ยอดขาย"เครื่องไฟฟ้า"วูบตามม็อบ รออีก2เดือนค่อยทบทวนแผนผลิต

นายกฤษดา ทรัพย์ทวยชน เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้น ทำให้ยอดขายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ภายในประเทศลดลงมากกว่า 10% ส่วนใหญ่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน รวมทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าในส่วนของหม้อแปลงไฟฟ้า โคมไฟฟ้าส่องถนน และสายไฟฟ้า เนื่องจากการปิดหน่วยงานภาครัฐ ทำให้โครงการที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐชะลอตัวลงไปด้วย 

ขณะที่ตลาดส่งออกยังไม่ได้รับผลกระทบจึงมียอดส่งออกที่ดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีแบรนด์ และผลิตสินค้าเอง ส่วนกลุ่มที่รับจ้างผลิต ยอดส่งออกยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เพราะเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว แต่มีความเสี่ยงหากความวุ่นวายภายในประเทศยืดเยื้อ หรือรุนแรงขึ้น จะทำให้ผู้สั่งซื้อกังวลใจ และหันไปซื้อจากประเทศอื่นแทน

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประกอบการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าฯ จะรอดูสถานการณ์ไปอีก 1-2 เดือน จึงจะประเมินว่าจะต้องปรับแผนการผลิตหรือไม่ แต่ในส่วนของภาพรวมแล้วคาดว่าในปีนี้อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าฯจะขยายตัว 3-4% และภายในเดือนมีนาคมนี้ จะประชุมหารือว่าจะปรับเป้าหมายในปี 2557 หรือไม่ แต่ในความเห็นส่วนตัวคาดว่าอาจต้องปรับอัตราการเติบโตลงเล็กน้อย 

"ยอดขายในไตรมาส 1 คาดว่าจะต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1-2% และในไตรมาส 3-4 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นมากตามความต้องการของตลาด ซึ่งทุกปีจะมียอดขายมากในช่วงนี้ รวมทั้งยังได้รับแรงหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา" นายกฤษดากล่าว 

นางจินตนา ศิริสันธนะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบจากปัญหาการเมืองได้ เพราะเป็นช่วงฤดูหนาวที่ยอดขายเครื่องปรับอากาศชะลออยู่แล้ว ต้องรอดูเดือนมีนาคม-เมษายนก่อน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลจากยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าลดลงทำให้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) มีแผนแก้ปัญหา คือนำสินค้าไปขายตลาดชายแดนมากขึ้น