชาติอาจกลับเข้ามาซื้อ หลังจากขายมาตลอดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา กลยุทธ์การลงทุน: นักลงทุนใช้จังหวะดีดตัวของ SET Index ปลายเดือน ธ.ค และช่วงต้นเดือนม.ค. ในการลดพอร์ต เน้นทำกำไรไม่ว่า SET Index ขึ้นทดสอบถึง 1050 จุดไม่ก็ตามการเข้าเก็งกำไรสั้นเน้น “ลงซื้อ-ขึ้นขาย” แต่นั้นเป็นเพียงการเก็งกำไรเท่านั้น โดยเน้นไปที่ หุ้นกลุ่มธนาคาร KTB SCB BBL KK เป็นต้น รวมถึงหุ้นที่มี theme ในการลงทุน เช่น KSL CPF HMPRO TPC BCP เป็นต้น สำหรับนักลงทุนระยะกลางที่ลดพอร์ตทำกำไรไปแล้ว ให้ Wait and See และรอสัญญาณกลับเข้าไปซื้อใหม่ ซึ่งเราคาดว่าช่วงม.ค.-ก.พ.55 ตลาดจะมีการปรับตัวลงส่วนนักลงทุนที่มีต้นทุนสูงและยังไม่ได้ลดพอร์ต ใช้จังหวะนี้ลดพอร์ต ส่วนพอร์ตที่ยังมีอยู่เน้น switch พอร์ตมาหาหุ้นปันผลก่อน โดยเราค่อนข้างชอบ TTW, BAFS, CPF, KK, INTUCH, EGCO, MAKRO เป็นต้น   ปัจจัยสำคัญวันก่อนหน้า - US: จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 15,000 ราย มาอยู่ที่ 381,000 รายซึ่งแม้ว่าเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ แต่ตัวเลขดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าระดับ 400,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันแล้ว - US: pending home sales เดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 7.3% ในเดือนพ.ย. สู่ระดับ 100.1 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 19 เดือนและมากกว่าที่คาดที่ 2.0% - US: Chicago PMI เดือนธ.ค. ลดลงมาที่ 62.5 จาก 62.6 ในเดื่อนก่อนหน้า แต่ก็ดีกว่าที่คาดที่ 60.1 - EU: อิตาลีสามารถระดมทุนจากการประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปีได้ 7 พันล้านยูโรสอดคล้องกับกรอบการคาดการณ์ที่ 5-8.5 พันล้านยูโร โดยให้อัตราผลตอบแทน 6.98%ลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.56% ในการประมูลเมื่อช่วงปลายเดือนพ.ย.   ปัจจัยสำคัญวันนี้ - China: HSBC Manufacturing PMI - US: Chicago PMI - ธปท. และกระทรวงการคลังประชุมหาทางออกในการโอนหนี้กองทุนฯ   ปัจจัยสำคัญในช่วงต้นสัปดาห์หน้า - China: PMI Manufacturing วันที่ 1 ม.ค. - EU: PMI Manufacturing วันที่ 2 ม.ค. - US: New Year’s Day Observed (All Markets Closed) วันที่ 2 ม.ค. - China: Non-manufacturing PMI วันที่ 3 ม.ค. - US: ISM Mfg Index, Construction Spending, FOMC Minutes วันที่ 3 ม.ค. - EU: PMI Service วันที่ 4 ม.ค. - US: Motor Vehicle Sales, Factory Orders วันที่ 4 ม.ค.   สรุปตลาดต่างประเทศ: DJIA+135.63/+1.12%     S&P+13.38/+1.07%       NASDAQ+23.76/+0.92% FTSE+59.37/+1.08%      CAC+56.48/+1.84%       DAX+77.51/+1.34% ตลาดหุ้นโลกปรับตัวขึ้น เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง อาทิ จำนวนคนว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ที่ปรับตัวลดลง และยอดการทำสัญญาขายบ้านที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ย.ประกอบกับปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า อิตาลีสามารถประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปีได้ใกล้เคียงกับเป้าหมาย   สรุปตลาด Commodity: Oil USD99.65/bbl/+0.29     Gold USD1,540.9/Once-23.2 สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าอิหร่านจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงน้ำมันที่สำคัญ แม้ EIA จะรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่สูงเกินคาดก็ตาม ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเนื่องจากความกังวลต่อวิกฤตหนี้ยุโรปยังคงกดดันให้สัญาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง   ECONOMICS & POLITICS - บอร์ดบีโอไอเคาะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเฉพาะ 668 รายเว้นภาษีต่อให้เป็น 8 ปี รัฐยอมสูญรายได้1.2 หมื่นล้าน ส่วนอีก 800 โรงงาน ให้คลังตัดสินใจ - ในวันนี้รองนายกฯ กิติรัตน์ เรียกระทรวงการคลังและธปท. ประชุมหาข้อสรุป เรื่อง การโอนหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำนวน 1.14 ล้านล้านบาทจากกระทรวงการคลัง ไปให้ ธปท.ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ดำเนินการ เล็งกันทุนสำรองฯ 9 แสนล้านบาท หวังนำผลกำไรทยอยจ่ายหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ภายใน 30 ปี พร้อมให้ทยอยออกพันธบัตรไถ่ถอนหนี้เดิมของคลังที่จะครบกำหนดชำระปีหน้าอีก 3 แสนล้านบาท - ระบบเตือนภัยด้านแรงงานกระทรวงแรงงาน พบว่าสัญญาณแจ้งเตือนการจ้างงานเริ่มมีภาวะไม่น่าไว้วางใจ และต้องเฝ้าระวังในระยะเริ่มต้น เนื่องจากเดือน ต.ค. มีดัชนีชี้นำเศรษฐกิจการแรงงานติดลบ 5 ตัว จากทั้งหมด 13 ตัว จากเดิมตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย. ไม่มีดัชนีตัวใดส่งสัญญาณเตือนภัยเลย - นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้ลงนามในร่างพระราชกำหนดให้ ธปท.ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟต์โลน วงเงิน 3 แสนล้านบาท เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) หลังปีใหม่ทันที - 1 ม.ค.55 ขึ้นเงินเดือนขรก.ปรับรายได้ขั้นต่ำ 1.5 หมื่นบาทรวมลูกจ้างรัฐที่จบปริญญาตรี - ก.ล.ต.ตั้งเป้าปีหน้า กองทุนโครงสร้างพื้นฐานระดมทุนมูลค่า 3-4 หมื่นล้านบาท ผ่าน 10 โครงการนำร่องด้วยโรงไฟฟ้า 2 แห่ง พลังงานทางเลือก และโครงการระบบน้ำ เผยกำลังเจรจาดึงท่าเรือของรัฐวิสาหกิจเข้ามาระดมทุน   ประเด็นการเมือง - ประธานศาลรัฐธรรมนูญค้านแก้ \"ม.112\" ระบุหากทำจริงไทยจะเป็นประเทศแรก ที่มีกฎหมายคุ้มครองประมุข หรือผู้แทนรัฐต่างประเทศ แต่กลับไม่คุ้มครองประมุขประเทศ - \"ไทย-กัมพูชา\" หารือราบรื่นเร่งรัดเจรจาตกลงพื้นที่ทับซ้อนปิโตรเลียม \"พิชัย\" เผยกัมพูชาต้องการให้จบภายใน 1 ปีครึ่ง ขณะที่กลุ่มปตท.พร้อมเข้าลงทุนโรงแยกก๊าซฯ ปิโตรเคมี - \"กรณ์\"ค้านแผนซุกหนี้กองทุนฟื้นฟู 1.14 ล้านล้านที่แบงก์ชาติ จี้ \"ธีระชัย\"ขวาง หากทำไม่สำเร็จก็ควรลาออกไป - เอแบคโพลล์ เผยผลสำรวจประชาชน 36.2% เห็นว่า การปราบปรามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด เป็นผลงานยอดเยี่ยมของรัฐบาล ที่สาธารณชนชื่นชอบมากที่สุด ขณะที่ 38.1% ระบุผลงานยอดแย่ของรัฐบาลชุดนี้ คือ การแก้ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาการทุจริตถุงยังชีพ ช่วยเหลือไม่ทั่วถึง เลือกปฏิบัติ   INDUSTRY NEWS - ธนาคาร: นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.อยู่ระหว่างติดตามมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมที่เป็นลูกหนี้ของสถาบันการเงินว่า จะทำให้ผู้ประกอบการฟื้นตัวได้เร็วแค่ไหน เพราะหากลูกหนี้ไม่สามารถฟื้นตัวและชำระหนี้ได้ภายในเวลาที่ธปท.ผ่อนผันออกไปจนถึง มิ.ย.55 อาจส่งผลให้เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพิ่มมากขึ้น - ธนาคาร: ธปท. ประเมินแนวโน้มการแข่งขันธุรกิจสถาบันการเงินรุนแรงขึ้น หลังพบสัญญาณการออกผลิตภัณฑ์การเงินใหม่ๆ จากแบงก์ขนาดกลางเพิ่มขึ้น คาดกระบวนการปรับทัพหลังควบรวมกิจการของหลายแห่งจบแล้วคงเห็นการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ต่อเนื่อง แต่การแย่งชิงมาร์เก็ตแชร์จากแบงก์ใหญ่ไม่ง่าย พร้อมขู่เปิดไลเซ่นส์ให้แบงก์นอกที่สนใจธุรกิจ ไมโครไฟแนนซ์ หากผู้ประกอบการรายปัจจุบันยังเมินตลาดนี้   EXTERNAL FACTOR - DJIA ปิดบวก 135.63 จุด หรือ 1.12% ปิดที่ 12,287.04 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 13.38 จุด หรือ 1.07% ปิดที่ 1,263.02 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 23.76 จุด หรือ 0.92% ปิดที่ 2,613.74 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ทั้งในด้านตลาดแรงงานและตลาดที่อยู่อาศัยโดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ร่วงลง 5,750 ราย สู่ระดับ 375,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ของวันที่ 7 มิ.ย.2551 ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ธ.ค. เพิ่มขึ้น 15,000 ราย มาอยู่ที่ 381,000 ราย ซึ่งแม้ว่าเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ แต่ตัวเลขดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าระดับ 400,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นสัญญาณบวกที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงกำลังฟื้นตัวขึ้น ทั้งนี้ตลาดหุ้นสหรัฐได้แรงหนุนมากขึ้นเมื่อสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย(pending home sales) เดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 7.3% ในเดือนพ.ย. สู่ระดับ 100.1 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 19 เดือนและมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดทำสัญญาขายบ้านจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.0% ในเดือนพ.ย.นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า อิตาลีสามารถระดมทุนจากการประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปี ได้ 7 พันล้านยูโร (9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งนับว่าสอดคล้องกับกรอบการคาดการณ์ที่วางไว้ที่ 5-8.5 พันล้านยูโร โดยให้อัตราผลตอบแทน 6.98% ลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.56% ในการประมูลเมื่อช่วงปลายเดือนพ.ย. อย่างไรก็ตามการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ยังคงเคลื่อนไหวใกล้กับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นั้น ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาลอิตาลี เมื่อพิจารณาจากเมื่อครั้งที่กรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส ต้องยื่นขอความช่วยเหลือด้านการเงินหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ของประเทศเหล่านี้ พุ่งขึ้นเหนือระดับ 7% ปิดตลาดหุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้น โดยหุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค, หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และหุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้นกว่า 2.3% ส่วนหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านพุ่งขึ้นขานรับรายงานยอดทำสัญญาขายบ้านที่พุ่งขึ้นเกินคาดของสหรัฐ โดยหุ้นเอ็ม/ไอ โฮมส์ อิงค์และหุ้นเคบี โฮม พุ่งขึ้นกว่า 6% - ราคาน้ำมัน NYMEX ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น USD0.29/bbl หรือ 0.29% อยู่ที่ระดับ USD99.65/bbl เนื่องจากได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า อิหร่านอาจจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงน้ำมันที่สำคัญหากอิหร่านถูกคว่ำบาตรในระดับที่รุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานพลังงานในสหรัฐ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว - สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง USD23.2 หรือ 1.5% อยู่ที่ระดับ USD1,540.9 เป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 6 วันทำการ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำ นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาทองคำร่วงลงด้วย - ดัชนีค่าระวางเรือ ปิดที่ 1,738 (ไม่มีรายงานตัวเลขในวันที่ 29 ธ.ค.) - คณะรัฐมนตรีอิตาลีภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติ ประกาศใช้มาตรการรัดเข็มขัด\"ระยะที่ 2\" โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้มาตรการดังกล่าวยังมุ่งเน้นไปที่ตลาดแรงงานและกระตุ้นการจ้างงาน โดยเฉพาะการจ้างงานเยาวชนและธุรกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัว เช่นบริษัทเวชภัณฑ์ และบริการรถแท็กซี่ - ตลาดหุ้นจีน-ฮ่องกง แซงวอลล์สตรีท-แนสแด็ค เปิดค้าหุ้นตัวใหม่ประจำปี 2554 ด้วยมูลค่าราคาเสนอขายครั้งแรกแก่คนทั่วไป 73,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งๆ ที่ดัชนีราคาหุ้นหลักของตลาดตกต่ำ   ALTERNATIVE INVESTMENT STRATEGY สุชีล นารูลา (susheel.n@kasikornsecurities.com; Tel +662 696-0021)   Gold Futures: ถือ GFG12 เพื่อรอจัหวะขึ้นต่อ โดยใช้ 23,300 เป็น Stop loss จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ราคาทองโลก (RTXGL) หลุดแนวรับที่ $1,560 ลงมาแล้ว โดยมีแนวรับต่อไปที่ $1,543 และ/หรือ $1,508-1,500 อย่างไรก็ตามควรรีบาวด์ให้ผ่าน $1,600 และ $1,618-1,620 สถานการณ์จึงจะดูดีขึ้นขณะที่แนวโน้มระยะกลางถึงยาวยังอยู่ในทิศทางซิกแซกขึ้นต่อ สำหรับ Gold Futures (GFG12) ทาง Technical แกว่งลงมาตามราคาทองโลก และหลุด 23,370 ลงมาแล้ว โดยมีโอกาสถอยลงมาทดสอบแนวรับที่ 22,500 ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 23,500 และ 23,860 เรายังคงคำแนะนำให้ถือ Long ใน GFG12 เพื่อรอจังหวะขึ้นต่อ โดยใช้ 23,300 เป็น Stop loss   SET50 Futures: เราแนะนำ 2 กลยุทธ์ จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค คือ S50H12 กำลังตั้งหลักที่แนวรับ โดยถ้าสามารถรีบาวด์กลับขึ้นมาจะมีแนวต้านที่ 726-727 และ 730-731 แต่ถ้าหลุดแนวรับที่ 714-713 ลงมา มีโอกาสลงมาทดสอบบริเวณ 704-703 หรือต่ำกว่านั้นที่ 695-694 สถานการณ์ปัจจุบันตลาดอยู่ในลักษณะ Hi-risk-hi-return สำหรับกลยุทธ์ช่วงนี้แนะนำให้ทำในวงเงินจำกัด กลยุทธ์การลงทุน : 1) กรณี Long แนะนำให้เปิดสถานะ Long ใน S50H12 ถ้าตลาดเพื่อนบ้านเปิดบวกและตั้งหลักกลับขึ้นมาได้ และให้เพิ่มพอร์ตเมื่อ S50H12 ทะลุ 726-727 ขึ้นมา โดยใช้ 713 เป็น Stop loss 2) กรณี Short แนะนำให้รอดูจังหวะ และสามารถเปิด Short ได้ ถ้า S50H12 หลุด 713 ลงมา และสามารถเพิ่มพอร์ตได้ถ้าหลุด 703 ลงมา โดยใช้ 714 เป็น Stop loss (S50H12 มีแนวต้าน 726-727, 730-731 และ 738 แนวรับ 714-713, 704-703 และ 695-694)   MARKET EVENT Thai Event - 30/12/11 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือน   World Event - 30/12/11 China: HSBC Manufacturing PMI - 30/12/11 US: Chicago PMI - 01/01/12 China: PMI Manufacturing* - 02/01/12 EU: PMI Manufacturing* - 02/01/12 US: New Year’s Day Observed (All Markets Closed) - 03/01/12 China: Non-manufacturing PMI - 03/01/12 US: ISM Mfg Index* - 03/01/12 US: Construction Spending - 03/01/12 US: FOMC Minutes* - 04/01/12 EU: PMI Service* - 04/01/12 US: Motor Vehicle Sales - 04/01/12 US: Factory Orders - 05/01/12 EU: Industrial New Orders* - 05/01/12 EU: PPI - 05/01/12 US: ADP Employment Report - 05/01/12 US: Jobless Claims* - 05/01/12 US: ISM Non-Mfg Index - 06/01/12 EU: Consumer Confidence* - 06/01/12 EU: Retail Sales* - 06/01/12 EU: Unemployment Rate* - 06/01/12 US: Employment Situation* *Markets will pay more attention to these figures   กวี ชูกิจเกษม Kavee.c@kasikornsecurities.com, +662 696-0030 กิจพล ไพรไพศาลกิจ Kitpon.p@kasikornsecurities.com +662 696-0057 ปณิธิ จิตรีโภชน์ Paniti.j@kasikornsecurities.com, +662 696-0053   โดย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ประจำวันที่ 30 ธ.ค. 2554

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook