'สบายดี ปากเซ'ท้าชนกาแฟถุง กาแฟโบราณจากลาว ใส่แก้วยักษ์
ในปัจจุบันพื้นที่เมือง“ปากซอง”ประเทศลาว กลายเป็นแหล่งปลูกกาแฟเกรดดี หลากหลายสายพันธุ์จากทั่วโลก อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองกาแฟ “Coffee Town”ของ สปป.ลาว ทำให้กาแฟลาวกลายเป็นสินค้าส่งออกที่มีชื่อเสียงของประเทศ โดยมีตลาดหลักคือ ฝรั่งเศส เวียดนาม และนักธุรกิจไทยหลายแบรนด์นำเมล็ดกาแฟจากลาว มาทำเป็นจุดขายทางสร้างธุรกิจ “สบายดี ปากเซ”
"สบายดี ปากเซ"กาแฟโบราณแก้วยักษ์ ท้าชนกับตลาดกาแฟในสไตล์ถุงกระดาษที่กำลังได้รับความนิยมในตลาดล่าง โชว์จุดเด่นที่การควบคุมรสชาติให้เข้มข้น อร่อยคงที่คุมคุณภาพทุกๆ สาขา โดยวิธีการชงสำเร็จ รูปแบบการขายเพียงนำไปผสมน้ำแข็ง ส่งความอร่อยต่อผู้บริโภค พร้อมขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์
คุณอัครพัชส์-คุณณัฐภัสสร ศิริพลพงศ์ ผู้บริหารธุรกิจในนาม ห้างหุ้นส่วนจำกัด พงศ์ลภัส ร่วมกันให้ข้อมูลว่า กาแฟลาวสายพันธุ์อาราบิก้าที่ปลูกในบริเวณนี้ มีรสชาติหอม อร่อย เป็นที่ประทับใจของคอกาแฟทั่วโลก ที่ผ่านมาเคยมีผู้ส่งกาแฟลาวเข้าประกวดประชันรสชาติกาแฟในเวทีระดับโลกมาแล้ว ปรากฏว่า กาแฟลาวติดโผ 1 ใน 3 ของกาแฟที่มีรสชาติดีเยี่ยมของโลกมาแล้ว
สบายดี ปากเซ เป็นกาแฟโบราณที่สั่งตรงมาจากประเทศลาว รสชาติต้นตำรับ แหล่งปลูกอยู่ที่ปากซองประเทศลาวและมีโรงงานคั่วบดอยู่ที่เมืองปากเซ โดยเลือกใช้พันธุ์อาราบิก้าคัดพิเศษ สั่งกาแฟคั่วบด สดใหม่ทุกวันเพื่อทำให้กาแฟมีรสชาติที่ดีและหอม อีกทั้งการเคี่ยวกาแฟจนได้ที่ มีความเหนียวหนึบซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของกาแฟปากเซก็ว่าได้ ทำให้มั่นใจได้ว่ารสชาติเครื่องดื่มของสบายดี ปากเซ อร่อยถูกปากคนไทยแน่นอน
เครื่องดื่มสบายดี ปากเซ มีให้เลือกหลากหลายไซส์ และหลายระดับความเข้มข้น ได้แก่ ยักษ์กลม (เป็นกาแฟรสกลมกล่อม) ยักษ์เข้ม (กาแฟรสเข้มข้น) ยักษ์เขียว (ชาเขียว) ยักษ์ส้ม (ชานม) ยักษ์โอ (โอวัลติน) ยักษ์โก้ (โกโก้โบราณ) ทุกๆ เมนู ให้รสชาติอร่อย กลมกล่อม หอม หวาน มัน ราคาแก้วยักษ์ ขนาด 22 ออนซ์ ราคา 30 บาท และขนาด 32 ออนซ์ 40 บาท ส่วนต่างผลกำไรประมาณ 100%
สำหรับรายละเอียดการลงทุนแฟรนไชส์เริ่มต้นที่ 11,900 บาท สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับ 1.ชงชิม ยักษ์เล็ก 100 แก้ว 2.ชุดขาย ยักษ์ใหญ่ 100 แก้ว 3.อุปกรณ์ขายทั้งหมดยกเว้น เคาน์เตอร์กาแฟ 4.ป้ายธง 5.มาสคอต ยักษ์ยืนถือแก้วกาแฟ 6.ป้ายเมนู กระดานดำ 7.ยูนิฟอร์มขาย ประกอบด้วย เสื้อ 2 ตัว ผ้ากันเปื้อน 1 ตัว ผ้าพันคอ 1 ผืน นอกจากนี้ยังมีงบการลงทุนในรูปแบบคีออสก์ ลงทุน 39,900 บาท รูปแบบร้าน (Shop) ลงทุน 49,900 บาท
ทั้งนี้ ในส่วนของวัตถุดิบหลักที่ทางแฟรนไชซีต้องสั่งซื้อกับทางแบรนด์ได้แก่ 1.กาแฟ ลิตรละ 180 บาท 2.ชานม ชาเขียว โกโก้ โอวัลติน ลิตรละ 150 บาท ยกตัวอย่างสัดส่วนของวัตถุดิบ 1.กาแฟ 4 ลิตร ถ้าเป็นแก้วใหญ่สามารถชงได้ 50 แก้ว
“แม้จะเป็นเครื่องดื่มในรูปแบบชงสำเร็จ แต่ก็สามารถเก็บไว้ได้นาน เนื่องจากเราได้คัดเลือกเมล็ดกาแฟที่ดีมีคุณภาพจริงๆ หากเก็บในอุณหภูมิปกติจะอยู่ได้นาน 7 วัน หรือหากเก็บไว้ในตู้เย็นจะอยู่ในนาน 30 วัน ทั้งนี้ไม่ว่าจะเมื่อเก็บไว้นานเพียงใด รสชาติก็จะยังคงความเข้มข้นเหมือนเดิม แต่ถ้าอยากให้กาแฟหอมเหมือนเพิ่งชงใหม่ ก็นำกาแฟไปอุ่นด้วยไฟอ่อนได้ หากนักลงทุนท่านใดต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ 08-4600-2878, 08-6263-1444 สาขาต้นแบบของแบรนด์เราอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี” คุณอัครพัชส์กล่าว
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ